ตั้งค่าประเภทไฟล์การโอนข้อมูล

ใช้ได้เฉพาะใน Google Ad Manager 360 เท่านั้น

หลังจากเปิดใช้การโอนข้อมูลแล้ว คุณจะตั้งค่าประเภทไฟล์สำหรับรายงานได้ 

หากเป็นผู้ดูแลระบบ คุณสามารถอัปเดตการตั้งค่าการแสดงโฆษณาได้ดังนี้

• เพิ่ม นำออก และอัปเดตประเภทไฟล์สำหรับรายงานการโอนข้อมูล
• เลือกรูปแบบเอาต์พุตสำหรับไฟล์แต่ละประเภท
• เพิ่ม นำออก และเรียงลำดับช่องใหม่ในไฟล์การโอนข้อมูล

คุณสามารถตั้งค่าประเภทไฟล์การโอนข้อมูลเป็น "ใช้งานอยู่" หรือ "ไม่ได้ใช้งาน" โดยประเภทไฟล์ที่ตั้งค่าเป็นใช้งานอยู่จะรวมอยู่ในรายงาน การเรียกเก็บเงินจะขึ้นอยู่กับจำนวนของประเภทไฟล์ที่ใช้งานอยู่ เมื่อคุณเพิ่มหรือนำประเภทไฟล์ออก การเรียกเก็บเงินจะอัปเดตโดยอัตโนมัติเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง 

ก่อนเริ่มต้น

• ต้องมีสิทธิ์ในบทบาทของผู้ใช้ "แก้ไขช่องการโอนข้อมูล" 
• คุณต้องเพิ่มประเภทไฟล์การโอนข้อมูลอย่างน้อย 1 ประเภทลงในเครือข่าย Ad Manager ดูวิธีเริ่มต้นใช้งานการโอนข้อมูล

จัดการประเภทไฟล์การโอนข้อมูล

ประเภทไฟล์ที่มีอยู่ทั้งหมดจะแสดงในการกำหนดค่าการโอนข้อมูล

1. ลงชื่อเข้าใช้ Google Ad Manager
2. คลิกผู้ดูแลระบบ แล้วคลิกการโอนข้อมูล
   
3. ในส่วน "รูปแบบเอาต์พุต" ให้ตรวจสอบสถานะสำหรับไฟล์แต่ละประเภท  
   • ใช้งานอยู่: รายงานการโอนข้อมูลจะมีรูปแบบเอาต์พุตสำหรับประเภทไฟล์
     การตั้งค่านี้เป็นค่าเริ่มต้น 
   • ไม่ได้ใช้งาน: รายงานการโอนข้อมูลจะไม่รวมรูปแบบเอาต์พุตสำหรับประเภทไฟล์
     หากไม่ต้องการให้ระบบเรียกเก็บเงินหรือสร้างไฟล์ สถานะควรแสดงเป็น "ไม่ได้ใช้งาน" สำหรับทั้ง 2 รูปแบบเอาต์พุต 

4. หากต้องการทําการเปลี่ยนแปลงไฟล์ ให้คลิกชื่อในส่วน "ประเภทเหตุการณ์"

5. หากต้องการเปลี่ยนสถานะเอาต์พุตของไฟล์ ให้เลือกตัวเลือกต่อไปนี้ในส่วน "รูปแบบเอาต์พุต"
   

   • หากต้องการเปิดใช้งานไฟล์ ให้เลือกช่องรูปแบบเอาต์พุตอย่างน้อย 1 รูปแบบ (CSV, Parquet) อย่าลืมบันทึกการเปลี่ยนแปลงเพื่อยืนยันการเปิดใช้งาน 

     หมายเหตุ: ระบบจะสร้างไฟล์ 1 ไฟล์ต่อรูปแบบเอาต์พุตที่เปิดใช้งาน หากต้องการดูไฟล์ ให้เลื่อนลงไปที่ "หน้าพื้นที่เก็บข้อมูลใน Google ที่มีไฟล์" แล้วจดบันทึกลิงก์ ระบบจะส่งไฟล์ของคุณไปที่นั่น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าถึงที่เก็บข้อมูลของ Ad Manager หลังจากเปิดใช้งานประเภทไฟล์แล้ว สถานะของประเภทไฟล์จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง (เพื่อให้สามารถสร้างไฟล์แรกได้) และระบบจะเรียกเก็บเงินสำหรับประเภทไฟล์นั้น

   • หากต้องการปิดใช้งานไฟล์ ให้ยกเลิกการเลือกช่องสำหรับรูปแบบเอาต์พุตทั้ง 2 รูปแบบ ซึ่งจะเป็นการปิดไฟล์และนำออกจากรอบการเรียกเก็บเงินถัดไป โปรดทราบว่าระบบจะเรียกเก็บเงินสำหรับไฟล์ดังกล่าวในรอบปัจจุบันซึ่งมีการใช้งานไฟล์อยู่

6. หากต้องการเพิ่มช่องการโอนข้อมูล ให้คลิกพิมพ์เพื่อค้นหาในส่วน "ช่อง" แล้วเลือกช่องในรายการอย่างน้อย 1 ช่อง โดยช่องต่างๆ จะแสดงในรายงานตามลำดับที่คุณเพิ่ม
   • หากต้องการนำช่องใดช่องหนึ่งออก ให้ยกเลิกการเลือกช่องในรายการ หรือคลิก ในชื่อช่อง 
   • หากต้องการเรียงลำดับช่องใหม่ ให้นำช่องที่ปรากฏทีหลังหรือช่องที่อยู่ทางขวาของช่องหนึ่งออก แล้วใส่ช่องดังกล่าวอีกครั้งในลำดับที่ถูกต้อง
7.  (เฉพาะไฟล์ CSV เท่านั้น) หากต้องการเลือกตัวคั่น ให้คลิก ในส่วน "ตัวคั่น" แล้วเลือกตัวคั่นที่ต้องการให้ปรากฏระหว่างค่าของช่องในไฟล์
   หมายเหตุ: ตัวคั่นเริ่มต้นคือคอมมา ( , ) หากอักขระที่คุณเลือกเป็นตัวคั่นปรากฏที่ข้อความในค่าของช่องในไฟล์การโอนข้อมูล ระบบจะนำอักขระดังกล่าวออก

   ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือกใช้คอมมา ( , ) เป็นตัวคั่น ระบบจะนำคอมมาออกจากค่าของช่อง "Catherine's Bakery, LLC" ตัวอย่างนี้จะเปลี่ยนเป็น "Catherine's Bakery LLC" ในไฟล์การโอนข้อมูล

8. หากต้องการบันทึกการเปลี่ยนแปลง ให้คลิกบันทึก แล้วคลิกบันทึกและดำเนินการต่อเพื่อยืนยัน

ฉันต้องรอนานเท่าใดก่อนที่ไฟล์จะแสดงการเปลี่ยนแปลง

การเปลี่ยนแปลงที่บันทึกจะปรากฏในไฟล์ของชั่วโมงถัดไป ตัวอย่างเช่น หากคุณอัปเดตการตั้งค่าการโอนข้อมูลเวลา 10:30 น. ไฟล์ของเวลา 11:00 น. และไฟล์ต่อมาทั้งหมดจะใช้การตั้งค่าที่อัปเดตแล้ว การประทับเวลาการสร้างไฟล์ทั้งหมดจะเป็นเขตเวลามาตรฐานแปซิฟิก (PST)

หากคุณนำช่องออก ข้อมูลของช่องนั้นจะไม่รวมอยู่ในไฟล์การโอนข้อมูลที่สร้างและนำส่งหลังจากนั้น คุณเพิ่มช่องอีกครั้งได้ แต่ไฟล์ที่นำส่งขณะที่ช่องถูกนำออกจะไม่มีข้อมูลของช่อง คุณจะเติมข้อมูลย้อนหลังลงในไฟล์ที่นำส่งก่อนหน้านี้ไม่ได้