ช่องที่กำหนดเอง

เก็บบันทึกอินพุตที่มีการปรับแต่งสำหรับรายงาน
บทบาทของผู้ใช้ต้องเป็น "ผู้ดูแลระบบ"  ต้องมีบทบาท "ผู้ดูแลระบบ" หรือบทบาทที่มีสิทธิ์คล้ายกันจึงจะกำหนดค่าเครือข่ายได้

คุณจะเก็บบันทึกข้อมูลที่มีการปรับแต่งได้ใน Ad Manager ด้วยการสร้างช่องที่กำหนดเองในที่ต่างๆ อย่างเช่นรายการโฆษณาหรือคำสั่งซื้อ ช่องที่กำหนดเองมีประโยชน์หากคุณต้องการให้คนในเครือข่าย Ad Manager ของคุณป้อนข้อมูลที่ไม่มีอยู่ใน Ad Manager โดยค่าเริ่มต้น จากนั้นข้อมูลนี้จะแสดงต่อผู้ใช้รายอื่นและรายงานได้ในภายหลัง

เช่น คุณอาจต้องการให้ผู้ดูแลการแสดงโฆษณาสร้างตัวระบุที่กำหนดเองซึ่งแสดงให้เห็นว่าทีมขายทีมใดทำงานกับรายการโฆษณาหนึ่งๆ จากนั้นคุณหรือบุคคลในองค์กรจะรายงานเกี่ยวกับค่าที่ระบุได้ในภายหลัง  ช่องที่กำหนดเองใช้ได้กับคำสั่งซื้อ รายการโฆษณา ครีเอทีฟโฆษณา ข้อเสนอ และรายการโฆษณาข้อเสนอ

ในการสร้างช่องที่กำหนดเอง คุณจะต้องมีบทบาท "ผู้ดูแลระบบ" หรือบทบาทอื่นที่มีสิทธิ์คล้ายกัน ทุกคนที่มีสิทธิ์ใช้การรายงานของ Ad Manager จะรายงานเกี่ยวกับช่องที่กำหนดเองได้

เราจะอธิบายหัวข้อต่อไปนี้

สร้างและจัดการช่องที่กำหนดเอง

คุณจะต้องเลือกตำแหน่งที่ต้องการให้ช่องที่กำหนดเองปรากฏ และประเภทการป้อนข้อมูลหรือค่าที่จะใช้ในช่องที่กำหนดเอง เช่น ตัวเลข ข้อความ การสลับ (ใช่หรือไม่ใช่) หรือรายการแบบเลื่อนลงของค่าที่คุณกำหนด เมื่อใช้งานอยู่ ช่องที่กำหนดเองจะแสดงในแท็บ "การตั้งค่า" ของหน้าที่คุณต้องการให้ช่องปรากฏ

  1. ลงชื่อเข้าใช้ Google Ad Manager
  2. ไปที่ผู้ดูแลระบบ จากนั้น การตั้งค่าส่วนกลาง จากนั้น ช่องที่กำหนดเอง
  3. คลิกช่องที่กำหนดเองใหม่
  4. ป้อนชื่อช่องที่กำหนดเอง
  5. เลือกตำแหน่งสำหรับช่องที่กำหนดเอง ตำแหน่งคือประเภทออบเจ็กต์ที่คุณต้องการให้ช่องที่กำหนดเองปรากฏ คุณจะกำหนดช่องที่กำหนดเองได้สูงสุด 30 ช่องให้กับออบเจ็กต์แต่ละประเภท
  6. (ไม่บังคับ) ป้อนคำอธิบายของช่องที่กำหนดเอง
  7. กำหนดระดับการเข้าถึงให้ผู้ใช้ Ad Manager ช่องที่กำหนดเองทั้งหมดควรตั้งค่าเป็น "แก้ไขได้" เว้นแต่คุณจะมีกรณีพิเศษสำหรับแอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม
    • แก้ไขได้: ผู้ใช้แก้ไขและเปลี่ยนแปลงค่าได้
    • อ่านอย่างเดียว: ผู้ใช้ดูได้ แต่จะแก้ไขช่องไม่ได้
    • ซ่อน: ผู้ใช้ดูหรือแก้ไขไม่ได้

    หากคุณเปลี่ยนแปลงระดับการเข้าถึง (คือเปลี่ยนจาก "แก้ไขได้" ไปเป็น "ซ่อน" หรือ "อ่านอย่างเดียว") ค่าที่ผู้ใช้ป้อนจะยังคงเหมือนเดิมและดูได้ในรายงาน

    แอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม และช่องที่กำหนดเองแบบอ่านอย่างเดียวหรือแบบซ่อน

    โดยทั่วไปช่องที่กำหนดเองแบบอ่านอย่างเดียวหรือแบบซ่อนจะกำหนดผ่านทาง Ad Manager API โดยแอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม ผู้ใช้แอปพลิเคชันของบุคคลที่สามเหล่านี้ต้องสร้างหรือแก้ไขออบเจ็กต์ใน Ad Manager และใส่ข้อมูลที่ไม่มีใน Ad Manager โดยค่าเริ่มต้น เช่น รหัสที่ช่วยในการระบุแคมเปญในแอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม จากนั้นค่าของช่องที่กำหนดเองเหล่านี้จะปรากฏแก่ผู้ใช้ในอินเทอร์เฟซผู้ใช้ Ad Manager หรือในรายงาน โดยจะแก้ไขช่องที่กำหนดเองทั้งหมดได้ผ่าน API ไม่ว่าจะกำหนดการเข้าถึงไว้ระดับใดก็ตาม

  8. เลือกประเภทของช่องที่กำหนดเอง
    • ตัวเลข: ค่าอาจเป็นตัวเลขใดก็ได้
    • สลับ: ค่าคือใช่หรือไม่
    • ข้อความ: ค่าอาจเป็นสตริงข้อความใดก็ได้
    • รายการแบบเลื่อนลง: ค่าจะเลือกจากชุดของค่าที่คุณป้อน คุณจะเพิ่มค่าได้สูงสุด 300 ค่าเมื่อได้สร้างและบันทึกช่องที่กำหนดเองแล้ว
  9. หากช่องที่กำหนดเองแสดงอยู่ที่ "รายการโฆษณา" ให้เลือกว่าช่องที่กำหนดเองนี้จะปรากฏในข้อมูลรายการโฆษณาในคำสั่งซื้อพร้อมด้วยการสลับการ "แสดงในตาราง" หรือไม่ 

ข้อจำกัดเมื่อแก้ไขช่องที่กำหนดเอง

เมื่อสร้างช่องที่กำหนดเองแล้ว คุณจะทำการเปลี่ยนแปลงได้โดยมีข้อจำกัดบางอย่าง

รายการ ข้อจำกัด
ตำแหน่งและประเภท เมื่อบันทึกช่องที่กำหนดเองแล้ว จะเปลี่ยนแปลงตำแหน่งและประเภทไม่ได้
ช่องที่กำหนดเองแบบเลื่อนลง

หากสร้างตัวเลือกสำหรับช่องที่กำหนดเองแบบเลื่อนลงแล้ว คุณจะเปลี่ยนแปลงช่องที่กำหนดเองไปเป็นประเภทอื่นไม่ได้

หากคุณเปลี่ยนแปลงตัวเลือกแบบเลื่อนลง ผลของการเปลี่ยนแปลงจะแสดงให้เห็นทั่วทั้ง Ad Manager รวมถึงรายงานของวันที่ก่อนทำการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ

การเปลี่ยนแปลงระดับการเข้าถึง หากคุณเปลี่ยนช่องที่กำหนดเองไปเป็นแบบ "อ่านอย่างเดียว" หรือ "ซ่อน" ค่าใดๆ ที่ได้ตั้งไว้ก่อนหน้านี้จะคงอยู่เหมือนเดิม หากคุณเปลี่ยนช่องที่กำหนดเองกลับไปเป็นระดับการเข้าถึงที่มองเห็นได้ คุณจะเห็นค่าที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้อีกครั้งได้

รายงานเกี่ยวกับช่องที่กำหนดเอง

คุณอาจเห็นช่องที่กำหนดเองแสดงเป็นแอตทริบิวต์การรายงานสำหรับมิติข้อมูลที่แสดงให้เห็นตำแหน่งของช่องได้ เช่น หากสร้างช่องที่กำหนดเองชื่อ "รหัสรายงาน TSP" สำหรับรายการโฆษณา คุณจะเห็นว่าช่องดังกล่าวเป็นแอตทริบิวต์ในมิติข้อมูลรายการโฆษณาได้ในภายหลัง

คุณเลือกแอตทริบิวต์ช่องที่กำหนดเองได้สูงสุด 15 รายการต่อมิติข้อมูล

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการ

ใช้ข้อมูล API เพื่อดึงรายงานด้วยช่องที่กำหนดเอง

Ad Manager รองรับการอ่านข้อมูลช่องที่กำหนดเองในรายงานและเอนทิตี
  • สำหรับรายงานจะมีช่องรหัสใน ReportQuery
  • สำหรับเอนทิตีจะมีช่อง customFieldValues ในเอนทิตีทั้งหมดที่รองรับช่องที่กำหนดเอง
ดูแอตทริบิวต์ช่องที่กำหนดเองทั้งหมดด้วย CustomFieldService.getCustomFieldsByStatement

 

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
บันทึกประจำรุ่น

อ่านเกี่ยวกับฟีเจอร์ล่าสุดของ Ad Manager และการอัปเดตในศูนย์ช่วยเหลือ

ดูว่ามีอะไรใหม่

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
3121864752902816629
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
148
false
false
false
false