บทความนี้อธิบายวิธีป้องกันกิจกรรมที่ไม่ถูกต้องในโฆษณา Google โดยใช้ทั้งระบบอัตโนมัติและการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ในการตรวจหาและกรองการคลิกและการแสดงผลที่เป็นการฉ้อโกงออก
ในหน้านี้:
วิธีที่ Google ป้องกันกิจกรรมที่ไม่ถูกต้อง
ผู้เชี่ยวชาญของเราตรวจสอบการคลิกและการแสดงผลโฆษณา Google อย่างรอบคอบเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของคุณและผู้ลงโฆษณา โดยเราใช้ทั้งระบบอัตโนมัติและการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่เพื่อวิเคราะห์การคลิกและการแสดงผลโฆษณาทั้งหมดเพื่อหาการเข้าชมที่ไม่ถูกต้องซึ่งอาจทำให้ค่าใช้จ่ายของผู้ลงโฆษณาหรือรายได้ของผู้เผยแพร่โฆษณาสูงเกินความเป็นจริง
เทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Google จะวิเคราะห์การคลิกและการแสดงผลเพื่อตรวจหาการเข้าชมที่ไม่ถูกต้อง ระบบของเราจะใช้ตัวกรองที่ซับซ้อนเพื่อแยกความแตกต่างระหว่างกิจกรรมที่สร้างขึ้นผ่านการใช้งานปกติโดยผู้ใช้กับกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงแก่ผู้ลงโฆษณา และจะไม่มีการเรียกเก็บเงินจากผู้ลงโฆษณาสำหรับกิจกรรมนี้
บางตัวอย่างของกิจกรรมนี้ ได้แก่ การคลิกหรือการแสดงผลที่เกิดจากผู้ใช้ โรบ็อตอัตโนมัติ และแหล่งที่มาของการเข้าชมที่ไม่มีจรรยาบรรณ รวมทั้งผู้เผยแพร่โฆษณาที่โน้มน้าวให้เกิดการคลิกโฆษณาของตน ระบบของเราช่วยให้เรากรองการคลิกและการแสดงผลที่ไม่ถูกต้องได้เป็นส่วนใหญ่ และจะไม่มีการเรียกเก็บเงินจากผู้ลงโฆษณาสำหรับกิจกรรมนี้
นอกจากระบบอัตโนมัติแล้ว เรายังมีทีมเฉพาะที่ทำหน้าที่ตรวจหากิจกรรมที่ไม่ถูกต้องอีกด้วย ทีมดังกล่าวใช้เครื่องมือพิเศษมากมายและเทคนิคอันหลากหลายด้วยประสบการณ์อันเชี่ยวชาญในการติดตามและตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ใช้และการวิเคราะห์สถานการณ์ เราอัปเกรดกลไกการตรวจหาอย่างสม่ำเสมอเพื่อทำงานเชิงรุกในการรับมือกับกิจกรรมที่ไม่ถูกต้อง
มาตรการป้องกันเพิ่มเติม
เราได้ผสานรวมกับ HUMAN ซึ่งทำหน้าที่เป็นการตรวจสอบความปลอดภัยเพิ่มเติมสำหรับการป้องกันการเข้าชมที่ไม่ถูกต้องเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของคุณ โดยคุณไม่จำเป็นต้องกำหนดค่าหรือทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ เพื่อใช้มาตรการป้องกันเพิ่มเติมนี้
การควบคุมของผู้เผยแพร่โฆษณา
Ad Manager ไม่อนุญาตให้ผู้เผยแพร่โฆษณาปิดใช้ Shared Storage API
ของเบราว์เซอร์เพื่อจำกัดการประพฤติมิชอบและการละเมิดที่อาจเกิดขึ้นต่อไปได้
วิธีที่คุณจะป้องกันกิจกรรมที่ไม่ถูกต้องได้
แม้ว่าเราจะมีระบบที่เคร่งครัดในการตรวจหาการเข้าชมที่ไม่ถูกต้อง แต่การตรวจสอบการเข้าชมและการใช้งานโฆษณาโดยผู้เผยแพร่โฆษณาทั้งหมดอยู่เป็นประจำก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โปรดตรวจสอบว่าการใช้งานโฆษณาของคุณเป็นไปตามนโยบายโปรแกรม และคุณไม่ได้จ่ายเงินเพื่อการเข้าชมจากแหล่งที่มาที่ไม่น่าเชื่อถือ สุดท้ายนี้ เราขอแนะนำให้ใช้แบบฟอร์มติดต่อเกี่ยวกับการคลิกที่ไม่ถูกต้องเพื่อรายงานกิจกรรมที่น่าสงสัยในเว็บไซต์หรือแอป
เคล็ดลับที่จะช่วยคุณป้องกันการเข้าชมที่ไม่ถูกต้องในโฆษณา
- ทำความเข้าใจการเข้าชมจากโฆษณาและผู้เข้าชมเว็บไซต์
แบ่งรายละเอียดของรายงานการเข้าชมออกเป็นกลุ่มที่สำคัญโดยใช้แชแนล URL, แชเนลที่กำหนดเอง หรือหน่วยโฆษณา วิธีนี้จะช่วยวัดว่าการเปลี่ยนแปลงแหล่งที่มาของการเข้าชมหรือการใช้งานส่งผลกระทบต่อการเข้าชมจากโฆษณาของคุณอย่างไร
จากนั้น ใช้ Google Analytics เพื่อรับข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับผู้เข้าชมเว็บไซต์ และเฝ้าดูพฤติกรรมของผู้ใช้ที่น่าสงสัย ลองตั้งคำถามอย่างเช่น "ผู้ใช้ของฉันมาจากที่ใด ทั้งในทางภูมิศาสตร์หรือในอินเทอร์เน็ต" หรือ "ผู้ใช้ดูหน้าเว็บใดในเว็บไซต์ของฉัน" เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเข้าชม
- หลีกเลี่ยงการเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ที่ไม่น่าเชื่อถือหรือมีคุณภาพต่ำ
ผู้เผยแพร่โฆษณาบางรายมีปัญหาเกี่ยวกับการเข้าชมที่ไม่ถูกต้องเมื่อเป็นพาร์ทเนอร์กับเครือข่ายโฆษณา เครื่องมือค้นหา หรือเว็บไซต์ไดเรกทอรีคุณภาพต่ำเพราะต้องการเพิ่มการเข้าชมมายังเว็บไซต์ของตน คุณควรดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อการเข้าชมและอ่านรายการตรวจสอบของผู้ให้บริการการเข้าชม เพื่อช่วยเป็นแนวทางในการสนทนาเกี่ยวกับการเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ให้บริการที่คุณสนใจ
- อย่าคลิกที่โฆษณาของคุณเองถึงแม้จะคิดว่าไม่เป็นไร
แม้ว่าจะสนใจในโฆษณาหรือกำลังมองหา URL ปลายทางของโฆษณานั้นก็ยังห้ามคลิกที่โฆษณาของคุณเอง โปรดทราบว่าแม้ว่าเราจะกรองการคลิกโฆษณาของคุณเองออก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สนใจการคลิกเหล่านั้นโดยสิ้นเชิง เพราะหากพบว่าผู้เผยแพร่โฆษณาคลิกโฆษณาของตนเพื่อเพิ่มรายได้หรือเพิ่มค่าใช้จ่ายของผู้ลงโฆษณาให้สูงกว่าความเป็นจริง เราอาจปิดบัญชีนั้นเพื่อปกป้องผู้ลงโฆษณา
- ทำความเข้าใจการตรวจหาการเข้าชมที่ไม่ถูกต้องและวิธีการกรอง
โปรดศึกษาการตรวจหาการเข้าชมที่ไม่ถูกต้องและวิธีการกรองให้ดี