ดูหลักสูตรการฝึกอบรม Skillshop ที่เกี่ยวข้อง
หากเซิร์ฟเวอร์โฆษณาระบุว่ารายการโฆษณา Ad Exchange มีสิทธิ์แข่งขันในการแสดงผล Ad Manager จะทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อระบุว่ารายการโฆษณา Ad Exchange หรือรายการโฆษณาที่จองใน Ad Manager ควรจะแสดงโฆษณา
- มีการส่งคำขอโฆษณาไปยัง Ad Manager
- Ad Manager ค้นหารายการโฆษณาที่รับประกันการแสดงผลที่ดีที่สุดซึ่งมีสิทธิ์แสดงสำหรับคำขอโฆษณานั้นๆ รวมทั้งคำนวณ CPM ชั่วคราวตามการแสดงโฆษณาในปัจจุบันของรายการโฆษณา ตัดดีลการรับประกันแบบเป็นโปรแกรม (PG) ที่ไม่ได้รับการเสนอราคาออก
- Ad Manager จะเรียก Ad Exchange ให้หาราคาเสนอที่จะเอาชนะ CPM ชั่วคราวของรายการโฆษณาที่รับประกันการแสดงผลที่ดีที่สุดได้
- Ad Manager ค้นหารายการโฆษณาส่วนที่เหลือที่มีสิทธิ์และมี CPM สูงสุด
ราคาเสนอทั้งในการประมูลส่วนตัวและการประมูลแบบเปิดแข่งขันกันในเรื่อง CPM ราคาเสนอที่สูงที่สุดแข่งขันกับ CPM ชั่วคราวของรายการโฆษณาที่รับประกันการแสดงผลซึ่งชนะ - Ad Manager เลือกรายการโฆษณาหรือราคาเสนอที่มี CPM สูงสุด/CPM ชั่วคราว
ตัวอย่างในบทความนี้จะใช้รายการโฆษณา A เพื่อแสดงถึงรายการโฆษณาที่รับประกันการแสดงผลที่ดีที่สุด รายการโฆษณา B แสดงถึงรายการโฆษณาส่วนที่เหลือที่มีมูลค่าสูงสุด
Ad Manager ค้นหารายการโฆษณาที่รับประกันการแสดงผลที่ดีที่สุด
Ad Manager ค้นหารายการโฆษณาที่รับประกันการแสดงผลที่ดีที่สุดซึ่งมีสิทธิ์แสดงสำหรับคำขอโฆษณานั้นๆ รวมทั้งคำนวณ CPM ชั่วคราวตามการแสดงโฆษณาในปัจจุบันของรายการโฆษณา
การเลือกรายการโฆษณาที่รับประกันการแสดงผลที่ดีที่สุดจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงลำดับความสำคัญของรายการโฆษณาและการที่แต่ละรายการโฆษณาแสดงได้ใกล้เคียงกับกำหนดการเพียงใด ดูข้อมูลเพิ่มเติมในเอกสารประกอบเรื่องการเลือกโฆษณา
ตัวอย่าง
Ad Manager สร้าง CPM ชั่วคราวสำหรับรายการโฆษณา A ซึ่งคุณสามารถมองค่านี้ว่าเป็นต้นทุนค่าเสียโอกาสตามความคืบหน้าของรายการโฆษณา และข้อมูลการเสนอราคาในอดีตสำหรับอุปสงค์ที่ไม่รับประกันการแสดงผล เพื่อเพิ่มรายได้ของผู้เผยแพร่ให้มากที่สุด โดยทั่วไป ยิ่งรายการโฆษณามีดัชนีความพึงพอใจ (SI) ต่ำ (ซึ่งหมายถึงการล่าช้ากว่ากำหนด) CPM ชั่วคราวที่ส่งผ่านไปยัง Ad Exchange ก็จะยิ่งสูงขึ้น
การจัดสรรแบบไดนามิกจะใช้ค่า CPM ชั่วคราวนี้เพื่อให้รายการโฆษณา A แข่งขันกับรายการโฆษณา Ad Exchange ที่มีสิทธิ์และรายการโฆษณาส่วนที่เหลือในขั้นตอนที่ 5 ได้
เพิ่มผลตอบแทนสูงสุดด้วยการแข่งขันระหว่างแหล่งที่มาของอุปสงค์
Ad Manager จะเลือกรายการโฆษณาหรือราคาเสนอที่มี CPM สูงสุดหรือ CPM ชั่วคราวเสมอ
รายการโฆษณาส่วนที่เหลือและรายการโฆษณา Ad Exchange ที่มีลำดับความสำคัญต่ำกว่าจะไม่แข่งขันเมื่อรายการโฆษณาใดๆ ต่อไปนี้มีสิทธิ์แสดงผลตามคำขอ
- รายการโฆษณาแบบผู้สนับสนุนที่มีเป้าหมายเป็น 100%
- รายการโฆษณาแบบผู้สนับสนุนหลายรายการที่มีลำดับความสำคัญเท่ากันและมีเป้าหมายรวมกันแล้วมากกว่าหรือเท่ากับ 100%
นอกจากนี้ Ad Manager อาจป้องกันไม่ให้รายการโฆษณาส่วนที่เหลือและรายการโฆษณา Ad Exchange ที่มีลำดับความสำคัญต่ำกว่าแข่งขันหากรายการโฆษณาที่รับประกันการแสดงผลมีความเสี่ยงว่าจะแสดงไม่ครบ
ตัวอย่าง
หากรายการโฆษณา A มีความเสี่ยงว่าจะแสดงไม่ครบเนื่องจากเลยกำหนดเวลามามากแล้ว Ad Manager จะป้องกันไม่ให้รายการโฆษณาส่วนที่เหลือและรายการโฆษณา Ad Exchange ที่มีลำดับความสำคัญต่ำกว่าแข่งขัน
สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อรายการโฆษณาที่ไม่รับประกันการแสดงผลมีสิทธิ์แข่งขัน
Ad Manager จะมองหารายการโฆษณาส่วนที่เหลือ รายการโฆษณาที่ไม่รับประกันการแสดงผล และรายการโฆษณา Ad Exchange ที่มีสิทธิ์แสดงในการแสดงผลเดียวกันในกรณีต่อไปนี้
- ในกรณีที่ไม่มีรายการโฆษณาส่วนที่เหลือหรือรายการโฆษณา Ad Exchange ที่มีสิทธิ์ Ad Manager จะแสดงรายการโฆษณาที่รับประกันการแสดงผลที่ดีที่สุดเพียงรายการเดียว
- หากมีรายการโฆษณาส่วนที่เหลือและรายการโฆษณา Ad Exchange ที่แข่งขันกันหลายรายการ Ad Manager จะจัดอันดับรายการโฆษณาส่วนที่เหลือที่มีสิทธิ์ทั้งหมดตาม CPM มูลค่า แล้วเลือกรายการโฆษณาส่วนที่เหลือมูลค่าสูงสุด
หากไม่มี CPM มูลค่า Ad Manager จะใช้ CPM รายการโฆษณาแทนการเลือกโฆษณาที่มีพ็อดที่เพิ่มประสิทธิภาพจะทำงานต่างจากที่อธิบายไว้ที่นี่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพ็อดที่เพิ่มประสิทธิภาพ - ระบบจะเลือกรายการโฆษณาที่มีลำดับความสำคัญสูงสุด (ตัวเลขลำดับความสำคัญต่ำสุด) จากรายการโฆษณา Ad Exchange ที่มีสิทธิ์ทั้งหมด ในกรณีที่มีรายการโฆษณา Ad Exchange ที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดเท่ากันมากกว่า 1 รายการ Ad Manager จะเลือกมา 1 รายการเพื่อแข่งขัน
ตัวอย่าง
Ad Manager จะเรียก Ad Exchange เพื่อกำหนดว่ารายการโฆษณา Ad Exchange ที่เลือกสามารถให้การเสนอราคาที่มีราคาสูงกว่า CPM ชั่วคราวของรายการโฆษณา A ได้หรือไม่
การเรียก Ad Exchange หมายความว่ารายการโฆษณา Ad Exchange จะแข่งขันกับรายการโฆษณาอื่นๆ ใน Ad Manager ได้ แต่ไม่จำเป็นว่าโฆษณา Ad Exchange จะเป็นฝ่ายที่ได้แสดงเสมอไป
Ad Manager กำหนดว่า Ad Exchange จะแสดงโฆษณาหรือไม่
หาก Ad Manager เรียก Ad Exchange ในขั้นตอนที่ 4 โฆษณา Ad Exchange ที่มีสิทธิ์และรายการโฆษณา B จะแข่งขันกับรายการโฆษณา A โดยยึดตาม CPM ในขั้นตอนที่ 5 ราคาจองของโฆษณา Ad Exchange อย่างน้อยจะต้องเท่ากับ CPM ชั่วคราวจากรายการโฆษณา A ที่รับประกันการแสดงผล
ราคาจองอาจสูงกว่าค่าสูงสุดนี้เนื่องจากการกำหนดค่าอื่นๆ ของผู้เผยแพร่โฆษณา เช่น กฎการกำหนดราคาแบบรวม
- หากโฆษณา Ad Exchange หรือโฆษณาส่วนที่เหลือที่มีมูลค่าสูงสุด (รายการโฆษณา B) เอาชนะราคาจองได้ แสดงว่าโฆษณา Ad Exchange หรือรายการโฆษณา B จะได้แสดง ขึ้นอยู่กับว่ารายการใดมี CPM สูงกว่ากัน
โฆษณา Ad Exchange ที่เลือกให้แสดงจะยังอยู่ภายใต้เงื่อนไขของดีลที่ต้องการหรือการประมูลส่วนตัว (หากมี)
- ในกรณีที่ไม่มีโฆษณา Ad Exchange หรือรายการโฆษณา B ที่มีสิทธิ์ที่เอาชนะราคาจองได้ Ad Manager จะแสดงรายการโฆษณา A โดยพิจารณาจาก CPM ชั่วคราว
เมื่อเราอ้างถึง CPM ของโฆษณา Ad Exchange แสดงว่า CPM นั้นเป็นต้นทุนสุทธิของผู้เผยแพร่โฆษณา (ซึ่งจะนำไปใช้เพื่อพิจารณาส่วนแบ่งรายได้ของ Ad Exchange)
ตัวอย่าง
เมื่อมีผู้เข้าชมเปิดเว็บไซต์ของคุณ รายการโฆษณา Ad Exchange จะมีสิทธิ์ในการแสดงผลเหมือนรายการโฆษณาที่รับประกันการแสดงผลอื่นๆ เมื่อใช้การจัดสรรแบบไดนามิก Ad Manager จะมองหารายการโฆษณาที่รับประกันการแสดงผลที่มีสิทธิ์ทั้งหมด และคำนวณ CPM ชั่วคราวสำหรับผู้ชนะ รายการโฆษณาที่รับประกันการแสดงผลซึ่งเป็นผู้ชนะมีการแสดงผลที่ช้ากว่ากำหนด
CPM ชั่วคราวที่คำนวณได้คือ 195 บาท
รายการโฆษณาส่วนที่เหลืออีก 2 รายการมี CPM เท่ากับ 90 บาท และ 150 บาท ตามลำดับ Ad Manager จะส่ง CPM ชั่วคราว (195 บาท) ไปยัง Ad Exchange ในกรณีที่ไม่มีโฆษณา Ad Exchange ที่มีสิทธิ์ที่เอาชนะราคา 195 บาทได้ รายการโฆษณาที่รับประกันการแสดงผลจะแสดงแทน