เปิดหรือปิดการเข้าถึง gemini.google.com

แอป Gemini ประกอบด้วย

• เว็บแอป Gemini ที่ gemini.google.com 
• แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ใน Android และ iOS 

"แอป Gemini" บางครั้งอาจเรียกว่า "Gemini" หากคุณมีบัญชี Google ของที่ทำงานหรือโรงเรียน การใช้แอป Gemini อาจอยู่ภายใต้ข้อกำหนดการจัดการข้อมูลที่แตกต่างกัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้แอป Gemini กับบัญชี Google ของที่ทำงานหรือโรงเรียน

เป็นบริการหลัก

แอป Gemini ในรูปแบบบริการหลักที่มีการคุ้มครองข้อมูลระดับองค์กรพร้อมให้บริการใน Google Workspace เกือบทุกรุ่น

รุ่น Workspace ที่มีแอป Gemini

• Business Starter*
• Essentials
• Enterprise Essentials
• Enterprise Essentials Plus
• Frontline Starter
• Frontline Standard
• Frontline Plus
• Nonprofits

Workspace รุ่นที่มี Gemini Advanced

• Business Standard*
• Business Plus*
• Enterprise Standard
• Enterprise Plus

ผู้ใช้ที่เข้าถึงแอป Gemini ผ่านรุ่นใดรุ่นหนึ่งเหล่านี้จะอยู่ภายใต้ข้อกำหนดในการให้บริการของ Google Workspace หรือข้อตกลง Workspace ฉบับออฟไลน์ของคุณ (หากมี) โดยเนื้อหาของผู้ใช้เหล่านี้จะไม่ได้รับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่หรือใช้เพื่อฝึกโมเดล Generative AI นอกโดเมนของผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ฮับด้านความเป็นส่วนตัวของ Generative AI ใน Google Workspace 

Gemini Advanced จะรวมทุกอย่างในแอป Gemini ที่มีการคุ้มครองข้อมูลระดับองค์กร อีกทั้งได้รับสิทธิ์ใช้งานฟีเจอร์ใหม่ก่อนใครและสิทธิ์เข้าถึงโมเดล AI ที่เก่งที่สุดของ Google โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในการเปรียบเทียบด้านล่าง

* หากต้องการใช้แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่กับรุ่น Business คุณต้องลงชื่อสมัครใช้ด้วยอีเมลธุรกิจหรือยืนยันโดเมน

ในรูปแบบบริการเพิ่มเติมของ Google

ผู้ใช้ที่ไม่มี Google Workspace รุ่นที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์จะอยู่ภายใต้ข้อกำหนดในการให้บริการของ Google และประกาศเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของแอป Gemini เมื่อใช้แอป Gemini ดังนั้นแชทของผู้ใช้อาจได้รับการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่และนำไปใช้เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ บริการ และเทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิงของ Google โปรดแจ้งให้ผู้ใช้เหล่านี้หลีกเลี่ยงการป้อนข้อมูลที่เป็นความลับหรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเมื่อใช้แอป Gemini

กิจกรรมบนแอป Gemini จะเปิดอยู่โดยค่าเริ่มต้น

• เมื่อใช้เว็บแอป Gemini หรือแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ด้วยบัญชีงานหรือบัญชีโรงเรียน ระบบจะเปิดกิจกรรมบนแอป Gemini โดยค่าเริ่มต้นและบันทึกประวัติการสนทนาไว้เป็นเวลา 18 เดือน
• เมื่อกิจกรรมบนแอป Gemini เปิดอยู่ ระบบจะรวมกิจกรรมจากเว็บ Gemini และแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ การล้างประวัติของ Gemini สำหรับ Google Workspace จากแอป Workspace จะไม่ส่งผลต่อข้อมูลที่บันทึกไว้ในกิจกรรมบนแอป Gemini
• ผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมได้ว่าจะให้เปิดกิจกรรมบนแอป Gemini หรือไม่ และระบบจะบันทึกประวัติการสนทนาไว้นานเท่าใด

สำคัญสำหรับผู้ใช้บัญชีงานที่มีสิทธิ์เข้าถึงแอป Gemini ในรูปแบบบริการเพิ่มเติม: เมื่อกิจกรรมบนแอป Gemini เปิดอยู่ Google จะรวบรวมการสนทนาของคุณกับแอป Gemini และข้อมูลอื่นๆ ที่คุณให้ไว้ และใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และเทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิงของ Google ดูข้อมูลเพิ่มเติม

แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่

แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ประกอบด้วยรายการต่อไปนี้

• แอป Gemini ใน Android
• แอป Gemini ใน iOS

แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่พร้อมให้บริการโดยค่าเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้ในองค์กรที่มีสิทธิ์เข้าถึง Gemini ปัจจุบันผู้ใช้ Google Workspace มีข้อจำกัดบางอย่างเมื่อใช้แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ โดยจะใช้ฟีเจอร์ต่อไปนี้ไม่ได้

• Gemini Live
• Gem
• Deep Research
• Canvas

หมายเหตุ:

• ระบบจะเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ Android ที่พยายามใช้แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในโปรไฟล์งานของ Android ไปยัง gemini.google.com ในเว็บเบราว์เซอร์บนอุปกรณ์เคลื่อนที่

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่กับบัญชี Google ของที่ทำงานหรือโรงเรียน

เลือกผู้ที่ใช้แอป Gemini ได้

โดยค่าเริ่มต้น แอป Gemini จะพร้อมให้บริการแก่ผู้ใช้ทุกคนที่มีอายุมากกว่า 18 ปีและมีใบอนุญาตที่ให้สิทธิ์เข้าถึงภายใต้ข้อตกลงของ Google Workspace

คุณสามารถขยายสิทธิ์เข้าถึงให้กับผู้ใช้ทุกคนได้ ไม่ว่าผู้ใช้จะมีใบอนุญาต Google Workspace ประเภทใดก็ตาม โดยทำดังนี้

1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google ด้วยบัญชีผู้ดูแลระบบ

   หากไม่ได้ใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ คุณจะเข้าถึงคอนโซลผู้ดูแลระบบไม่ได้

2. ในคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่เมนู  Generative AI > แอป Gemini
   สำคัญ: การตั้งค่านี้จะควบคุมการเข้าถึง gemini.google.com และแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ แต่จะไม่ส่งผลต่อฟีเจอร์ AI อื่นๆ ในบริการ Google Workspace 
3. คลิกสิทธิ์เข้าถึงของผู้ใช้
4. เลือกช่องเพื่ออนุญาตให้ผู้ใช้ทุกคนเข้าถึงแอป Gemini ได้ ไม่ว่าจะมีใบอนุญาตประเภทใดก็ตาม
5. (ไม่บังคับ) วิธีเปลี่ยนสิทธิ์เข้าถึงสำหรับหน่วยขององค์กร
   1. เลือกหน่วยขององค์กรทางด้านซ้าย
   2. เลือกหรือยกเลิกการเลือกช่อง
   3. เลือกตัวเลือกต่อไปนี้
      • หากสิทธิ์เข้าถึงของผู้ใช้ตั้งค่าเป็นรับค่าและคุณต้องการคงการตั้งค่าที่อัปเดต แม้ว่าการตั้งค่าขององค์กรระดับบนสุดจะเปลี่ยนไป ให้คลิกลบล้าง
      • หากสิทธิ์เข้าถึงของผู้ใช้ตั้งค่าเป็นลบล้าง ให้คลิกรับค่าเพื่อเปลี่ยนกลับเป็นการตั้งค่าเดียวกันกับระดับบนสุด หรือคลิกบันทึกเพื่อคงการตั้งค่าใหม่ แม้ว่าการตั้งค่าขององค์กรระดับบนสุดจะเปลี่ยนไป
        หมายเหตุ: ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงสร้างองค์กร

6. (ไม่บังคับ) หากต้องการเปลี่ยนสิทธิ์เข้าถึงสำหรับผู้ใช้ในหน่วยขององค์กรหรือข้ามหน่วย ให้เลือกกลุ่มที่มีสิทธิ์เข้าถึง แล้วเลือกหรือยกเลิกการเลือกช่อง โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อใช้กลุ่มเพื่อปรับแต่งการเข้าถึงบริการ

7. คลิกบันทึก

การเปลี่ยนแปลงอาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง แต่โดยปกติจะใช้เวลาเร็วกว่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม

 เปิดหรือปิดแอป Gemini

1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google ด้วยบัญชีผู้ดูแลระบบ

   หากไม่ได้ใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ คุณจะเข้าถึงคอนโซลผู้ดูแลระบบไม่ได้

2. ไปที่เมนู  Generative AI > แอป Gemini

   ต้องมีบริการ > แอป Gemini > สิทธิ์ของผู้ดูแลระบบในการตั้งค่า Gemini 

3. คลิกสถานะบริการ

4. หากต้องการเปิดหรือปิดบริการให้ทุกคนในองค์กร ให้คลิกเปิดสำหรับทุกคนหรือปิดสำหรับทุกคน แล้วคลิกบันทึก

5. (ไม่บังคับ) วิธีเปิดหรือปิดบริการสำหรับหน่วยขององค์กร

   1. เลือกหน่วยขององค์กรทางด้านซ้าย
   2. หากต้องการเปลี่ยนสถานะบริการ ให้เลือกเปิดหรือปิด
   3. เลือกการตั้งค่าแบบใดแบบหนึ่งต่อไปนี้
      • หากตั้งค่าสถานะบริการเป็นรับค่า และคุณต้องการคงการตั้งค่าที่อัปเดตแล้วไว้ แม้ว่าการตั้งค่าขององค์กรระดับบนสุดจะเปลี่ยนไป ให้คลิกลบล้าง
      • หากตั้งค่าสถานะบริการเป็นลบล้าง ให้คลิกรับค่าเพื่อเปลี่ยนกลับเป็นการตั้งค่าเดียวกันกับระดับบนสุด หรือคลิกบันทึกเพื่อคงการตั้งค่าใหม่ แม้ว่าการตั้งค่าขององค์กรระดับบนสุดจะเปลี่ยนไป
        หมายเหตุ: ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงสร้างองค์กร
6. (ไม่บังคับ) หากต้องการเปิดใช้บริการให้กับผู้ใช้ในหน่วยขององค์กรหรือข้ามหน่วย ให้เลือกกลุ่มที่มีสิทธิ์เข้าถึง โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อใช้กลุ่มเพื่อปรับแต่งการเข้าถึงบริการ
7. คลิกบันทึก

การเปลี่ยนแปลงอาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง แต่โดยปกติจะใช้เวลาเร็วกว่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม

จัดการประวัติการสนทนากับ Gemini

การตั้งค่าประวัติการสนทนากับ Gemini ช่วยให้คุณจัดการได้ว่าจะให้บันทึกการสนทนากับ Gemini หรือไม่ และบันทึกไว้นานเท่าใดก่อนที่จะลบโดยอัตโนมัติ 

เมื่อเปิดหรือปิดประวัติการสนทนากับ Gemini ระบบจะใช้แชทตามที่อธิบายไว้ในข้อกำหนดในการให้บริการของ Google Workspace เมื่อปิดประวัติการสนทนากับ Gemini ระบบจะบันทึกแชทที่มีอยู่ไว้ในบัญชีผู้ใช้เป็นเวลาสูงสุด 72 ชั่วโมงเพื่อให้ Google มอบบริการและประมวลผลความคิดเห็นของผู้ใช้ได้ กิจกรรมนี้จะไม่ปรากฏในกิจกรรมบนแอป Gemini

เมื่อคุณเปิดการตั้งค่าแล้วปิด ประวัติการสนทนาที่มีอยู่จะได้รับการจัดเก็บตามระยะเวลาที่ตั้งไว้ในตัวเลือกการเก็บรักษาการสนทนา

มีเพียงผู้ดูแลระบบ Workspace เท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าถึงการตั้งค่าประวัติการสนทนากับ Gemini  ผู้ใช้ Workspace จะเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าไม่ได้ ประวัติการสนทนาจะเปิดอยู่โดยค่าเริ่มต้น

1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google ด้วยบัญชีผู้ดูแลระบบ

   หากไม่ได้ใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ คุณจะเข้าถึงคอนโซลผู้ดูแลระบบไม่ได้

2. ในคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่เมนู  Generative AI > แอป Gemini
3. คลิกประวัติการสนทนากับ Gemini
4. หากต้องการเปิดหรือปิดประวัติการสนทนา ให้เลือกหรือยกเลิกการเลือกช่องเปิดใช้ประวัติการสนทนากับ Gemini
5. เมื่อเปิดประวัติการสนทนา ให้เลือกระยะเวลาการเก็บการสนทนาไว้ก่อนที่จะลบโดยอัตโนมัติ ซึ่งได้แก่ 3, 18 หรือ 36 เดือน ใต้การเก็บรักษาการสนทนา ค่าเริ่มต้นคือ 18 เดือน
6. (ไม่บังคับ) หากต้องการใช้การตั้งค่าเฉพาะกับผู้ใช้บางราย ให้เลือกหน่วยขององค์กร (มักใช้กับแผนกต่างๆ) หรือกลุ่มการกำหนดค่า (ขั้นสูง) ที่ด้านข้าง แสดงวิธีการ

   การตั้งค่ากลุ่มจะลบล้างหน่วยขององค์กร ดูข้อมูลเพิ่มเติม

7. คลิกบันทึก

การเปลี่ยนแปลงอาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง แต่โดยปกติจะใช้เวลาเร็วกว่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม