การเพิ่มข้อมูลสินค้าคงคลังในร้านไปยัง Merchant Center มีหลายวิธี คุณสามารถเลือกใช้หลายวิธีร่วมกันเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของคุณในฐานะผู้ค้าปลีก เพื่อช่วยรักษาข้อมูลสินค้าคงคลังในร้านให้เป็นปัจจุบันเสมอ
คู่มือนี้จะช่วยให้คุณเลือกวิธีการอัปโหลดที่จะเหมาะกับคุณมากที่สุด
คุณจัดการแหล่งข้อมูลสินค้าคงคลังในร้านได้ในแท็บ "แหล่งข้อมูลเสริม" ในส่วน "แหล่งข้อมูล" ซึ่งอยู่ที่มุมบนขวาของ Merchant Center ใต้การตั้งค่า ในเมนูการนำทางด้านซ้าย
ในหน้านี้
- จัดส่งผลิตภัณฑ์ไปยังร้านค้า
- เพิ่มสินค้าคงคลังจากร้านค้าออนไลน์โดยอัตโนมัติ (ระดับชุดย่อยของผลิตภัณฑ์เท่านั้น)
- เพิ่มสินค้าคงคลังจากร้านค้าออนไลน์โดยอัตโนมัติ (ครอบคลุมผลิตภัณฑ์และร้านค้าทั้งหมด)
- เพิ่มสินค้าคงคลังจากไฟล์
- ใช้ Content API
- ลิงก์ Merchant Center กับผู้ให้บริการข้อมูลในร้าน
- ฟีดอัตโนมัติที่รายงานโดยเว็บไซต์
จัดส่งผลิตภัณฑ์ไปยังร้านค้า
วิธีการทำงาน
หากไม่ทราบความพร้อมจำหน่ายที่ร้านค้าในเวลานั้นๆ แต่จัดส่งผลิตภัณฑ์ไปยังร้านค้าเพื่อให้ลูกค้ามารับได้ คุณสามารถแจ้งให้ Google ทราบถึงผลิตภัณฑ์ที่สามารถจัดส่งสินค้าเพื่อรับที่ร้านได้ผ่านแอตทริบิวต์ SLA สำหรับการรับสินค้า [pickup_SLA] และวิธีรับสินค้า [pickup_SLA] เราจะสร้างสินค้าคงคลังในร้านค้าให้คุณ
คุณต้องมีสิทธิ์ใช้หน้าผลิตภัณฑ์ที่ระบุความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในร้านหรือหน้าผลิตภัณฑ์เฉพาะร้านค้าที่ระบุความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์และราคาในร้าน เพื่อให้ Merchant Center มีสิทธิ์ใช้วิธีการเพิ่มสินค้าคงคลังนี้ นอกจากนี้ หน้าผลิตภัณฑ์หรือขั้นตอนการชำระเงินต้องแสดงตัวเลือกในการรับผลิตภัณฑ์ในวันอื่นและระบุลำดับเวลาการรับผลิตภัณฑ์ด้วย
สิ่งใดที่ทำให้วิธีการนี้ยอดเยี่ยม
- วิธีนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ไฟล์สินค้าคงคลังทั้งหมดเพื่อเริ่มต้นใช้งานโฆษณาสินค้าคงคลังในร้าน
สิ่งที่ควรทราบ
- การจัดส่งผลิตภัณฑ์ไปยังร้านค้าออนไลน์ใช้ได้กับโฆษณาสินค้าคงคลังในร้านเท่านั้น
- คุณใช้กฎแอตทริบิวต์เพื่อส่งแอตทริบิวต์ที่ต้องระบุได้
เพิ่มสินค้าคงคลังจากร้านค้าออนไลน์โดยอัตโนมัติ (ระดับชุดย่อยของผลิตภัณฑ์เท่านั้น)
วิธีการทำงาน
คุณสามารถอนุญาตให้ Google เพิ่มสินค้าคงคลังในร้านจากร้านค้าออนไลน์ไปยัง Merchant Center โดยอัตโนมัติ เพิ่มข้อมูลสินค้าคงคลังในร้านค้าลงในร้านค้าออนไลน์ แล้วเปิดให้ Google รวบรวมข้อมูล
Google จะค้นหาความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในร้านค้าที่ระบุไว้ในร้านค้าออนไลน์โดยอัตโนมัติ แล้วเพิ่มข้อมูลไปยัง Merchant Center
คุณต้องมีสิทธิ์ใช้หน้าผลิตภัณฑ์ที่ระบุความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในร้านหรือหน้าผลิตภัณฑ์เฉพาะร้านค้าที่ระบุความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์และราคาในร้าน เพื่อให้ Merchant Center มีสิทธิ์ใช้วิธีการเพิ่มสินค้าคงคลังนี้ คุณต้องไม่บล็อก Crawler ของ Google เช่น Google StoreBot และ Googlebot ไม่ให้ทำการ Crawl เว็บไซต์ของคุณ
สิ่งใดที่ทำให้วิธีการนี้ยอดเยี่ยม
- วิธีการนี้ตั้งค่าได้ง่ายมาก เพียงต้องมี URL ของร้านค้าออนไลน์ที่ระบุไว้ใน Merchant Center
- ระบบจะอัปเดตข้อมูลสินค้าคงคลังในร้านใน Merchant Center โดยอัตโนมัติ Google จะพิจารณาการเปลี่ยนแปลงของร้านค้าออนไลน์ (เช่น การเปลี่ยนแปลงราคาหรือการนำผลิตภัณฑ์ออก) จากนั้นจึงอัปเดตข้อมูลใน Merchant Center
สิ่งที่ควรทราบ
- Google จะทำการ Crawl คู่ผลิตภัณฑ์หรือร้านค้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในแต่ละวัน นอกจากนี้ คุณยังเลือกผลิตภัณฑ์และร้านค้าที่เฉพาะเจาะจงได้ตามขีดจำกัดการ Crawl ของเว็บไซต์
- หากต้องการครอบคลุมสินค้าคงคลังมากขึ้น คุณจะต้องระบุข้อมูลสินค้าคงคลังในร้านผ่านไฟล์หรือ Content API
เพิ่มสินค้าคงคลังจากร้านค้าออนไลน์โดยอัตโนมัติ (ครอบคลุมผลิตภัณฑ์และร้านค้าทั้งหมด)
วิธีการทำงาน
การใช้ฟีดอัตโนมัติที่รายงานโดยเว็บไซต์จะให้ข้อมูลสินค้าคงคลังของร้านค้าออนไลน์แก่ Google เมื่อลูกค้าตรวจสอบความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในร้านค้าของคุณโดยใช้แท็ก Google Tag Manager ที่ติดตั้งในเว็บไซต์ ซึ่งทำให้คุณไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลสินค้าคงคลังในร้านอีกต่อไปเมื่อเพิ่มสินค้าคงคลังในร้านค้าของร้านค้าออนไลน์ไปยัง Merchant Center
- การกระทำของลูกค้า: ลูกค้าในเว็บไซต์แสดงความสนใจในผลิตภัณฑ์และต้องการตรวจสอบความพร้อมจำหน่ายสินค้าในร้านค้าใกล้เคียง ลูกค้าอาจคลิกปุ่ม "ตรวจสอบความพร้อมจำหน่ายสินค้าในร้านค้า" หรือเลือกตัวเลือก "ค้นหาในบริเวณใกล้เคียง"
- ทริกเกอร์แท็ก: การกระทำของลูกค้าจะเรียกใช้แท็ก JavaScript ของ Google Tag Manager ที่ฝังอยู่ในโค้ดของเว็บไซต์
- การเก็บรวบรวมและส่งข้อมูล: แท็กจะรวบรวมข้อมูลสินค้าคงคลังที่เกี่ยวข้องสำหรับผลิตภัณฑ์ เช่น รหัส Merchant Center, รหัสผลิตภัณฑ์, ความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปัจจุบัน และอื่นๆ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเพิ่มสินค้าคงคลังในร้านค้าจากร้านค้าออนไลน์ไปยัง Merchant Center โดยอัตโนมัติด้วยฟีดอัตโนมัติที่รายงานโดยเว็บไซต์
- การโอนข้อมูลไปยัง Google: แท็กจะส่งข้อมูลสินค้าคงคลังที่รวบรวมไว้ไปยัง Google
- การอัปเดตใน Merchant Center: Google จะจับคู่ข้อมูลที่ได้รับกับข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดงที่มีอยู่ของคุณใน Google Merchant Center โดยอัตโนมัติ
- การแสดงสินค้าคงคลังในร้าน: ตอนนี้ข้อมูลสินค้าที่พร้อมจำหน่ายมีข้อมูลความพร้อมจำหน่ายสินค้าในร้านแบบเรียลไทม์ และจะแสดงต่อลูกค้าในบริเวณใกล้เคียงที่ค้นหาบน Google ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเหล่านั้นไปยังร้านค้าของคุณ
โดยสรุปแล้ว ฟีดอัตโนมัติที่รายงานโดยเว็บไซต์จะช่วยให้อัปเดตความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในร้านใน Google Merchant Center ได้โดยอัตโนมัติ
สิ่งใดที่ทำให้วิธีการนี้ยอดเยี่ยม
- การจัดการสินค้าคงคลังในร้านที่ง่ายขึ้น: ลดความจำเป็นในการใช้ข้อมูลสินค้าคงคลังในร้านแยกต่างหาก ซึ่งจะช่วยปรับปรุงกระบวนการจัดการสินค้าคงคลังในร้าน
- ข้อมูลอัปเดตแบบเรียลไทม์: ให้ข้อมูลความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในร้านที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันแก่ผู้เลือกซื้อ
- การเข้าชมร้านค้าเพิ่มขึ้น: โปรโมตการเข้าชมร้านค้าโดยแสดงข้อมูลสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์ต่อผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่ค้นหาใน Google
สิ่งที่ควรทราบ
ข้อกำหนดสำหรับความสามารถของเว็บไซต์
หน้าผลิตภัณฑ์ที่ระบุความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในร้านช่วยให้คุณนำลูกค้าไปยังหน้า Landing Page ของผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าสามารถเรียกดูความพร้อมจำหน่ายสินค้าและราคาของผลิตภัณฑ์ในร้านค้าต่างๆ ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหน้าผลิตภัณฑ์ที่ระบุความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในร้าน
ข้อกำหนดในการใช้ติดตั้งใช้งานทางเทคนิค
- การผสานรวม Google Tag Manager: คุณต้องติดตั้งใช้งาน Google Tag Manager ในเว็บไซต์ การติดตั้งใช้งานช่วยให้จัดการและทำให้แท็ก JavaScript ที่จำเป็นใช้งานได้อย่างง่ายดาย
- ทรัพยากรเฉพาะด้านไอที: การติดตั้งใช้งาน Google Tag Manager ต้องใช้ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค คุณต้องจัดสรรทรัพยากรด้านไอทีเพื่อดำเนินการต่อไปนี้
- ติดตั้งแท็ก JavaScript ที่จำเป็นในหน้าผลิตภัณฑ์
- กำหนดค่าแท็กเพื่อบันทึกและส่งแอตทริบิวต์ผลิตภัณฑ์และสินค้าคงคลังที่จำเป็น (เช่น รหัส Merchant Center, รหัสผลิตภัณฑ์, ความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์, รหัสร้านค้า, ราคา และอื่นๆ) ไปยัง Google
เพิ่มสินค้าคงคลังจากไฟล์
วิธีการทำงาน
ใน Merchant Center คุณสามารถเพิ่มไฟล์ที่มีรายละเอียดสินค้าคงคลังในร้านค้าทั้งหมด เช่น ความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในแต่ละร้านค้า, ราคา, SLA สำหรับการรับสินค้า และอื่นๆ โดยรายละเอียดผลิตภัณฑ์แต่ละรายการในไฟล์ควรเชื่อมโยงกับรายการแอตทริบิวต์ของเรา
สิ่งใดที่ทำให้วิธีการนี้ยอดเยี่ยม
- วิธีการนี้ช่วยให้คุณใช้ไฟล์ที่มีอยู่แล้วและมอบวิธีการอัปเดตอัตโนมัติที่สะดวกเหมือนเดิม แต่มีความอเนกประสงค์มากกว่า
- ระบุข้อมูลสินค้าคงคลังสำหรับร้านค้าทุกแห่ง
สิ่งที่ควรทราบ
- การจัดรูปแบบไฟล์มีความสำคัญมาก ข้อมูลที่จัดรูปแบบไม่ถูกต้องหรือขาดหายไปอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดในบัญชีได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างไฟล์ผลิตภัณฑ์สำหรับ Merchant Center
- คุณเลือกอัปโหลดไฟล์แบบครั้งเดียวจากคอมพิวเตอร์ หรือฝากไฟล์จาก URL ที่ซิงค์กับ Merchant Center ทุก 24 ชั่วโมงก็ได้ ระบบจะแสดงการอัปเดตที่คุณทำกับไฟล์ใน Merchant Center
- คุณควรรีเฟรชข้อมูลสินค้าคงคลังในร้านทุกวัน
ใช้ Content API
วิธีการทำงาน
Content API for Shopping ช่วยให้แอปโต้ตอบกับแพลตฟอร์ม Merchant Center ได้โดยตรง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูลสินค้าคงคลังในร้านที่มีขนาดใหญ่หรือซับซ้อน
สิ่งใดที่ทำให้วิธีการนี้ยอดเยี่ยม
- วิธีนี้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลสินค้าคงคลังบ่อยครั้ง
สิ่งที่ควรทราบ
- Content API ต้องใช้การผสานรวมทางเทคนิคกับการจัดการสินค้าคงคลัง
ลิงก์ Merchant Center กับผู้ให้บริการข้อมูลในร้าน
วิธีการทำงาน
หากทำงานร่วมกับผู้ให้บริการข้อมูลในร้านที่จัดการสินค้าคงคลังในร้าน คุณสามารถลิงก์บัญชี Merchant Center กับผู้ให้บริการข้อมูลได้
สิ่งใดที่ทำให้วิธีการนี้ยอดเยี่ยม
- คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการระบุข้อมูลสินค้าคงคลังในร้านไปยัง Merchant Center พาร์ทเนอร์ด้านข้อมูลจะจัดการสินค้าคงกลังให้คุณเอง
สิ่งที่ควรทราบ
- คุณต้องทำงานร่วมกับผู้ให้บริการข้อมูลบุคคลที่สามที่ได้รับอนุมัติ
ฟีดอัตโนมัติที่รายงานโดยเว็บไซต์
วิธีการทำงาน
- ฟีดอัตโนมัติที่รายงานโดยเว็บไซต์จะทำให้กระบวนการแสดงสินค้าคงคลังในร้านบน Google เป็นแบบอัตโนมัติ เมื่อลูกค้าในเว็บไซต์ตรวจสอบความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในร้านค้า เช่น เลือกปุ่ม "ตรวจสอบความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในร้าน" ระบบจะทริกเกอร์แท็ก JavaScript ของ Google Tag Manager ที่ฝังอยู่ในเว็บไซต์ แท็กจะรวบรวมข้อมูลสินค้าคงคลังที่สำคัญ ซึ่งรวมถึงรหัส Merchant Center, รหัสผลิตภัณฑ์, ความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปัจจุบัน, รหัสร้านค้า, ราคา, ประเทศ และภาษา
- จากนั้นระบบจะส่งข้อมูลไปยัง Google โดยตรง ซึ่งจะจับคู่กับข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดงที่มีอยู่ของคุณใน Google Merchant Center โดยอัตโนมัติ กระบวนการนี้จะเพิ่มข้อมูลความพร้อมจำหน่ายในร้านแบบเรียลไทม์ให้กับผลิตภัณฑ์ที่พร้อมจำหน่าย จากนั้นระบบจะแสดงผลิตภัณฑ์ดังกล่าวต่อลูกค้าในบริเวณใกล้เคียงที่ค้นหาบน Google และช่วยเพิ่มการเข้าชมหน้าร้านจริง
- โดยพื้นฐานแล้ว ฟีดอัตโนมัติที่รายงานโดยเว็บไซต์จะอัปเดตความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในร้านของคุณใน Google Merchant Center โดยอัตโนมัติ เพื่อให้ลูกค้าได้รับข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดและกระตุ้นให้เข้าชมร้านค้า
สิ่งใดที่ทำให้วิธีการนี้ยอดเยี่ยม
- ช่วยให้การแสดงข้อมูลสินค้าคงคลังในร้านบน Google ง่ายขึ้น เมื่อใช้ฟีดอัตโนมัติที่รายงานโดยเว็บไซต์ คุณไม่จำเป็นต้องอัปโหลดข้อมูลสินค้าคงคลังในร้านด้วยตนเองอีกต่อไปเมื่อเพิ่มสินค้าคงคลังในร้านค้าของร้านค้าออนไลน์ไปยัง Merchant Center
- อัปเดตความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในร้านโดยอัตโนมัติและช่วยให้ลูกค้าได้รับข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด
สิ่งที่ควรทราบ
หากต้องการใช้ฟีดอัตโนมัติที่รายงานโดยเว็บไซต์ คุณจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดต่อไปนี้
- ความสามารถของเว็บไซต์: หน้าผลิตภัณฑ์ต้องแสดงความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในร้าน ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าเรียกดูความพร้อมจำหน่ายและราคาของผลิตภัณฑ์ในร้านค้าต่างๆ ได้
- การผสานรวม Google Tag Manager: Google Tag Manager เป็นข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติตามสำหรับการติดตั้งใช้งาน เพื่อให้เปิดใช้ได้ง่ายและติดตั้งใช้งานในเว็บไซต์ได้อย่างปลอดภัย
- แหล่งข้อมูลเฉพาะด้านไอที: เว็บไซต์ของคุณต้องสามารถให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์และสินค้าคงคลังแก่แท็ก Google Tag Manager ได้ ความเชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมและ JavaScript ของเว็บไซต์จะเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการใช้งานที่ประสบความสำเร็จ
เมื่อมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดเหล่านี้แล้ว คุณจะต้องทำตามขั้นตอนการติดตั้งใช้งานอีกไม่กี่ขั้นตอนขั้นตอน