การแจ้งเตือน

รับเคล็ดลับการเพิ่มประสิทธิภาพที่ปรับให้เหมาะกับแอปของคุณ เห็นประสิทธิภาพในการทำงานของบัญชีและความสมบูรณ์ในการตั้งค่าต่างๆ ใน "หน้า AdMob ของฉัน" ที่ได้รับการปรับปรุงนี้

สร้างหน่วยโฆษณาคั่นระหว่างหน้าที่มีการให้รางวัล (เบต้า)

ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในรุ่นเบต้า

หน่วยโฆษณาคั่นระหว่างหน้าที่มีการให้รางวัลจะปรากฏโดยอัตโนมัติ และแสดงโฆษณาแบบเต็มหน้าในแอปที่ให้รางวัลแก่ผู้ใช้เมื่อดูโฆษณา วางหน่วยโฆษณาประเภทนี้ที่จุดพักปกติและจุดเปลี่ยนแปลงในอินเทอร์เฟซแอป เช่น หลังจากเล่นเกมผ่านด่าน

ผู้ใช้ไม่จําเป็นต้องเลือกดูโฆษณาคั่นระหว่างหน้าที่มีการให้รางวัล ซึ่งต่างจากโฆษณาที่มีการให้รางวัล หน่วยโฆษณาคั่นระหว่างหน้าที่มีการให้รางวัลสามารถแสดงโฆษณาแบบอินเทอร์แอกทีฟและโฆษณาวิดีโอ 

How to implement rewarded interstitial ads

หมายเหตุ: เฉพาะโฆษณาแบบข้ามได้เท่านั้นที่จะแสดงในหน่วยโฆษณาคั่นระหว่างหน้าที่มีการให้รางวัล ซึ่งปัจจุบันรวมถึงดีมานด์จาก AdMob และ Meta Audience Network เรายังไม่รองรับสื่อกลางที่มีเครือข่ายโฆษณาอื่นๆ แต่อาจมีการเพิ่มในอนาคต 

ขั้นตอนต่อไปนี้จะช่วยคุณสร้างหน่วยโฆษณาใหม่ในบัญชี AdMob และนำไปติดตั้งใช้งานในโค้ดของแอป คุณต้องทำตามขั้นตอนทั้งหมดจึงจะเริ่มแสดงโฆษณาในหน่วยโฆษณานี้ได้

หมายเหตุ: เมื่อคุณใช้หน่วยโฆษณาคั่นระหว่างหน้าที่มีการให้รางวัลในแอป โปรดอ่านนโยบายสําหรับหน่วยโฆษณาที่มีการให้รางวัลและหลักเกณฑ์เกี่ยวกับโฆษณาคั่นระหว่างหน้า สําหรับทั้งการใช้โฆษณาคั่นระหว่างหน้าที่ไม่ได้รับอนุญาตและที่แนะนํา

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี AdMob ที่ https://admob.google.com
  2. คลิกแอปในแถบด้านข้าง
  3. เลือกชื่อแอปที่ต้องการสร้างหน่วยโฆษณานี้ให้ หากไม่เห็นแอปในรายชื่อแอปล่าสุด ให้คลิกเพิ่มแอปเพื่อเพิ่มแอปใหม่ หรือคลิกดูแอปทั้งหมดเพื่อค้นหาจากรายชื่อแอปทั้งหมดที่คุณได้เพิ่มใน AdMob
  4. คลิกหน่วยโฆษณาในแถบด้านข้าง
  5. คลิกเริ่มต้นใช้งาน หากคุณสร้างหน่วยโฆษณาสำหรับแอปแล้ว ให้คลิกเพิ่มหน่วยโฆษณา 
  6. คลิกเลือกรูปแบบโฆษณาที่มีการให้รางวัล
  7. ป้อนชื่อหน่วยโฆษณา เคล็ดลับ: ใส่ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น รูปแบบโฆษณาและตำแหน่งในแอป เพื่อช่วยให้กลับมาหาในภายหลังได้ง่ายขึ้น

  8. ตั้งค่ารางวัลให้หน่วยโฆษณานี้ให้เสร็จสมบูรณ์
    • จำนวนรางวัล: ป้อนจำนวนไอเท็มของรางวัลที่ผู้ใช้จะได้รับ โดยต้องเป็นเลขจำนวนเต็ม
    • ไอเท็มของรางวัล: ป้อนชื่อไอเท็มของรางวัลที่ผู้ใช้จะได้รับ ตัวอย่างเช่น เหรียญ ไอเท็มเพิ่มชีวิต
    • ช่องทำเครื่องหมาย: ลบล้างการตั้งค่าการให้รางวัลที่กำหนดโดยเครือข่ายโฆษณาบุคคลที่สาม โดยช่องนี้จะทำเครื่องหมายโดยค่าเริ่มต้น
  9. (ไม่บังคับ) ตั้งค่าขั้นสูงให้หน่วยโฆษณานี้จนเสร็จสมบูรณ์
    • ประเภทโฆษณา: เลือกประเภทโฆษณาที่อนุญาตให้แสดงในหน่วยโฆษณานี้ คุณสามารถเลือกประเภทโฆษณาผสมผสานกันอย่างไรก็ได้โดยการทำเครื่องหมายในช่อง การเลือกไม่ทำเครื่องหมายในทุกช่องจะส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาด คุณต้องเลือกโฆษณาอย่างน้อย 1 ประเภทสำหรับหน่วยโฆษณาแต่ละหน่วย เคล็ดลับ: เราขอแนะนำให้เลือกทุกช่องเพื่อช่วยเพิ่มรายได้ของหน่วยโฆษณานี้ให้ได้มากที่สุด

    • การยืนยันฝั่งเซิร์ฟเวอร์ (SSV) เป็นอีกวิธีการตรวจสอบความถูกต้องของการดูโฆษณาที่มีการให้รางวัลในแอป ซึ่งเราใช้นอกเหนือจากการเรียกกลับทางฝั่งไคลเอ็นต์แบบมาตรฐาน

      1. คลิกตั้งค่าและยืนยัน URL เรียกกลับข้างๆ การยืนยันฝั่งเซิร์ฟเวอร์ 
      2. ตั้งค่าการยืนยันฝั่งเซิฟร์เวอร์ให้เรียบร้อย
        • URL โค้ดเรียกกลับ: URL แบบเต็มที่คุณต้องการให้ AdMob ส่งถึงคุณเมื่อผู้ใช้ดูโฆษณาที่มีการให้รางวัลจนจบ (เช่น https://example.com/sample_ssv)
        • รหัสผู้ใช้ (ไม่บังคับ) : ใช้สำหรับการทดสอบเท่านั้น User ID คือตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันที่ระบบกำหนดให้ผู้ใช้แต่ละราย ซึ่งจะช่วยให้คุณทราบได้ว่าใครต้องได้รับรางวัลจากการดูโฆษณาจนจบ หากต้องการใช้ ให้ตั้งค่าพารามิเตอร์ user_id ใน SDK
        • ข้อมูลที่กำหนดเอง (ไม่บังคับ): ใช้สำหรับทดสอบเท่านั้น ระบบจะได้รับข้อมูลที่กำหนดเองในการเรียกกลับหลังจากที่ผู้ใช้ดูโฆษณาจนจบแล้ว ตัวอย่างเช่น คุณใส่พารามิเตอร์เพื่อดูว่าผู้ใช้อยู่ในระดับใดได้ หากต้องการใช้ ให้ตั้งค่าพารามิเตอร์ custom_data ใน SDK 
      3. คลิกยืนยัน URL 
        หทายเหตุ: คุณต้องยืนยัน URL ก่อนจึงจะตั้งค่า SSV ได้ 
      4. คลิกใช้ URL ที่ยืนยันแล้ว 
    • การกำหนดความถี่สูงสุดช่วยให้คุณจำกัดจำนวนครั้งที่โฆษณาจะแสดงต่อผู้ใช้รายเดิมได้ 

      1. คลิกปุ่มสลับเพื่อเปิดหรือปิดใช้การกําหนดความถี่สูงสุด  
      2. เลือกตัวเลือกการกําหนดความถี่สูงสุด ดังนี้
        • หลังจากเปิดใช้แล้ว ให้ป้อนจํานวนการแสดงผลที่คุณต้องการให้แสดงต่อผู้ใช้แต่ละคนในหน่วยโฆษณาคั่นระหว่างหน้า หน่วยโฆษณาที่มีการให้รางวัล หรือหน่วยโฆษณาเปิดแอปใดๆ ในแอปนี้ แล้วเลือกระยะเวลา (ต่อจํานวนนาที ชั่วโมง หรือวัน ) เช่น คุณสามารถกำหนดความถี่สูงสุดเพื่อให้แสดงผลไม่เกิน 2 ครั้งต่อ 30 นาทีได้
    • eCPM ขั้นต่ำ: คุณกำหนด eCPM ขั้นต่ำให้กับหน่วยโฆษณาแต่ละหน่วยที่สร้างได้ ซึ่งจะเป็นการสั่งเครือข่าย AdMob ไม่ให้แสดงโฆษณาไปยังหน่วยโฆษณาที่มีค่า eCPM ต่ำกว่าขั้นต่ำที่คุณกำหนดไว้ เลือกวิธีกำหนด eCPM ขั้นต่ำ ดังนี้

      1. เพิ่มประสิทธิภาพโดย Google: Google จะกำหนดราคาขั้นต่ำแบบไดนามิกโดยอิงตามสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของผู้ใช้ การเข้าชมของหน่วยโฆษณา และข้อมูลประวัติ การใช้ eCPM ขั้นต่ำที่เพิ่มประสิทธิภาพโดย Google จะช่วยเพิ่มรายได้รวมให้สูงสุด คุณสามารถเลือกวิธีที่จะให้ Google เพิ่มประสิทธิภาพ eCPM ขั้นต่ำจากวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้
        • ค่าขั้นต่ำสูง (เบต้า): Google จะเพิ่มจำนวนโฆษณาที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด
        • ค่าขั้นต่ำปานกลาง (เบต้า): Google จะหาสมดุลระหว่างโฆษณาที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดกับอัตราการส่งโฆษณา 
        • ราคาทั้งหมด: Google จะเพิ่มอัตราการส่งโฆษณาให้ได้สูงสุดในทุกจุดราคา  
          อินเทอร์เฟซ AdMob ที่แสดง eCPM ในหน่วยโฆษณา
      2. ค่าขั้นต่ำที่กำหนดเอง: คุณจะกำหนดมูลค่า eCPM ขั้นต่ำให้กับหน่วยโฆษณาแต่ละหน่วยด้วยตัวเอง เครือข่าย AdMob จะไม่แสดงโฆษณาที่มี eCPM ต่ำกว่า eCPM ขั้นต่ำที่คุณกำหนดให้กับหน่วยโฆษณา
      3. ปิดใช้: ไม่มี eCPM ขั้นต่ำสําหรับหน่วยโฆษณานี้
      หมายเหตุ: eCPM ขั้นต่ำนี้จะใช้กับเครือข่าย AdMob เท่านั้น โดยไม่ได้ส่งผลต่อเครือข่ายโฆษณาของบุคคลที่สามและเหตุการณ์ที่กำหนดเองซึ่งกำหนดค่าเป็นแหล่งที่มาของโฆษณาในกลุ่มสื่อกลาง
  10. คลิกสร้างหน่วยโฆษณา
  11. ทําตามวิธีการใน Google Developers สําหรับ Android, iOS หรือ Unity เพื่อติดตั้งใช้งานหน่วยโฆษณาคั่นระหว่างหน้าที่มีการให้รางวัลในโค้ดของแอป คุณจะต้องระบุรหัสแอปและรหัสหน่วยโฆษณาในระหว่างการติดตั้งใช้งาน

    หน่วยโฆษณานี้จะไม่แสดงโฆษณาจนกว่าคุณจะทำขั้นตอนนี้ หากยังไม่พร้อมที่จะติดตั้งหน่วยโฆษณา ให้คลิกส่งอีเมลเพื่อส่งวิธีการทางอีเมล หรือคลิกเสร็จสิ้นเพื่อออกจากหน้า

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
16359194193109279050
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
false
true
true
true
true
true
73175
false
false
false
false