หลังจากองค์กรของคุณลงชื่อสมัครใช้ Google Voice แล้ว ทีมของคุณจะได้รับหมายเลขโทรศัพท์สำหรับการโทร ข้อความ และข้อความเสียง ซึ่งผู้ใช้สามารถเชื่อมโยงหมายเลขของตนกับหมายเลขโทรศัพท์มือถือหรือโทรศัพท์พื้นฐานที่มีอยู่ และใช้งาน Voice ในสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ได้
ข้อควรปฏิบัติก่อนที่จะเริ่มต้น
ขั้นตอนการตั้งค่า (แนะนำ)
- เพิ่ม Voice ไปยัง Google Workspace
- เพิ่มสถานที่ตั้งในการใช้งาน Voice
- มอบหมายใบอนุญาต Voice ให้ผู้ใช้
- กำหนดหมายเลข Voice ให้กับผู้ใช้
- สนับสนุนผู้ใช้ Voice
ขั้นตอนการตั้งค่าเพิ่มเติม
คุณอาจต้องทำตามขั้นตอนการตั้งค่าเพิ่มเติม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับองค์กร
- ย้ายหมายเลขธุรกิจ - หากองค์กรมีหมายเลขโทรศัพท์กับผู้ให้บริการรายอื่นอยู่แล้ว คุณจะย้าย (หรือโอน) หมายเลขดังกล่าวไปยัง Google Voice ได้
- ย้ายผู้ใช้ Voice ที่มีอยู่ไปยังบัญชีที่จัดการ - ก่อนที่ Google Voice for Google Workspace จะมีให้บริการ ผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาสามารถใช้บัญชีงานหรือบัญชีโรงเรียนเพื่อลงชื่อสมัครใช้ Google Voice ซึ่งคุณจะย้ายข้อมูลบัญชีที่ไม่มีจัดการดังกล่าวไปยังบัญชีที่จัดการได้
- มอบหมายบทบาทผู้ดูแลระบบ Voice ให้กับสมาชิกในทีม - หากต้องการให้บุคคลอื่นในองค์กรดำเนินการบางอย่างใน Google Voice ได้ เช่น กำหนดหมายเลข ตั้งค่าโทรศัพท์ตั้งโต๊ะ หรือจัดการใบอนุญาตของผู้ใช้ ให้มอบหมายบทบาทผู้ดูแลระบบที่มีสิทธิ์ใน Voice ให้กับบุคคลนั้น โดยหากมอบหมายบทบาทผู้ดูแลระบบ Voice ให้กับผู้ใช้ ผู้ใช้รายดังกล่าวยังสามารถจัดการใบอนุญาตของผู้ใช้สำหรับบริการอื่นๆ ของ Google ได้ด้วย
เปิดใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูง
ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น กลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้รับสายและการต่อสายอัตโนมัติจะช่วยให้คุณดำเนินการต่างๆ ในเครือข่าย Google Voice ได้มากขึ้น หลังจากการตั้งค่าครั้งแรก ให้เปิดใช้งานฟีเจอร์เหล่านี้เพื่อใช้ Voice for Workspace ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- เปิดการบันทึกการโทรอัตโนมัติ
- ตั้งค่ากลุ่มผู้ใช้ Google Voice ที่เป็นผู้รับสาย
- ตั้งค่าการต่อสายอัตโนมัติใน Voice
- ตั้งค่าโทรศัพท์ตั้งโต๊ะให้ใช้กับ Voice
หมายเหตุ: ฟีเจอร์บางอย่างอาจใช้ไม่ได้กับการสมัครใช้บริการทุกรุ่น หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ที่มีให้ในการสมัครใช้บริการแต่ละระดับ โปรดอ่านหัวข้อเปรียบเทียบฟีเจอร์ของ Voice ตามแพ็กเกจ
การตั้งค่า Chrome ของ Workspace เพื่ออนุญาตให้เล่นเสียงใน Google Voice
Chrome จะตัดสินใจโดยอัตโนมัติเกี่ยวกับเสียงที่เล่นโดยแท็บที่ไม่ได้ใช้งาน กรณีนี้เกิดขึ้นได้หากผู้ใช้ไม่ค่อยโต้ตอบกับ Google Voice โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อแก้ปัญหาคุณภาพสายที่โทรผ่าน Google Voice
คุณสามารถอนุญาตให้ผู้ดูแลระบบระบุสิทธิ์และการตั้งค่าเว็บไซต์ในระดับ OU ในคอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google ได้ดังนี้
- ตั้งค่าเบราว์เซอร์ที่มีการจัดการ หากยังไม่ได้ดำเนินการ
- ไปที่เบราว์เซอร์ Chrome
เบราว์เซอร์ที่มีการจัดการ
- คลิกลงทะเบียน แล้ววางโทเค็นที่สร้างขึ้นลงในเบราว์เซอร์ Chrome ตามระบบปฏิบัติการที่ใช้งาน
- เมื่อลงทะเบียนแล้ว คุณควรเห็นอุปกรณ์ปรากฏในหน้าเบราว์เซอร์ที่มีการจัดการ
โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อลงทะเบียนเบราว์เซอร์ Chrome ที่มีการจัดการบนระบบคลาวด์ - อัปเดตการตั้งค่าต่อไปนี้ในส่วนเบราว์เซอร์ Chrome
การตั้งค่า
การตั้งค่าผู้ใช้และเบราว์เซอร์
- เนื้อหา
การแจ้งเตือน (หากต้องการค้นหา ให้พิมพ์ "การแจ้งเตือน" ในตัวกรองการค้นหาข้อความแบบเต็ม)
- https://chromeenterprise.google/policies/#DefaultNotificationsSetting
- https://chromeenterprise.google/policies/#NotificationsAllowedForUrls
- การตั้งค่าอื่นๆ
ข้อยกเว้นในการทิ้งแท็บ (พิมพ์ "ทิ้ง" ในตัวกรองการค้นหาเพื่อค้นหา)
- เนื้อหา
วิดีโอแบบเล่นอัตโนมัติ (พิมพ์ "เล่นอัตโนมัติ" ในตัวกรองการค้นหาเพื่อค้นหา)
https://chromeenterprise.google/policies/#AutoplayAllowlist
โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อตั้งค่านโยบายสำหรับเบราว์เซอร์ Chrome ที่ลงทะเบียนแล้ว
- ยืนยันว่าใช้งานได้ คุณควรเห็น "จัดการโดย [โดเมน]" ในเมนู Chrome
ไปที่ voice.google.com แล้วคลิกการตั้งค่าเว็บไซต์ คุณควรเห็น "การแจ้งเตือน" เป็น "อนุญาต" และตั้งค่าโดยนโยบายของเว็บไซต์ แบนเนอร์การช่วยเตือนให้เปิดเสียงจะไม่ปรากฏขึ้นเช่นกัน แต่จะไม่แสดงรายการใดที่นี่
เพื่อเป็นการตรวจสอบว่า AutoplayAllowList ใช้งานได้ ให้ลองยกเลิกการตั้งค่าจากหน้าผู้ดูแลระบบ จากนั้นรอ 30 วินาทีแล้วกดโหลดเบราว์เซอร์ซ้ำ คุณควรเห็นแบนเนอร์ช่วยเตือนให้เปิดใช้เสียง - (ไม่บังคับ) หากต้องการให้สิทธิ์เข้าถึงไมโครโฟนสำหรับ Voice โดยอัตโนมัติ ให้ทำตามขั้นตอนเพิ่มเติม คือ ให้มองหา "AudioCaptureAllowedUrls" ในตัวกรองการค้นหาและในส่วนฮาร์ดแวร์ > URL ที่อนุญาตของอินพุตเสียง
https://chromeenterprise.google/policies/#AudioCaptureAllowedUrls
หากต้องการยืนยันว่าใช้งานได้ ให้เปิดการตั้งค่า Chrome ในส่วนความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยไมโครโฟน แล้วคุณจะเห็นเว็บไซต์ที่เพิ่มไว้
ใช้ SIP Link ของ Google
SIP Link ของ Google ช่วยให้คุณเชื่อมต่อผู้ให้บริการที่มีอยู่กับ Google ผ่านชุดตัวควบคุมขอบเขตเซสชัน (SBC) ที่ได้รับการรับรองแล้ว ตัวเลือกที่เพิ่มเข้ามานี้ช่วยให้คุณใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมที่มีอยู่ รวมทั้งยังใช้บริการของผู้ให้บริการรายปัจจุบันได้อย่างไม่ขาดตอน