หมายเหตุ: Google ไม่รองรับรูปแบบการระบุแหล่งที่มาแบบคลิกแรก เชิงเส้น ลดลงตามเวลา และตามตำแหน่งอีกต่อไป เราได้อัปเกรดการกระทำที่ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญซึ่งใช้รูปแบบการระบุแหล่งที่มาที่เลิกใช้งานแล้วให้ใช้การระบุแหล่งที่มาโดยอิงตามข้อมูล นอกจากนี้ คุณยังเปลี่ยนไปใช้รูปแบบคลิกสุดท้าย ซึ่งเป็นรูปแบบที่ยังรองรับอยู่ได้ด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบที่เลิกใช้งานแล้ว
ลูกค้าสามารถดูข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดงหลายรายการจากผู้ขายรายเดียวกันก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์สำคัญ รูปแบบการระบุแหล่งที่มาเป็นตัวกำหนดจำนวนเครดิตที่การโต้ตอบกับข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดงแต่ละครั้งจะได้รับจากการซื้อ รูปแบบเหล่านี้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดงและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเส้นทางเหตุการณ์สำคัญ
บทความนี้อธิบายรูปแบบการระบุแหล่งที่มาแบบต่างๆ และวิธีใช้รูปแบบเหล่านั้นใน Merchant Center
ประโยชน์
ผู้ขายส่วนใหญ่เคยชินกับการวัดความสำเร็จของประสิทธิภาพข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดงโดยอิงตาม "การระบุแหล่งที่มาโดยอิงตามข้อมูล" ซึ่งหมายความว่าเครดิตทั้งหมดสำหรับการซื้อหนึ่งๆ จะตกไปอยู่ที่ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดงและคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องที่ได้รับคลิกสุดท้าย
รูปแบบการระบุแหล่งที่มาช่วยให้คุณควบคุมได้มากขึ้นว่าจะให้การโต้ตอบกับข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดงแต่ละครั้งได้รับเครดิตสำหรับการซื้อเป็นจำนวนเท่าใด วิธีนี้ช่วยให้คุณทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- ทำความเข้าใจการเข้าชมจากการค้นหาทั่วไป: รูปแบบการระบุแหล่งที่มาช่วยให้ผู้ขายเห็นว่าข้อมูลที่แสดงฟรีนำไปสู่การเข้าชมเว็บไซต์ การดูผลิตภัณฑ์ และการซื้อในท้ายที่สุดบ่อยเพียงใด
- เพิ่มประสิทธิภาพการแสดงผลิตภัณฑ์: เมื่อทราบข้อมูลที่แสดงฟรีที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด ผู้ขายก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพชื่อ รายละเอียด และรูปภาพของผลิตภัณฑ์เพื่อปรับปรุงการแสดงข้อมูลในผลการค้นหา
- จัดสรรทรัพยากร: ข้อมูลการระบุแหล่งที่มาจะช่วยเป็นแนวทางในการตัดสินใจว่าควรใช้ทรัพยากรกับสิ่งใด หากการเข้าชมจากการค้นหาทั่วไปทำให้เกิดการซื้อจำนวนมาก ผู้ขายอาจลงทุนกับ SEO และการเพิ่มประสิทธิภาพข้อมูลผลิตภัณฑ์มากขึ้น
เกี่ยวกับรูปแบบการระบุแหล่งที่มาแบบต่างๆ
ปัจจุบัน Merchant Center นำเสนอรูปแบบการระบุแหล่งที่มาหลากหลายรูปแบบ ได้แก่
วิธีสร้างหรือแก้ไขรูปแบบการระบุแหล่งที่มาสำหรับการซื้อ
- ในบัญชี Merchant Center คลิกไอคอนการตั้งค่าและเครื่องมือ
- คลิกการตั้งค่าเหตุการณ์สำคัญ
- เปิดการติดแท็กอัตโนมัติ
- คลิกเพิ่มแหล่งที่มาของเหตุการณ์สำคัญ แล้วทำตามขั้นตอนถัดไปในการสร้างเหตุการณ์สำคัญ หากต้องการแก้ไขเหตุการณ์สำคัญ ให้เลือกแหล่งที่มาของเหตุการณ์สำคัญที่เพิ่มไว้แล้ว