แก้ปัญหาหากเสียงเรียกเข้าอุปกรณ์ไม่ดัง

หัวข้อในบทความนี้ประกอบด้วย

ข้อกำหนดและขั้นตอนการแก้ปัญหา

ข้อกำหนด

ขั้นตอนการแก้ปัญหา

ตรวจสอบว่าคุณได้ติดตั้งแอป Meet และแอป Gmail รวมถึงอัปเดตแอปเป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้ว

ผู้ใช้สามารถเริ่มการโทรผ่าน Meet ได้จากแอป Meet, แอป Gmail และแอป Chat โดยให้ดำเนินการต่อไปนี้เพื่อให้ไม่พลาดสายเรียกเข้า

เคล็ดลับ: ตรวจสอบว่าแอปของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุด

เมื่อเปิด Meet เป็นครั้งแรก ให้ทำตามขั้นตอนการลงทะเบียนให้เสร็จสมบูรณ์

  1. เลือกบัญชีในหน้าจอลงชื่อเข้าใช้
  2. เพิ่มและยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ หากเคยข้ามขั้นตอนนี้ไป โปรดดูวิธีดำเนินการในตอนนี้
  3. ให้สิทธิ์ทั้งหมดในการต่อสาย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิ์

ตรวจสอบว่า Meet และ Gmail เปิดสิทธิ์การแจ้งเตือนไว้

Meet
  • หากต้องการเปิดการส่งเสียงเรียกเข้า ให้ทำดังนี้
    1. ใน iPhone หรือ iPad ให้แตะ Settings จากนั้น Apps จากนั้น Meet
    2. แตะ Notifications จากนั้น Allow notifications จากนั้น Notification delivery
  • เปิดไมโครโฟน
    1. ใน iPhone หรือ iPad ให้แตะ Settings จากนั้น Apps จากนั้น Meet
    2. เปิดใช้ Microphone
  • เปิดกล้อง
    1. ใน iPhone หรือ iPad ให้แตะ Settings จากนั้น Apps จากนั้น Meet
    2. เปิดใช้ Camera
Gmail
  • หากต้องการเปิดใช้ Chat ให้ทำดังนี้
    1. ใน iPhone หรือ iPad ให้แตะ Gmail จากนั้น Settings จากนั้น Chat
    2. เปิดใช้ Chat
  • หากต้องการเปิดการส่งเสียงเรียกเข้า ให้ทำดังนี้
    1. ใน iPhone หรือ iPad ให้แตะ Gmail จากนั้น Settings.
    2. เปิดใช้ Ringing for incoming calls
  • เปิดไมโครโฟน
    1. ใน iPhone หรือ iPad ให้แตะ Settings จากนั้น Gmail
    2. เปิดใช้ Microphone
  • เปิดกล้อง
    1. ใน iPhone หรือ iPad ให้แตะ Settings จากนั้น Meet
    2. เปิดใช้ Camera

ตรวจสอบการตั้งค่าอุปกรณ์

ตรวจสอบว่าอุปกรณ์เปิดอยู่และเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ แต่การตั้งค่าต่อไปนี้ปิดอยู่

  • โหมดห้ามรบกวน
  • โหมดโฟกัส
  • โหมดบนเครื่องบิน

ตรวจสอบว่าคุณมีหมายเลขโทรศัพท์ที่เชื่อมโยงกับ Meet

  1. เปิดแอป Meet
  2. แตะรูปโปรไฟล์บัญชี Google
  3. ตรวจสอบว่ามีหมายเลขโทรศัพท์แสดงอยู่ที่ด้านล่างของเมนู
  4. หากไม่เห็น ให้แตะเพิ่มหมายเลขโทรศัพท์

เคล็ดลับ: การซิงค์หมายเลขโทรศัพท์ที่เพิ่มใหม่อาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง หากคุณดำเนินการดังกล่าวภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โปรดรอสักครู่แล้วกลับมาอีกครั้ง

ตรวจสอบว่าอุปกรณ์มีบัญชีการโทรเวอร์ชันเดิมที่มีอีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกต้อง

  1. เปิดแอป Google Meet
  2. แตะรูปโปรไฟล์บัญชี Google
  3. แตะบัญชีที่ต้องการใช้การโทรเวอร์ชันเดิม
  4. ที่ด้านซ้ายบน ให้แตะเมนู จากนั้น การตั้งค่า
    • หากมี "การตั้งค่าการโทร (เวอร์ชันเดิม)" แสดงอยู่ แสดงว่าเป็นบัญชีที่คุณเชื่อมโยงกับการโทร

ตรวจสอบว่าหมายเลขโทรศัพท์ของคุณติดต่อได้

  1. ไปที่ myaccount.google.com/phone
  2. ตรวจสอบว่ามีหมายเลขโทรศัพท์ และเมื่อแตะหมายเลขดังกล่าว การแชร์ที่ดีขึ้นใน Google จะเปิดใช้งาน
    • หากปิดอยู่ คุณต้องยืนยันหมายเลขโทรศัพท์เพื่อเปิดใช้
  3. ที่ด้านล่าง ให้ตรวจสอบว่า Meet แสดงเป็นแอปที่มีหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ หากยังไม่มีหมายเลข ให้เพิ่มหมายเลขโทรศัพท์ของคุณใน Meet โดยทำดังนี้
    1. แตะรูปโปรไฟล์บัญชี Google บนอุปกรณ์เคลื่อนที่
    2. แตะเพิ่มหมายเลขโทรศัพท์
    3. แตะหมายเลขโทรศัพท์ที่ต้องการใช้โทรออกและรับสายผ่าน Meet หรือเพิ่มหมายเลขใหม่
    4. แตะต่อไป
    5. หากหมายเลขของคุณมีลักษณะดังนี้
      • เชื่อมโยงกับบัญชี Google อยู่แล้ว ระบบจะยืนยันหมายเลขดังกล่าวโดยอัตโนมัติ
      • หากไม่ได้เชื่อมโยงกับบัญชี Google อยู่ Google Meet จะส่งรหัสทาง SMS ไปยังหมายเลขที่คุณป้อน โดยอาจมีค่าบริการ SMS จากผู้ให้บริการ
    6. ป้อนรหัสที่ได้รับ

สำคัญ

  • หากคุณมีหมายเลขโทรศัพท์หลายหมายเลข ให้ทำดังนี้
    1. ไปที่ myaccount.google.com/phone
    2. ตรวจสอบว่า "การแชร์ที่ดีขึ้น" เปิดอยู่สำหรับหมายเลขโทรศัพท์ที่คุณต้องการให้ผู้ใช้โทรหา
    3. ปิดการแชร์ที่ดีขึ้นสำหรับหมายเลขอื่นๆ ทั้งหมด

ตรวจสอบการตั้งค่าว่าใครสามารถติดต่อคุณได้บ้าง

ในแอป Meet ให้ทำดังนี้

  1. เปิดแอป Google Meet
  2. แตะเมนู จากนั้น การตั้งค่า จากนั้น ทั่วไป
  3. แตะเฉพาะรายชื่อติดต่อเท่านั้นที่โทรหาฉันได้
    • หากเปิดใช้ฟีเจอร์นี้ โปรดตรวจสอบว่าผู้ที่โทรหาคุณเป็นบุคคลในรายชื่อติดต่อที่มีหมายเลขโทรศัพท์หรืออีเมลบันทึกไว้

ในแอป Gmail ให้ทำดังนี้

  1. แตะเมนู จากนั้น การตั้งค่า จากนั้น แชท
  2. เปิดแสดงแท็บแชท
  3. แตะเมนู จากนั้น การตั้งค่า
  4. เปิดส่งเสียงเมื่อมีสายเรียกเข้า
ตรวจสอบว่าผู้ใช้ที่คุณต้องการรับสายไม่ได้อยู่ในรายชื่อผู้ใช้ที่ถูกบล็อก

ใน iOS ให้ทำดังนี้

  1. เปิดแอป Google Meet
  2. แตะเมนู จากนั้น การตั้งค่า จากนั้น บัญชี จากนั้น ผู้ใช้ที่ถูกบล็อก
  3. ที่ด้านข้างบัญชีหรือหมายเลขโทรศัพท์ที่ต้องการเลิกบล็อก ให้แตะ

สำคัญ: หากบุคคลที่โทรหาคุณปิดใช้บัญชี Google ไว้ ระบบจะบล็อกสายโทรเข้าจากบุคคลดังกล่าวเนื่องจากอาจพิจารณาว่าเป็นสแปม ผู้ที่ต้องการติดต่อคุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชีที่ปิดใช้และวิธีกู้คืนบัญชี

การตั้งค่าบัญชีของเด็ก

บัญชีของเด็กจะรับสายได้เฉพาะการโทรจากรายชื่อติดต่อที่มีอีเมลของเด็กเท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชีของเด็ก

ตรวจสอบการตั้งค่าผู้ดูแลระบบสำหรับผู้ใช้ Business และ EDU

โดยค่าเริ่มต้น ผู้ใช้จะรับสายผ่าน Meet ที่โทรมาจากรายชื่อติดต่อและผู้ใช้รายอื่นๆ ในองค์กรได้เท่านั้น หากต้องการให้ผู้อื่นรับสายวิดีโอคอลแบบ 1:1 จากภายนอกโดเมน ผู้ดูแลระบบจะต้องใช้แผงควบคุมของผู้ดูแลระบบ

ผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมฟังก์ชันฟีเจอร์การโทรเวอร์ชันเดิมผ่านทางสวิตช์บริการเดิมได้ด้วย

คำถามที่พบบ่อย

เพราะเหตุใดอุปกรณ์เครื่องหนึ่งของฉันรับสายเรียกเข้าได้ แต่อีกเครื่องทำไม่ได้

เรากำลังทยอยเปิดตัวประสบการณ์การโทรผ่าน Meet แบบใหม่ และเป็นไปได้ว่าอาจมีอุปกรณ์ของคุณเพียงเครื่องเดียวเท่านั้นที่ได้รับการอัปเดต หากคุณมีอุปกรณ์หลายเครื่องและมี 1 เครื่องที่ได้รับการอัปเดตการโทรแบบรวมขณะที่อีกเครื่องยังคงใช้ฟีเจอร์การโทรเวอร์ชันเดิมอยู่เท่านั้น อุปกรณ์ที่ใช้ฟีเจอร์การโทรเวอร์ชันเดิมจะไม่ส่งเสียงเรียกเข้าเมื่อมีคนโทรหาคุณผ่านการโทรแบบรวมผ่าน Meet

หลังจากอุปกรณ์อีกเครื่องของคุณได้รับการอัปเดตแล้ว อุปกรณ์ทั้ง 2 เครื่องก็จะรับสายได้ โดยคุณจะทราบได้เมื่อการอัปเดตพร้อมใช้งานสำหรับอุปกรณ์เครื่องที่สองเมื่อเปิด Meet จากนั้นแตะรูปโปรไฟล์บัญชี Google แล้วเห็น "เพิ่มหรือเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์" ในรายการแบบเลื่อนลง

เพราะเหตุใดแอป Gmail รับสายเรียกเข้าได้ แต่แอป Meet ทำไม่ได้

การโทรจากแอป Workspace บางแอป เช่น Gmail จะต่อสายไปยัง Gmail เท่านั้น โปรดตรวจสอบว่าคุณได้ติดตั้ง Gmail, ให้สิทธิ์ที่จำเป็น และเปิดอนุญาตสายเรียกเข้า รวมถึงเปิดแท็บแชทแล้ว

เพราะเหตุใดจึงต่อสายไปยังการใน Chat หรือ Gmail ไม่ได้

การโทรที่เริ่มใน Chat หรือ Gmail จะต่อสายไปยังผู้ใช้ที่ติดตั้ง Chat หรือ Gmail, เปิดการแจ้งเตือน และเปิดใช้การรับสายการโทรผ่าน Meet แล้ว ในตอนนี้ การโทรผ่าน Chat และ Gmail จะไม่ต่อสายไปยัง Meet โดยตรง

เหตุใดฉันจึงไม่ได้รับการแจ้งเตือนผ่าน Chat

คุณจะได้รับสายการโทรผ่าน Gmail ใน Gmail เท่านั้น แต่ Chat ไม่รองรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้าแม้ว่าจะใช้ Chat ใน Gmail ก็ตาม

การโทรผ่าน Meet จะต่อสายหาคอมพิวเตอร์ได้ไหม
  • ผู้ใช้เว็บจะไม่มีสิทธิ์ใช้การโทรผ่าน Meet แบบใหม่ในทันที เนื่องจากเว็บรองรับการโทรเวอร์ชันเดิม จึงอาจมีบางคนพยายามติดต่อคุณด้วยการโทรผ่าน Meet เวอร์ชันใหม่ แต่คุณจะไม่ได้รับสายโทรเข้าใน meet.google.com
  • ให้ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อรับและตอบสายเรียกเข้าเหล่านี้แทน
ทำไมฉันจึงไม่ได้รับการแจ้งเตือนสายที่ไม่ได้รับในอุปกรณ์

ปัญหานี้อาจเกิดจากการที่อุปกรณ์ปิดอยู่หรือไม่ได้เชื่อมต่อ ในอนาคต คุณจะดูการแจ้งเตือนสายที่ไม่ได้รับได้แม้ว่าอุปกรณ์จะปิดอยู่หรือไม่ได้เชื่อมต่อก็ตาม

เหตุใดฉันจึงโทรหาบุตรหลานไม่ติด

บัญชีส่วนตัวของบุตรหลานที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์จะรับสายจากรายชื่อติดต่อเท่านั้นโดยอัตโนมัติ เพื่อเป็นการปกป้องตัวบุตรหลาน โปรดตรวจสอบว่าคุณเป็นผู้ติดต่อในรายชื่อติดต่อของบุตรหลานแล้วที่ contacts.google.com

บัญชีของบุตรหลานไม่ได้รับสายโทรเข้าใดเลย

ก่อนหน้านี้บัญชีของบุตรหลานไม่ถือว่าเป็นบัญชีที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์ แต่ตอนนี้ถือว่าเป็นบัญชีที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์แล้ว เราจึงจำกัดให้บุตรหลานรับสายได้เฉพาะจากผู้ที่อยู่ในรายชื่อติดต่อเท่านั้น โปรดตรวจสอบว่าคุณเป็นผู้ติดต่อในรายชื่อติดต่อของบุตรหลานแล้วที่ contacts.google.com

ฉันลงชื่อเข้าใช้ Nest แล้วแต่อุปกรณ์ไม่ส่งเสียงเรียกเข้า

อุปกรณ์ Nest ที่ลงทะเบียนใหม่อาจใช้เวลาถึง 48 ชั่วโมงจึงจะรับสายเรียกเข้าเวอร์ชันเดิมที่โทรจากอุปกรณ์เคลื่อนที่หรืออุปกรณ์ Nest อื่นๆ ได้ ซึ่งอุปกรณ์สามารถโทรออกโดยอัตโนมัติได้ ขณะนี้อุปกรณ์ Nest ไม่รองรับการโทรผ่าน Meet เวอร์ชันใหม่หรือรับสายที่โทรจากเว็บ

อุปกรณ์ Nest จะรับสายที่โทรผ่าน Meet ได้ไหม

ขณะนี้อุปกรณ์ Nest ไม่รองรับการโทรผ่าน Meet ดูวิธีโทรออกบนลำโพงหรือจอแสดงผล Google Nest

ทำไมฉันจึงใช้การโทรผ่าน Meet เวอร์ชันล่าสุดในอุปกรณ์ Nest ไม่ได้

ปัจจุบันอุปกรณ์ Nest รองรับเฉพาะการโทรเวอร์ชันเดิมเท่านั้น หากคุณใช้อุปกรณ์ Nest สำหรับการโทรเวอร์ชันเดิม คุณจะไม่สามารถรับการอัปเดตการโทรผ่าน Meet บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ ทั้งนี้ คุณจะรับสายการโทรเวอร์ชันเดิมในอุปกรณ์ Nest ต่อไปและยังคงใช้ประสบการณ์แบบเดิมบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้

แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
15207736506437279380
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
713370
false
false
false
false