ใช้ฟีเจอร์เสียงแบบปรับอัตโนมัติใน Meet

สำคัญ: ต้องมีการสมัครใช้บริการ Google Workspace ที่มีสิทธิ์จึงจะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ ดูข้อมูลเกี่ยวกับฟีเจอร์และแพ็กเกจของ Gemini

โปรดทราบว่าคุณจะใช้ฟีเจอร์เสียงแบบปรับอัตโนมัติกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของ Meet ไม่ได้

เมื่อใช้เสียงแบบปรับอัตโนมัติ คุณจะเข้าร่วมการประชุมด้วยแล็ปท็อปหลายเครื่องในห้องเดียวกันได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์สำหรับการประชุมโดยเฉพาะ

ไมโครโฟนและลำโพงในห้องจะตรวจหาและเชื่อมต่อกับแล็ปท็อปของผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ โดยอัตโนมัติเมื่อเข้าร่วมห้องประชุม ทุกคนจะได้ยินเสียงของกันและกันอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีเสียงก้อง เสียงประกอบที่รบกวนผู้ใช้ หรือเสียงที่รบกวนแล็ปท็อปเครื่องใดเครื่องหนึ่ง

การตรวจหาและการตั้งค่าอัตโนมัติ

เมื่อ Meet ตรวจพบแล็ปท็อปหลายเครื่องในห้องเดียวกันโดยอัตโนมัติ Meet จะเปลี่ยนเป็นโหมดเสียงแบบปรับอัตโนมัติ ซึ่งในโหมดนี้ ไมโครโฟนและลำโพงของแล็ปท็อปจะทำงานร่วมกัน

ใช้เสียงแบบปรับอัตโนมัติเพื่อแชร์เสียง

1. ในคอมพิวเตอร์ ให้เข้าร่วมการประชุมจากคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องขึ้นไปในพื้นที่เดียวกัน
2. หากระบบรวมเสียงของคุณเข้ากับอุปกรณ์อื่นๆ โดยอัตโนมัติ คุณจะเห็นป๊อปอัปที่ระบุว่า "ระบบจะผสานเสียงของคุณเข้ากับอุปกรณ์อื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดเสียงประกอบ"
   • หากระบบขอให้ยืนยันด้วยตนเอง ให้คลิกผสานไมโครโฟนและลำโพง
3. เมื่อแชร์เสียงแล้ว คุณจะเห็นไมโครโฟนเสียงแบบปรับอัตโนมัติ ปรากฏขึ้นที่มุมซ้ายบน
   • เปิดเสียงไมโครโฟนไว้เพื่อให้ได้ยินเสียงชัดเจน
4. ระบบจะจัดกลุ่มผู้ใช้ที่รวมเสียงเข้าด้วยกันในหน้าต่างของผู้ใช้เหล่านั้นและไฮไลต์แบบรวมเมื่อมีคนใดคนหนึ่งพูด

ปิดใช้เสียงแบบปรับอัตโนมัติ

สำคัญ: การปิดใช้เสียงแบบปรับอัตโนมัติอาจทำให้เกิดเสียงก้องหรือเสียงลำโพงหอน

วิธีปิดใช้เสียงแบบปรับอัตโนมัติระหว่างการประชุม

1. ที่ด้านขวาล่าง ให้คลิกแสดงทุกคน
2. คลิกเมนู หยุดผสานเสียง

วิธีปิดใช้เสียงแบบปรับอัตโนมัติอย่างถาวร

1. คลิกเพิ่มเติม การตั้งค่า ที่ด้านล่างในการประชุม
2. คลิกเสียงในส่วน "การตั้งค่า"
3. ปิดเสียงแบบปรับอัตโนมัติที่ด้านล่าง

ใช้เสียงแบบปรับอัตโนมัติเพื่อแชร์เสียง

1. ในคอมพิวเตอร์ ให้เข้าร่วมการประชุมจากคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องขึ้นไปในพื้นที่เดียวกัน
2. ยืนยันว่าคุณอยู่ในสถานที่เดียวกันกับผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ
   • เมื่อกล่องโต้ตอบใน Meet ปรากฏขึ้น ให้คลิกแชร์ไมโครโฟนและลำโพง

เคล็ดลับ: ปุ่มปิดเสียง จะเปลี่ยนเพื่อระบุว่าคุณแชร์เสียงอยู่

เกี่ยวกับไมโครโฟน

คุณไม่จำเป็นต้องปิดเสียงตัวเองเมื่อไม่ได้พูด เมื่อแชร์เสียง Meet จะเลือกไมโครโฟนในห้องที่อยู่ใกล้คนที่กำลังพูดมากที่สุดโดยอัตโนมัติ

เนื่องจาก Meet ใช้ไมโครโฟนทั้งหมดในห้อง คนอื่นๆ จะยังได้ยินเสียงคุณแม้คุณจะปิดเสียงไมโครโฟนของตัวเอง แต่หากปิดเสียงไมโครโฟนทั้งหมดในพื้นที่ จะไม่มีใครได้ยินเสียงคุณ

การแก้ปัญหา

แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการตรวจหาคอมพิวเตอร์

หาก Meet ตรวจไม่พบคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ในห้อง ให้ตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้

• ไม่ได้ปิดเสียงลำโพงคอมพิวเตอร์อย่างเต็มรูปแบบ
• ไม่ได้ปิดเสียงไมโครโฟนที่มีปุ่มสวิตช์หรือไมโครโฟนในคอมพิวเตอร์ภายนอก Meet
• คุณปิด Voice Isolation macOS หรือ การตัดเสียงรบกวนใน ChromeOS แล้ว
  • คุณสามารถใช้การตัดเสียงรบกวนใน Meet กับฟีเจอร์เสียงแบบปรับอัตโนมัติได้

แก้ไขเสียงสะท้อนหรือคุณภาพเสียงไม่ดี

• ปัญหาเกี่ยวกับเสียงมักจะหายไปหลังจากผ่านไป 2-3 วินาที
• หากยังพบปัญหาอยู่ ให้ออกจากการประชุมแล้วเข้าร่วมอีกครั้ง
  • หากเกิดปัญหาซ้ำ ให้ใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดียว

แสดงความคิดเห็นใน Meet

โปรดส่งความคิดเห็นและอธิบายปัญหาให้แม่นยำมากที่สุดเพื่อช่วยเราปรับปรุงฟีเจอร์นี้ และอย่าลืมใส่ข้อความ "เสียงแบบปรับอัตโนมัติ" ในความคิดเห็นเพื่อให้ได้รับการแก้ไขได้อย่างถูกต้อง

ก่อนการประชุม

1. ไปที่ Google Meet ในเว็บเบราว์เซอร์
2. คลิกความคิดเห็น
3. อธิบายปัญหาหรือแชร์ความคิดเห็น
4. เลือกแนบภาพหน้าจอ เพื่อช่วยเราระบุปัญหา
5. คลิกส่ง

เคล็ดลับ: คุณอาจเลือกคลิกลิงก์การประชุมหรือกิจกรรมในปฏิทิน ก่อนเข้าร่วม ให้คลิกเพิ่มเติม รายงานปัญหา

ในการประชุม

1. เข้าร่วมการประชุมของ Google Meet
2. คลิกเพิ่มเติม
3. คลิกรายงานปัญหา
4. อธิบายปัญหาหรือแชร์ความคิดเห็น
5. เลือกแนบภาพหน้าจอ เพื่อช่วยเราระบุปัญหา
6. คลิกส่ง

หลังจากการประชุม

เมื่อการประชุมทางวิดีโอสิ้นสุดลง ให้คลิกส่งความคิดเห็น

แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

• เปลี่ยนพื้นหลังและใช้เอฟเฟกต์ภาพใน Meet
• จับคู่หน้าต่างใน Google Meet
• เชื่อมต่อวิดีโอและเสียง