โทรผ่าน Meet ด้วย Google Meet

สำคัญ: การโทรเวอร์ชันเดิม (ชื่อเดิมคือ Duo) ได้รับการอัปเกรดเป็นการโทรผ่าน Meet ซึ่งมีฟีเจอร์เพิ่มเติมต่างๆ เช่น คำบรรยายสด การแชทในสาย เอฟเฟกต์ที่ซ้อนทับได้ การเข้ารหัสในระบบคลาวด์ การแชร์หน้าจอ และอีกมากมาย

เมื่อผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้การโทรผ่าน Meet ฟีเจอร์การโทรของ Duo เวอร์ชันเดิมบางรายการจะได้รับการอัปเกรด ฟีเจอร์บางอย่าง เช่น โหมดครอบครัว ภาพที่บันทึกจากวิดีโอคอล และ Knock Knock จะใช้งานไม่ได้อีกต่อไป

หากต้องการใช้ประสบการณ์การโทรแบบใหม่ โปรดอัปเดตแอป Meet เป็นเวอร์ชันล่าสุด

การโทรผ่าน Meet ได้เปิดตัวสำหรับผู้ใช้ Business และ EDU แล้ว และจะเปิดตัวให้ผู้ใช้ที่มีบัญชีส่วนตัวได้ใช้งานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หากต้องการใช้ประสบการณ์การโทรเวอร์ชันใหม่ทันทีที่พร้อมให้ใช้งาน โปรดอัปเดตแอป Meet เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ

เมื่อทุกคนในสายใช้ Meet เวอร์ชันล่าสุดที่มีการอัปเดต ผู้ใช้จะเห็นข้อความแจ้งในแอปที่อธิบายว่าตอนนี้ผู้ใช้กำลังใช้ประสบการณ์การโทรเวอร์ชันใหม่ ทั้งนี้หากมีผู้ใช้อย่างน้อย 1 คนใช้เวอร์ชันเดิมอยู่ ระบบจะตั้งค่าเป็นประสบการณ์การโทรเวอร์ชันเดิมโดยค่าเริ่มต้น เมื่อผู้ใช้ทุกคนใช้แอป Meet ที่อัปเดตแล้ว ฟีเจอร์การโทรเวอร์ชันเดิมก็จะไม่มีให้ใช้งานอีกต่อไป

ดูข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนจากการโทรเวอร์ชันเดิมเป็นการโทรผ่าน Meet เวอร์ชันใหม่

การโทรผ่าน Meet จะมีฟีเจอร์ล่าสุดของ Meet ที่สอดคล้องกับข้อกำหนดขององค์กร ดูข้อมูลเกี่ยวกับการควบคุมของผู้ดูแลระบบสำหรับผู้ใช้ Workspace

นอกจากการควบคุมการเข้าถึง Meet แล้ว ผู้ดูแลระบบยังจำกัดผู้ที่โทรหาผู้ใช้ผ่าน Meet ได้ด้วย

หากต้องการตั้งค่าการจำกัดการโทรสำหรับผู้ใช้ในองค์กรเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้รับสายได้ คุณกำหนดได้ดังนี้

  • (ค่าเริ่มต้น) ผู้ใช้สามารถรับสายจากรายชื่อติดต่อและผู้ใช้รายอื่นๆ ในองค์กรได้เท่านั้น
  • ผู้ใช้สามารถรับสายได้จากทุกคน
  • ผู้ใช้รับสายไม่ได้

หากต้องการจำกัดการโทรออกของผู้ใช้ในองค์กร คุณจะมีตัวเลือกดังนี้

หมายเหตุ: การตั้งค่าเหล่านี้มีผลกับการโทรผ่าน Google Meet เท่านั้น แต่จะไม่มีผลกับฟีเจอร์การโทรเวอร์ชันเดิมหรือการโทรใน Google Chat และจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อความสามารถในการเข้าร่วมการประชุม ข้อจำกัดที่กำหนดไว้ใน "การเข้าถึง" ยังจำกัดสายที่ผู้ใช้จะรับได้อีกด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีปิดฟีเจอร์การโทรเวอร์ชันเดิม

สำคัญ

  • ในระหว่างการเปิดตัวการโทรผ่าน Meet แบบใหม่บนเว็บ ผู้ใช้บางรายอาจไม่มีสิทธิ์ใช้งานในทันที หากต้องการเข้าถึงฟีเจอร์การโทรเวอร์ชันเดิมหรือการโทรแบบกลุ่มบนเว็บได้ทุกเมื่อ คุณสามารถโทรจากอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือไปที่ meet.google.com/calling
  • หลังจากเปิดตัวแล้ว คุณจะโทรออกได้ที่ meet.google.com

เริ่มวิดีโอคอล

  1. ลงชื่อเข้าใช้ Google Meet ในคอมพิวเตอร์
  2. คลิกการโทร Camera ทางด้านซ้าย
  3. ค้นหารายชื่อติดต่อหรือป้อนอีเมล
  4. คลิกวิดีโอคอล

เคล็ดลับ

โทรด้วยเสียงเท่านั้น

  1. ลงชื่อเข้าใช้ Google Meet ในคอมพิวเตอร์
  2. คลิกการโทร Camera ทางด้านซ้าย
  3. เลือกผู้ติดต่อหรือกลุ่มที่จะโทรหา กล่องโต้ตอบจะเปิดขึ้นพร้อมตัวเลือกการโทร
  4. หากต้องการเริ่มการโทรด้วยเสียงเท่านั้น ให้คลิกการโทรด้วยเสียง
    • ซึ่งจะปิดวิดีโอของผู้เข้าร่วมทุกคน ไม่ว่าผู้เข้าร่วมจะใช้อุปกรณ์ใดในการรับสายก็ตาม
  5. หากต้องการเปิดวิดีโอ ให้คลิกกล้อง
    • การดำเนินการนี้จะไม่ส่งผลต่อการตั้งค่าวิดีโอของผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ

เคล็ดลับ: ฟีเจอร์นี้ใช้งานได้เฉพาะบนเว็บ

รับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า

หากต้องการรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้าในคอมพิวเตอร์ คุณต้องดำเนินการดังนี้

หากมีผู้โทรหาคุณในเวอร์ชันเดิม คุณจะได้รับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้าก็ต่อเมื่อลงชื่อเข้าใช้ meet.google.com/calling และเปิดอยู่ในเบราว์เซอร์เท่านั้น

บล็อกหรือรายงานผู้อื่น

สำคัญ: คุณสามารถ "บล็อก" หรือ "รายงานการละเมิดและบล็อก" การโทรได้

  1. ลงชื่อเข้าใช้ Google Meet ในคอมพิวเตอร์
  2. ไปที่แท็บ "การโทร"
  3. ป้อนชื่อที่ต้องการบล็อกในแถบค้นหา
  4. เลือกชื่อผู้ใช้
  5. ที่ด้านขวาบน ให้คลิกตัวเลือกรายชื่อติดต่อ จากนั้น บล็อกผู้ใช้

เคล็ดลับ: หากคุณบล็อกบุคคลใด บุคคลนั้นจะโทรหาคุณโดยตรงใน Meet ไม่ได้ คุณจะโต้ตอบกับบุคคลนั้นได้หากอยู่ในการประชุมหรือการโทรแบบกลุ่มร่วมกับบุคคลดังกล่าว

เลิกบล็อกผู้ใช้

  1. ลงชื่อเข้าใช้ Google Meet ในคอมพิวเตอร์
  2. ไปที่แท็บ "การโทร"
  3. คลิกการตั้งค่า จากนั้น ทั่วไป
  4. ในส่วน "บล็อกผู้ใช้" ให้คลิกดูผู้ที่ถูกบล็อก
  5. คลิกเลิกบล็อก ข้างบุคคลที่ต้องการเลิกบล็อก

แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
17196089338223039527
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
713370
false
false
false
false