ตามข้อกำหนดในตลาดท้องถิ่นบางแห่ง อาจมีการเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย (WHT) กับนักพัฒนาแอปที่นำเสนอแอปใน Google Play Store และการซื้อในแอปที่ทำในประเทศเหล่านั้น
Google ให้บริการนักพัฒนาแอปด้วยการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบด้านภาษีและแจ้งให้นักพัฒนาแอปทราบถึงการเปลี่ยนแปลงกฎและนโยบายด้านภาษีของ Google นอกจากนี้ นักพัฒนาแอปยังติดต่อทีมสนับสนุนนักพัฒนาแอป Google Play เพื่อขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับหัวข้อต่อไปนี้ได้ด้วย
- วิธีจัดการภาษีใน Play Console
- คำถามเกี่ยวกับอัตราภาษี
- สนธิสัญญาภาษี ใบรับรอง หรือเอกสารประกอบอื่นๆ
- คำถามทั่วไปอื่นๆ เกี่ยวกับภาษี
สำคัญ: Google ให้คำปรึกษาด้านภาษีไม่ได้ โปรดปรึกษาที่ปรึกษาด้านภาษีที่เป็นมืออาชีพเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับภาษี
หลักเกณฑ์เฉพาะภูมิภาคและประเทศ
หากคุณได้รับการชำระเงินเป็นสกุลเงินที่ไม่ใช่ BRL และนำเสนอแอปใน Google Play Store และการซื้อในแอปที่ลูกค้าในบราซิลทำผ่านรูปแบบการชำระเงินใดก็ตาม Google หรือพาร์ทเนอร์ผู้ประมวลผลการชำระเงินจะหักเงินภาษีหัก ณ ที่จ่าย (WHT) ของบราซิลจากรายได้ของคุณ WHT ของบราซิลประกอบด้วย IRRF (Imposto de Renda Retido na Fonte) และ CIDE (Contribuição de Intervenção no Domínio Econômico) โดยอัตราที่ใช้จะกำหนดตามสถานที่ตั้งของคุณ
ระบบจะหักภาษีหัก ณ ที่จ่ายของบราซิลออกจากรายได้ของคุณหากคุณได้รับการชำระเงินเป็นสกุลเงินที่ไม่ใช่ BRL หากคุณเป็นนักพัฒนาแอปบราซิลที่ได้รับการชำระเงินเป็นสกุลเงินที่ไม่ใช่ BRL คุณอาจมีสิทธิ์ย้ายข้อมูลไปยังบัญชี BRL ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการย้ายข้อมูลไปยังบัญชี BRL และการรองรับสกุลเงินเฮอัลบราซิลได้ที่นี่
หากคุณเป็นพลเมืองผู้เสียภาษีในประเทศที่รองรับซึ่งมีสนธิสัญญาภาษีซ้อนกับบราซิลและได้ส่งข้อมูลภาษีให้ Google ทาง Google จะพิจารณาว่าคุณมีสิทธิ์ได้รับอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับ IRRF ตามสนธิสัญญาหรือไม่ กรณีนี้จะไม่มีผลกับ CIDE ซึ่งจะยังมีการเรียกเก็บตามเดิม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีสมัครใช้อัตราภาษีตามสนธิสัญญาได้ที่นี่
หากคุณเสนอแอปใน Google Play Store และการซื้อในแอปที่ลูกค้าในอียิปต์ทำผ่านการเรียกเก็บเงินผ่านผู้ให้บริการโดยตรง (DCB) Google หรือพาร์ทเนอร์ผู้ประมวลผลการชำระเงินจะหักเงินภาษีหัก ณ ที่จ่าย (WHT) สูงสุด 20%
หากคุณอยู่ในอินเดียและนำเสนอแอปใน Google Play Store รวมถึงการซื้อในแอป ทาง Google จะหักภาษีหัก ณ ที่จ่าย (WHT) ของอินเดียจากรายได้ของคุณและนำส่ง WHT ที่หักให้แก่รัฐบาลอินเดีย จำนวนของ WHT ดังกล่าวเท่ากับ
- 0.1% ของราคาที่ลูกค้าซื้อ (ไม่รวม GST ของอินเดีย) จากรายได้ที่ Google ต้องจ่ายให้คุณ หากคุณได้ระบุหมายเลขบัญชีแบบถาวร (PAN) ให้ Google ทราบแล้ว หรือ
- 5% ของราคาที่ลูกค้าซื้อ (ไม่รวม GST ของอินเดีย) จากรายได้ที่ Google ต้องจ่ายให้คุณ หากคุณไม่ได้ระบุ PAN ให้ Google ทราบ
Google จำเป็นต้องเก็บข้อมูล PAN ในอินเดียของคุณเพื่อคำนวณอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ถูกต้อง คุณระบุ PAN ให้ Google ทราบได้ดังนี้
- เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าโปรไฟล์การชําระเงิน (การตั้งค่า
> โปรไฟล์การชําระเงิน)
- คลิกจัดการการตั้งค่าในส่วน "การตั้งค่า"
- เลื่อนลงไปที่ "ข้อมูลภาษีของอินเดีย" แล้วคลิกไอคอนดินสอ
- ป้อนหรืออัปเดต PAN
- คลิกบันทึก
หากคุณเสนอแอปใน Google Play Store และการซื้อในแอปที่ลูกค้าในคูเวตทำผ่านการเรียกเก็บเงินผ่านผู้ให้บริการโดยตรง (DCB) Google หรือพาร์ทเนอร์ผู้ประมวลผลการชำระเงินอาจหักเงินภาษีหัก ณ ที่จ่าย (WHT) สูงสุด 5%
หากคุณเสนอแอปใน Google Play Store และการซื้อในแอปที่ลูกค้าในเมียนมาทำผ่านการเรียกเก็บเงินผ่านผู้ให้บริการโดยตรง (DCB) Google หรือพาร์ทเนอร์ผู้ประมวลผลการชำระเงินจะหักเงินภาษีหัก ณ ที่จ่าย (WHT) สูงสุด 2.5%
หากคุณเสนอแอปใน Google Play Store และการซื้อในแอปที่ลูกค้าในศรีลังกาทำผ่านการเรียกเก็บเงินผ่านผู้ให้บริการโดยตรง (DCB) Google หรือพาร์ทเนอร์ผู้ประมวลผลการชำระเงินจะหักเงินภาษีหัก ณ ที่จ่าย (WHT) สูงสุด 10%
กฎหมายท้องถิ่นว่าด้วยเรื่องภาษีของไต้หวันกำหนดให้ Google มีภาระหน้าที่ในการเรียกเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากการชำระเงินให้กับคุณ ในกรณีที่การชำระเงินดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการขายสินค้าให้กับผู้ใช้ปลายทางในไต้หวันผ่านทาง Play Store
ซึ่งจะส่งผลต่อนักพัฒนาแอปที่ไม่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้
- หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในไต้หวัน (หมายเลข 8 หลัก)
- หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีต่างประเทศที่จดทะเบียนในไต้หวัน
- การอนุมัติการยกเว้นภาษีที่ถูกต้องในไต้หวัน
หากคุณให้ข้อมูลใดๆ ในรายการข้างต้นไม่ได้ Google จำเป็นต้องเก็บและหักภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% จากการชำระเงินให้คุณสำหรับธุรกรรมทุกรายการกับผู้ใช้ในไต้หวัน นอกจากนี้ หาก Google ได้เก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย Google จะให้ใบรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ออกโดยหน่วยงานด้านภาษีของไต้หวันในนามของคุณไม่ได้
Google รับผิดชอบภาษีหัก ณ ที่จ่ายทั้งหมดสำหรับธุรกรรมการชำระเงินใน Google Play Store ในไต้หวัน ดังนั้นนักพัฒนาแอปจึงไม่มีภาระหน้าที่ในการคำนวณหรือนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายแยกต่างหาก
วิธีจัดการภาษีหัก ณ ที่จ่ายของไต้หวันภายใน Google Play Console
- ไปที่โปรไฟล์การชำระเงิน (การตั้งค่า
> โปรไฟล์การชำระเงิน)
- ในส่วนการตั้งค่า ให้คลิกจัดการการตั้งค่า
- เลื่อนลงไปที่ข้อมูลภาษีหัก ณ ที่จ่ายของไต้หวัน แล้วคลิกแก้ไข
- อัปเดตข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับภาษี
- คลิกบันทึก
เอกสารภาษีหัก ณ ที่จ่าย
คุณดาวน์โหลดเอกสารภาษีหัก ณ ที่จ่ายต่อไปนี้ได้จากหน้าดาวน์โหลดรายงานทางการเงิน (ดาวน์โหลดรายงาน > การเงิน) ใน Play Console คุณต้องมีสิทธิ์ดูข้อมูลทางการเงิน คําสั่งซื้อ และคําตอบจากแบบสํารวจข้อมูลการยกเลิก
เอกสารภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ปัจจุบัน Google ให้ใบแจ้งยอดภาษีหัก ณ ที่จ่ายประจำปี ซึ่งแสดงอัตราการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายและจำนวนเงินที่หักจากรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายตามประเทศในปีปฏิทิน
คำชี้แจงข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่เอกสารทางการของรัฐบาลและ Google ได้จัดทำไว้เพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อให้คำแนะนำทางภาษี กฎหมาย หรือการทำบัญชี และไม่ควรใช้อ้างอิงในเรื่องดังกล่าว โปรดขอคำแนะนำแบบเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับคำชี้แจงข้อมูลจากที่ปรึกษาด้านภาษีของคุณ
ใบรับรองการเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายของประเทศอินเดีย (แบบฟอร์ม 16A)
นักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีบัญชีผู้ขายในอินเดียจะได้รับใบรับรองการเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายของประเทศอินเดีย (แบบฟอร์ม 16A) ทุกไตรมาส โดยรายละเอียดต่างๆ (เช่น PAN, ชื่อตามกฎหมายของเจ้าของ PAN ฯลฯ) ที่คุณระบุไว้ในโปรไฟล์การชำระเงินต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง
ใบรับรองเหล่านี้จะพร้อมให้ใช้งานภายใน 15 วันนับจากวันที่ยื่นงบการเงินรายไตรมาสสำหรับไตรมาสนั้นๆ เช่น หากวันที่ยื่นสำหรับไตรมาสคือวันที่ 31 มกราคม คุณจะเข้าถึงใบรับรองได้ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์
คำถามที่พบบ่อย
คำถามสำหรับทั่วโลก
เหตุใดนักพัฒนาซอฟต์แวร์จึงต้องรับผิดชอบการเรียกเก็บเงินเหล่านี้ภาษีหัก ณ ที่จ่ายคือภาษีจากรายได้ของนักพัฒนาแอปซึ่งมาจากการขายให้แก่ผู้ใช้ในตลาดท้องถิ่นเหล่านี้
ไม่ได้ เนื่องจากภาษีเหล่านี้เกิดจากรายได้จากการขายให้แก่ผู้ใช้ในประเทศหรือภูมิภาคนี้ เนื่องจากต้องชำระภาษีหัก ณ ที่จ่าย วิธีเดียวที่จะไม่ข้องเกี่ยวกับภาษีหัก ณ ที่จ่ายคือการนำแอปออกจากการจัดจำหน่ายในประเทศที่มีการใช้ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ใช่ ภาษีหัก ณ ที่จ่ายจะแสดงเป็นบรรทัดรายการในรายงานรายได้ของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยจะแสดงเป็นข้อมูลดังต่อไปนี้
- ธุรกรรมการเรียกเก็บเงินผ่านผู้ให้บริการโดยตรง (DCB) ในคูเวต (KW), เมียนมา (MM), ศรีลังกา (LK) และอียิปต์ (EG): "ภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากการเรียกเก็บเงินผ่านผู้ให้บริการโดยตรง"
- ธุรกรรมผ่านรูปแบบการชำระเงินทั้งหมดในบราซิล: "BRAZIL_IRRF" และ "BRAZIL_CIDE"
- ธุรกรรมผ่านรูปแบบการชำระเงินทั้งหมดในไต้หวัน: "TAIWAN_WITHHOLDING_TAX_2017_2019", "TAIWAN_WITHHOLDING_TAX_2020" และ "TAIWAN_WITHHOLDING_TAX"
ไม่
คำถามเกี่ยวกับการรับรองของสหรัฐอเมริกาและสิงคโปร์ในส่วนที่ 3.6 ของ DDA
ข้อตกลงการจัดจำหน่ายของนักพัฒนาแอป (DDA) ของ Play ห้ามไม่ให้นักพัฒนาแอปเผยแพร่ แจกจ่าย หรือขายแอปในตลาดสหรัฐอเมริกาและ/หรือสิงคโปร์ใช่ไหมไม่ใช่ ส่วนที่ 3.6 ของ DDA ไม่ได้ห้ามขายในตลาดเหล่านี้ ไม่ว่านักพัฒนาแอปจะอยู่ที่ประเทศใดหรือเป็นผู้เสียภาษีหรือไม่ก็ตาม
ไม่ใช่ ส่วนที่ 3.6 ของ DDA ไม่ได้กำหนดให้ต้องมีการแจ้งเตือนในกรณีที่คุณต้องการเผยแพร่เกมหรือแอปใหม่ในตลาดสหรัฐอเมริกาและ/หรือสิงคโปร์
โดยทั่วไปแล้วไม่ใช่ เว้นแต่เกมหรือแอปของคุณเสนอการสมัครใช้บริการในแอป และคุณสนับสนุน/ดูแลรักษาเนื้อหาการสมัครใช้บริการจากภายในสหรัฐอเมริกาหรือสิงคโปร์ และไม่ได้มีสถานะผู้เสียภาษีในประเทศที่ให้บริการ (เช่น คุณหรือพนักงานอยู่ในสหรัฐอเมริกาหรือสิงคโปร์ และทำกิจกรรมในการดูแลรักษา/สนับสนุนเนื้อหาการสมัครใช้บริการในประเทศดังกล่าว)
โดยทั่วไปแล้ว บริการไม่ได้หมายถึงเพียงการขายแอปหรือเกมเท่านั้น และไม่ได้หมายถึงการขายไอเทมที่ซื้อในแอป เว้นแต่ว่าไอเทมที่ซื้อในแอปจะเป็นแบบให้สมัครใช้บริการ รายได้ที่จ่ายให้แก่นักพัฒนาแอปสำหรับการสมัครใช้บริการในแอปอาจถือว่าเป็นรายได้จากบริการ
ตัวอย่างของบริการที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่ การดำเนินการที่คุณทำเพื่ออัปเดตหรือดูแลรักษาเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการเสนอการสมัครใช้บริการ และอาจรวมถึงการสนับสนุนลูกค้าที่คุณมอบให้เพื่ออัปเดตหรือดูแลรักษาเนื้อหาการสมัครใช้บริการด้วย โดยทั่วไป บริการจะไม่ครอบคลุมงานด้านการพัฒนา การสร้าง การขาย การตลาด หรือการสนับสนุนเกมหรือแอป ยกเว้นที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาการสมัครใช้บริการที่เสนอภายในเกมหรือในแอป
คอมโพเนนต์นี้ของ DDA เกี่ยวข้องกับตำแหน่งของกิจกรรมของบุคคลในบัญชีนักพัฒนาแอป Play ในการดูแลรักษาการสมัครใช้บริการที่ขายผ่าน Google Play เท่านั้น ซึ่งไม่รวมถึงงานที่ดำเนินการโดยบุคคลของบริษัทในเครือของสหรัฐอเมริกาหรือสิงคโปร์ หากไม่ใช่คู่สัญญาของ DDA
โปรดส่งอีเมลไปที่ [email protected] พร้อมระบุข้อมูลต่อไปนี้
1. ชื่อบุคคลธรรมดาหรือองค์กรธุรกิจในบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play
2. ประเทศที่เป็นผู้เสียภาษี
3. เหตุผลในการแจ้ง:
ก. ให้บริการในสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ได้อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา
ข. ให้บริการในสิงคโปร์ แต่ไม่ได้อาศัยอยู่ในสิงคโปร์
ค. ให้บริการในสหรัฐอเมริกาและสิงคโปร์ แต่ไม่ได้อาศัยอยู่ในทั้ง 2 ประเทศ
ง. อื่นๆ - โปรดอธิบายสาเหตุที่ส่งการแจ้งเตือนหรือเหตุผลที่คุณคิดว่าจำเป็นต้องส่งการแจ้งเตือน
4. ข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอป Play:
ก. ชื่อ
ข. รหัสโปรไฟล์
คำถามสำหรับอินเดียโดยเฉพาะ
PAN คืออะไรหมายเลขบัญชีถาวร (Permanent Account Number หรือ PAN) เป็นตัวระบุแบบอักขระที่เป็นตัวอักษรและตัวเลขคละกัน 10 ตัวที่กรมสรรพากรอินเดียเป็นผู้ออกให้ หมายเลขนี้จัดว่าเป็นหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีสำหรับวัตถุประสงค์ด้านการเสียภาษีเงินได้/ภาษีทางตรง
โปรดทราบว่าชื่อในใบรับรองการเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย/แบบฟอร์ม 16A จะอิงตามชื่อใน PAN ที่คุณให้ข้อมูลไว้กับ Google ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับที่กรมสรรพากรอินเดียมีข้อมูลอยู่ Google แก้ไขชื่อที่แสดงในใบรับรองซึ่งสร้างขึ้นตามระเบียนของกรมสรรพากรอินเดียไม่ได้