คุณสามารถใช้ Google Play Grouping API เพื่อติดแท็กผู้ใช้ด้วยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะใช้เพื่อปรับแต่งประสบการณ์การใช้งานใน Play Store โดยการแสดงเนื้อหาที่เฉพาะเจาะจงจากแอปของคุณ เช่น คุณอาจต้องการให้ผู้ใช้ที่มีส่วนร่วมในระยะยาวเห็นกิจกรรมต่างๆ ผลิตภัณฑ์แนะนำ รวมถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store นอกจากนี้คุณอาจต้องการไฮไลต์ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจแก่ผู้ใช้ที่หยุดใช้งานไป หรือโปรโมตเนื้อหาแอปที่เฉพาะเจาะจงแก่ผู้ใช้ที่คุณทราบว่าเคยชื่นชอบเนื้อหานั้นๆ มาก่อน
ภาพรวม
คุณสามารถใช้ Google Play Grouping API เพื่อติดแท็กผู้ใช้เพื่อให้ Google Play ปรับแต่งเนื้อหาที่ผู้ใช้เห็นทั่ว Play Store ได้ ขั้นแรก ให้สร้างแท็กที่สร้างขึ้นด้วย API ดังกล่าว จากนั้นคุณสามารถใช้แท็กเหล่านี้ใน Play Console เพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายสำหรับการกำหนดเป้าหมายเนื้อหาใน Play Store ได้ (เช่น เนื้อหาส่งเสริมการขาย)
Grouping API ให้การรับประกันถึงความเป็นส่วนตัวอย่างเข้มงวดสำหรับผู้ใช้ปลายทาง ซึ่งรวมถึงการแจ้งเตือนที่ผู้ใช้มองเห็นเมื่อมีการใช้ API เป็นครั้งแรก และให้ตัวเลือกการเลือกไม่ใช้ที่จัดการโดย Google ผ่านกิจกรรมของฉัน
หมายเหตุ: Grouping API พร้อมให้ใช้งานเฉพาะสำหรับพาร์ทเนอร์ Play บางรายที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์การมีสิทธิ์เท่านั้น
ข้อกำหนดที่ต้องดำเนินการก่อน
นักพัฒนาแอปและเกมที่มีสิทธิ์ต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้ก่อนที่จะเข้าถึงและใช้ Grouping API
- นักพัฒนาเกม: ผสานรวม Play Games Services SDK เพื่อเข้าถึง Grouping API ตั้งค่า API ตามที่อธิบายไว้ที่นี่
- นักพัฒนาแอป: ผสานรวม Play Grouping SDK เพื่อเข้าถึง Grouping API ตั้งค่า SDK และ API ตามที่อธิบายไว้ที่นี่
การใช้ Grouping API เพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมาย
คุณสามารถทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อให้แน่ใจว่า Grouping API กำลังทำงานอยู่และเพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายใน Play Console
ขั้นตอนที่ 1: ยืนยันว่า API กำลังทำงานอยู่หากไม่เคยตั้งค่า Grouping API มาก่อน ให้ทำตามวิธีการเหล่านี้ ซึ่งจะแนะนำขั้นตอนการดาวน์โหลด Play Grouping SDK, การใช้ SDK ดังกล่าวในโปรเจ็กต์ Android และการขอโทเค็น API
หลังจากผสานรวม SDK เข้ากับแอปแล้ว คุณต้องอัปโหลดและเปิดตัวเวอร์ชันที่อัปเดตแล้วแก่ผู้ใช้ หากพบปัญหา ดูรายการข้อผิดพลาดเกี่ยวกับ SDK ที่พบบ่อยได้ที่นี่
หากคุณผสานรวม API อย่างถูกต้อง เมื่อไปที่หน้ากลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง (เพิ่มผู้ใช้ > กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง) คุณจะเห็นกราฟิกและข้อความเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง คุณอาจต้องขอสิทธิ์เพื่อเข้าใช้ฟีเจอร์นี้หากสิทธิ์ปัจจุบันของคุณจำกัดไม่ให้คุณสร้างและจัดการกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งสิทธิ์ดังกล่าวก็คือสิทธิ์จัดการการแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store นั่นเอง
หาก API ทำงานอย่างถูกต้องและคุณมีสิทธิ์ที่จำเป็น คุณจะสร้างกลุ่มเป้าหมายใน Play Console ได้โดยทำดังนี้
- คลิกสร้างกลุ่มเป้าหมาย
- ป้อนข้อมูลที่จำเป็น ดังนี้
- กลุ่มเป้าหมาย: ป้อนชื่อที่ไม่ซ้ำกันสำหรับกลุ่มเป้าหมาย ผู้ใช้จะไม่เห็นชื่อนี้ คุณป้อนคำอธิบายได้ด้วย
- กฎแท็ก API: กำหนดกฎแท็กอย่างน้อย 1 ข้อซึ่งกำหนดกลุ่มเป้าหมายใหม่ แท็กเหล่านี้ต้องสร้างผ่าน API ไว้แล้ว
- คลิกบันทึก
วิธีสร้างกฎแท็ก API ที่ถูกต้อง
- เลือกคีย์แท็ก
- เลือกโอเปอเรเตอร์ (แท็กแต่ละประเภทจะมีโอเปอเรเตอร์เป็นของตัวเอง)
- ป้อนหรือเลือกค่าโดยขึ้นอยู่กับประเภทแท็กที่เลือก ดังนี้
- อินพุตสำหรับแท็กสตริง จำนวนเต็ม และการประทับเวลา
- เมนูแบบเลื่อนลงสำหรับแท็กบูลีน
- เลือกการอ้างอิงเวลาเฉพาะเมื่อประเภทแท็กที่เลือกคือการประทับเวลา
โปรดคำนึงถึงข้อมูลต่อไปนี้หากเพิ่มกฎหลายข้อ
- คุณเพิ่มกฎได้สูงสุด 5 ข้อ
- ปุ่มเพิ่มกฎจะปรากฏขึ้นก็ต่อเมื่อมีกฎน้อยกว่า 5 ข้อ
- ปุ่มนำออกจะปรากฏขึ้นหากมีการตั้งค่ากฎไว้
การกำหนดเป้าหมายเนื้อหาส่งเสริมการขายใน Google Play
หลังจากสร้างกลุ่มเป้าหมายใน Play Console แล้ว คุณจะเริ่มสร้างกิจกรรมที่กำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มเป้าหมายนั้นๆ โดยเฉพาะได้ นอกจากนี้คุณยังดูสถิติกลุ่มเป้าหมายในแดชบอร์ดของแอปใน Play Console ได้ด้วย
สร้างเนื้อหาส่งเสริมการขายสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองวิธีสร้างกิจกรรมที่กำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง
- เมื่อสร้างกิจกรรมของเนื้อหาส่งเสริมการขาย ให้เลื่อนไปที่ส่วน "แนะนำ" แล้วเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง
- ในเมนูแบบเลื่อนลงเลือกกลุ่มเป้าหมาย ให้เลือกกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง
- คลิกเลือกกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง
- เลือกกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการกำหนดเป็นเป้าหมาย
- หมายเหตุ: หากไม่มีกลุ่มเป้าหมายที่สร้างไว้ คุณก็สร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่ได้ ทั้งนี้จะมีการเลือกกลุ่มเป้าหมายที่สร้างขึ้นใหม่ไว้ให้ล่วงหน้า จากนั้นให้คลิกใช้ หากมีการสร้างกลุ่มเป้าหมายไว้แล้ว คุณสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายแล้วคลิกใช้ หรือจะสร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่ผ่านปุ่ม "สร้างกลุ่มเป้าหมาย" ก็ได้
- คลิกส่งกิจกรรมหรือบันทึกเป็นฉบับร่าง
เมื่อดูสถิติแอปใน Play Console กลุ่มเป้าหมายจะพร้อมใช้งานเป็นตัวกรองในรายงานบนหน้าเนื้อหาส่งเสริมการขาย
เช่น หากต้องการดูเฉพาะกิจกรรมที่กำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ให้ทำดังนี้
- เปิด Play Console แล้วไปที่หน้ารายงานเนื้อหาส่งเสริมการขาย (เพิ่มผู้ใช้ > ประสิทธิภาพของ Store > รายงานเนื้อหาส่งเสริมการขาย)
- คลิก + กิจกรรมเพื่อกำหนดค่ารายงาน
- ใช้ตัวกรองเพื่อเลือกกลุ่มเป้าหมายที่จะให้แสดงเฉพาะกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายที่เลือกนั้นๆ
- หมายเหตุ: คุณสามารถคลิก + กลุ่มเป้าหมาย แล้วใช้ตัวกรองเพื่อเลือกกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติมที่จะให้แสดงเฉพาะกิจกรรมสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เลือกไว้หลายๆ กลุ่มนั้นได้ด้วย
ตัวอย่าง Use Case สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างที่แสดงวิธีใช้ Play Grouping API เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมสำหรับแอปหรือเกม ซึ่งคุณอาจนำไปใช้ได้
ตัวอย่างที่ 1: การกำหนดเป้าหมายผู้เล่นในระดับที่เฉพาะเจาะจงสร้างแท็กชื่อ "ระดับ" และกำหนดค่าเป็นจำนวนเต็มสำหรับระดับเกมที่ผู้ใช้ไปถึง อัปเดตค่านี้ทุกครั้งที่ผู้ใช้เล่นเกม
สร้างกลุ่มเป้าหมาย เช่น "ระดับ 4 และต่ำกว่า" "ระดับ 5-9" "ระดับ 10-14" เป็นต้น
เมื่อใช้กิจกรรมการอัปเดตหลัก ตอนนี้คุณจะสามารถปรับแต่งข้อความสำหรับผู้เล่นที่ใช้เกมในแต่ละกลุ่มระดับได้ ซึ่งการใช้ภาพและตัวละครที่เฉพาะเจาะจงอาจดึงดูดใจผู้เล่นได้
หากต้องการปรับปรุงการรักษาผู้เล่นและเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้เล่น คุณอาจใช้ Play Grouping API เพื่อกำหนดเป้าหมายผู้เล่นตามระดับเกมของผู้เล่นโดยการดำเนินการดังนี้
- การสร้างแท็กชื่อ "ระดับ" และกำหนดค่าเป็นเลขจำนวนเต็มที่เกี่ยวข้องให้แก่ผู้เล่นแต่ละราย
- การสร้างกลุ่มเป้าหมายตามช่วงระดับที่เฉพาะเจาะจง เช่น "ระดับ 4 และต่ำกว่า" "ระดับ 5-9" "ระดับ 10-14" เป็นต้น
- การปรับแต่งข้อความส่งเสริมการขายสำหรับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มให้แก่ผู้เล่นในระดับต่างๆ เช่น คุณอาจไฮไลต์ฟีเจอร์หรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์เกมเพลย์ในปัจจุบันของผู้เล่นรายนั้นๆ โดยเฉพาะ
หากต้องการดึงดูดผู้เล่นที่ไม่ได้ใช้งานแอปมาระยะหนึ่งให้กลับมาอีกครั้ง คุณอาจใช้ Play Grouping API เพื่อกำหนดเป้าหมายกลุ่มที่เฉพาะเจาะจงโดยการดำเนินการดังนี้
- การสร้างแท็กชื่อ "last_session" และกำหนดการประทับเวลาซึ่งระบุเวลาสิ้นสุดของเซสชันล่าสุดของผู้เล่นให้แก่ผู้เล่นแต่ละราย
- การสร้างกลุ่มเป้าหมายจากผู้เล่นที่แท็ก "last_session" เก่ากว่าเกณฑ์ที่เฉพาะเจาะจง (เช่น 14 วัน, 30 วัน)
- การใช้โปรโมชันที่มีการกำหนดเป้าหมายไว้เพื่อดึงดูดผู้ใช้ที่หยุดใช้งานให้กลับมาที่แอป โดยคุณอาจเสนอสิ่งจูงใจ ไฮไลต์เนื้อหาใหม่ หรือช่วยเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับฟีเจอร์ที่ผู้ใช้อาจเคยชื่นชอบ
นอกจากนี้ Google Play ยังได้ให้คำจำกัดความไว้ล่วงหน้าสำหรับเมตริกกลุ่มเป้าหมายที่เลิกใช้งานและหยุดใช้งานเพื่อใช้กับเนื้อหาส่งเสริมการขาย ดังนี้
- ผู้ใช้ที่เลิกใช้งานคือผู้ใช้ที่ถอนการติดตั้งแอปแล้ว
- ผู้ใช้ที่หยุดใช้งานคือผู้ใช้ที่ยังติดตั้งแอปไว้อยู่แต่ไม่ได้เปิดแอปในช่วง 28 วันที่ผ่านมา
กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองช่วยให้คุณกำหนดคำจำกัดความของคุณได้เองสำหรับ "หยุดใช้งาน" และ "เลิกใช้งาน" เพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจ
หากแอปมีฟีเจอร์หลายอย่าง คุณสามารถใช้ Play Grouping API เพื่อกำหนดผู้ใช้เป้าหมายตามการใช้งานฟีเจอร์ได้โดยการดำเนินการดังนี้
- การสร้างแท็กบูลีนสำหรับฟีเจอร์แต่ละรายการ (เช่น "การเดิน" "การเล่นโรลเลอร์เบลด" "การทำขนม")
- การกำหนดกลุ่มเป้าหมายโดยอิงตามการรวมฟีเจอร์ที่เฉพาะเจาะจง (เช่น ผู้ใช้ที่ใช้ทั้ง "การเดิน" และ "การเล่นโรลเลอร์เบลด")
- การปรับแต่งข้อความส่งเสริมการขายเพื่อไฮไลต์ฟีเจอร์หรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องสำหรับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม เช่น คุณอาจเสนอส่วนลดสำหรับฟีเจอร์ "การเดิน" ใหม่ให้แก่ผู้ใช้ที่ใช้ฟีเจอร์ "การเล่นโรลเลอร์เบลด" บ่อยๆ