การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดการเรียกเก็บเงินของ Google Play สำหรับนักพัฒนาแอปที่ให้บริการผู้ใช้ในอินเดีย

เราจะให้นักพัฒนาแอปทุกรายสามารถเสนอระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นควบคู่ไปกับระบบของ Google Play สำหรับผู้ใช้มือถือและแท็บเล็ตในอินเดีย เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาด้านข้อกำหนดล่าสุดในอินเดีย หากผู้ใช้ชำระเงินผ่านระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่น ค่าบริการ Google Play จะลดลง 4% อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบล็อกโพสต์นี้และนโยบายการชำระเงินฉบับปรับปรุง หากไม่ได้วางแผนให้บริการระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่น คุณไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ หากแอปใช้ระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play อยู่แล้ว

การผสานรวมระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่น

นักพัฒนาแอปจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดหลายข้อเพื่อรักษาประสบการณ์การใช้งานที่ปลอดภัยและสอดคล้องกันสำหรับผู้ใช้ ตอนนี้นักพัฒนาแอปสามารถผสานรวม API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนในการใช้ข้อกำหนดและการรายงานเกี่ยวกับประสบการณ์ของผู้ใช้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องประโยชน์อื่นๆ ของ API ที่นี่

การมีสิทธิ์

คุณสมบัติในการเข้าร่วมโปรแกรมมีดังต่อไปนี้

  • แอปของคุณต้องเป็นแอปหรือเกมที่เสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นให้แก่ผู้ใช้มือถือและแท็บเล็ตในอินเดีย

การผสานรวมกับ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น

หากต้องการเสนอระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นควบคู่ไปกับระบบของ Google Play เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ใช้ในอินเดียและจะใช้ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นนับตั้งแต่วันที่ที่คุณเสนอ คุณต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. อ่านข้อกำหนดในหน้านี้เพื่อระบุว่าแอปของคุณเป็นไปตามเกณฑ์การมีสิทธิ์หรือไม่
  2. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการเรียกเก็บเงินระบบอื่น (การตั้งค่า > การเรียกเก็บเงินระบบอื่น) และทำตามขั้นตอนการเริ่มต้นใช้งานที่จำเป็นเพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรม (เช่น ยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการและตั้งค่าโปรไฟล์การชำระเงินตามที่กำหนด)
  3. ทำตามข้อกำหนดด้านความเชื่อมั่นและความปลอดภัยโดยรับการรับรองการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ PCI DSS และให้วิธีการรายงานธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกงแก่ผู้ใช้
  4. ผสานรวม API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นตามที่อธิบายไว้ในคู่มือการผสานรวม API นี้
  5. จัดการการตั้งค่าการเรียกเก็บเงินระบบอื่นใน Play Console เพื่อเลือกใช้/ไม่ใช้สำหรับแต่ละแอป อัปโหลดโลโก้วิธีการชำระเงิน และ URL การจัดการการสมัครใช้บริการ
  6. รายงานธุรกรรมที่ได้รับอนุญาตทั้งหมดจากผู้ใช้ในอินเดียไปยัง Google Play ภายใน 24 ชั่วโมงโดยใช้ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น
  7. สำหรับการสมัครใช้บริการที่ใช้งานอยู่ซึ่งเริ่มต้นขณะที่คุณเสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นโดยไม่ใช้การทำงานอัตโนมัติ คุณจะต้องย้ายข้อมูลการสมัครใช้บริการเหล่านี้ผ่าน ExternalTransactions API
  8. ชำระค่าบริการ Google Play ที่ปรับค่าใช้จ่ายแล้วสำหรับธุรกรรมที่มีการออกใบแจ้งหนี้ซึ่งใช้ระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นที่ไม่ใช่ระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play

ต้องทำอะไรต่อ

เมื่อทำตามขั้นตอนการเริ่มต้นใช้งานเสร็จแล้ว โปรดดูวิธีการที่จะส่งถึงคุณทางอีเมล

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม โปรดติดต่อทีมสนับสนุนของเราที่นี่

คำถามที่พบบ่อย

ทำไมถึงยังกำหนดให้ต้องมีระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play คู่กับระบบของนักพัฒนาแอป

Google Play เชื่อว่าผู้ใช้ควรมีตัวเลือกในการใช้ระบบการเรียกเก็บเงินของ Play เมื่อซื้อสินค้าดิจิทัลจากแอปที่ติดตั้งจาก Google Play เราสร้างระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play ภายใต้มาตรฐานสูงสุดด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเพื่อให้ผู้ใช้มีความมั่นใจเมื่อทำการสั่งซื้อในแอป ระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นอาจไม่มีฟีเจอร์และตัวเลือกการป้องกันหรือการชำระเงินแบบเดียวกับระบบของ Google Play เช่น การควบคุมโดยผู้ปกครอง วิธีการชำระเงินของครอบครัว การจัดการการสมัครใช้บริการ บัตรของขวัญ Google Play และแต้ม Play

ทำไมถึงยังต้องมีค่าบริการอยู่

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ค่าบริการของ Google Play ไม่ได้เป็นเพียงค่าธรรมเนียมในการประมวลผลการชำระเงิน แต่ยังแสดงถึงคุณค่าของสิ่งที่ Android และ Google Play มีให้ ตลอดจนบริการอื่นๆ ที่เราจัดให้นักพัฒนาแอป ซึ่งรวมถึงการเผยแพร่และการค้นพบแอป แพลตฟอร์มการค้า เครื่องมือสำหรับนักพัฒนาแอป ข้อมูลวิเคราะห์ การฝึกอบรม และอีกมากมาย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าบริการได้ที่บทความนี้

มีผลิตภัณฑ์ประเภทใดบ้างที่ฉันสามารถเสนอตัวเลือกระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นให้กับผู้ใช้ในอินเดีย

ระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นสามารถใช้กับการซื้อในแอปและการสมัครใช้บริการที่ขายให้แก่ผู้ใช้มือถือและแท็บเล็ต โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมในนโยบายการชำระเงิน

ค่าบริการทำธุรกรรมดิจิทัลที่ใช้ระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นจะเป็นจำนวนเท่าใด

นักพัฒนาแอปต้องจ่ายค่าบริการที่เกี่ยวข้องให้แก่ Google เมื่อผู้บริโภคเลือกใช้ระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่น ค่าบริการมาตรฐานที่นักพัฒนาแอปจะต้องชำระจะลดลง 4% สำหรับผู้ใช้ที่เลือกระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play ค่าบริการจะยังคงเท่ากับในปัจจุบัน ค่าบริการสำหรับนักพัฒนาแอปที่ยังคงใช้ระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play อยู่ต่อไปจะยังคงเหมือนเดิม โดยนักพัฒนาแอป 99% มีคุณสมบัติตรงกับการชำระค่าบริการไม่เกิน 15%

ฉันจะส่งธุรกรรมที่ดำเนินการผ่านระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นได้อย่างไร

ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2023 เป็นต้นไป คุณจะสามารถรายงานธุรกรรมที่ดำเนินการผ่านระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นโดยใช้ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นและต้องรายงานภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากการชำระเงินได้รับอนุมัติ API เหล่านี้ช่วยลดความซับซ้อนในการรายงานให้แก่นักพัฒนาแอป และทำให้ธุรกรรมที่ดำเนินการผ่านระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นแสดงในอันดับสูงสุดของ Google Play ด้วย

คุณรายงานธุรกรรมด้วยตนเองได้หากยังไม่ได้ผสานรวมกับ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น หากรายงานด้วยตนเอง คุณจะต้องรายงานจำนวนเงินของธุรกรรมการชำระเงินด้วยตนเองเดือนละครั้งภายในวันทำการที่ 5 ของแต่ละเดือน เช่น รายงานสำหรับธุรกรรมที่เกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2023 จะต้องส่งภายในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2023 เมื่อกรอกแบบฟอร์มประกาศเรียบร้อยแล้ว เราจะตรวจสอบข้อมูลและส่งวิธีการรายงานธุรกรรมการชำระเงิน ตลอดจนประเภทการชำระเงินที่คุณต้องนำส่งค่าบริการและภาษีที่เกี่ยวข้องไปให้คุณ

ระบบคำนวณและออกใบแจ้งหนี้สำหรับค่าบริการของธุรกรรมที่ดำเนินการผ่านระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นอย่างไร

ค่าบริการจะคำนวณตามธุรกรรมที่มีการชำระเงินจากผู้ใช้มือถือและแท็บเล็ตในอินเดีย คุณจะได้รับใบแจ้งหนี้ที่มีวันที่ครบกำหนดและวิธีการชำระเงิน

ราคาที่ฉันแสดงในระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นจะต้องตรงกับราคาที่แสดงในระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play ไหม

ไม่ นักพัฒนาแอปจะแสดงราคาที่แตกต่างกันในระบบการเรียกเก็บเงินแต่ละระบบก็ได้ หากต้องการ

หากฉันวางแผนจะเสนอการเรียกเก็บเงินแบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจหรือได้ดำเนินการไปแล้ว ฉันต้องทำตามข้อกำหนดด้านประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ระบุในหน้านี้เมื่อใด

หากคุณเสนอการเรียกเก็บเงินแบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจที่มีการผสานรวม API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น ก็สามารถทำตามข้อกำหนดด้านประสบการณ์ของผู้ใช้ได้ด้วยการผสานรวมและ ใช้ API ฝั่งไคลเอ็นต์

นักพัฒนาแอปสามารถโปรโมตระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นภายในแอปของตนได้ไหม

ได้ นักพัฒนาแอปที่ใช้ระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นสามารถโปรโมตระบบการเรียกเก็บเงินดังกล่าวภายในแอปของตน แต่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ด้าน UX ของเราหรือเสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นโดยใช้ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นด้วยเพื่อดูแลให้ผู้ใช้ทราบถึงตัวเลือกที่มีให้และได้รับประสบการณ์ของผู้ใช้ที่สอดคล้องกัน

โปรแกรมนี้อนุญาตให้มีลิงก์การซื้อเนื้อหาดิจิทัลสำหรับผู้ใช้ใช่ไหม

ใช่ โปรแกรมนี้อนุญาตให้นักพัฒนาแอปใช้การชำระเงินบนเว็บเป็นวิธีการชำระเงินทางเลือกใน WebView ที่ฝังไว้ในแอป และเช่นเดียวกับวิธีการชำระเงินทางเลือกอื่นๆ วิธีการชำระเงินเหล่านี้จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของโปรแกรมที่ระบุไว้ในหน้านี้ ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดทั้งหมดด้านความเชื่อมั่นของผู้ใช้และความปลอดภัย ตลอดจนค่าบริการ

แอปของฉันลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรมนำร่องการเรียกเก็บเงินแบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจสำหรับผู้ใช้ในอินเดียแล้ว ฉันต้องสมัครเข้าร่วมอีกครั้งเพื่อเข้าร่วมโปรแกรมการเรียกเก็บเงินระบบอื่นของอินเดียไหม

หากแอปของคุณลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรมนำร่องการเรียกเก็บเงินแบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจสำหรับผู้ใช้ในอินเดียก่อนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2023 คุณไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนอีกครั้งผ่านโปรแกรมการเรียกเก็บเงินระบบอื่นของอินเดีย อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องส่งแบบฟอร์มการลงทะเบียนแพ็กเกจแอปที่อัปเดตใหม่ หากเปลี่ยนข้อเสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นในประเทศใดๆ สำหรับแพ็กเกจแอปหนึ่งๆ

ฉันได้ส่งแบบฟอร์มการลงทะเบียนแพ็กเกจแอปเพื่อระบุประเทศที่จะใช้การเรียกเก็บเงินแบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจสําหรับแอปแล้ว ฉันจะแจ้งให้ Google ทราบการเปลี่ยนแปลงในตัวเลือกลงทะเบียนแพ็กเกจแอปได้อย่างไร

คุณสามารถเปลี่ยนข้อเสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นในตลาดสำหรับแพ็กเกจแอปหนึ่งๆ ได้ผ่านการตั้งค่าการเรียกเก็บเงินระบบอื่นใน Play Console การอัปเดตทั้งหมดจะมีผลทันที รวมถึงการเปลี่ยนแปลงค่าบริการที่เกี่ยวข้องด้วย

API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นมีประโยชน์อย่างไร ฉันจะผสานรวมกับ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นเพื่อแสดงภาพหน้าจอที่มีตัวเลือกแก่ผู้ใช้ก่อนใช้ API ในการรายงานธุรกรรมได้ไหม

API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นได้รับการออกแบบให้ผสานรวมและใช้งานร่วมกันเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานสำหรับนักพัฒนาแอป โดย API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นมีประโยชน์ดังนี้

  • หน้าจอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นที่แสดงผลโดย Google Play ซึ่งหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องสร้างและดูแลรักษาหน้าจอข้อมูลด้วยตนเอง
  • การรายงานธุรกรรมที่ง่ายขึ้น ซึ่งจะนำจุดสัมผัสต่างๆ ที่ต้องทำด้วยตนเองออกและลดข้อผิดพลาดในการรวมข้อมูลหรือการปรับยอด
  • ธุรกรรมจากระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นที่รายงานผ่าน API จะแสดงในอันดับสูงสุดของ Google Play

นอกจากนี้ เรายังได้ทำการปรับปรุงต่อไปนี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถใช้การเรียกเก็บเงินระบบอื่นได้ง่ายขึ้น

  • จัดการการตั้งค่าการเรียกเก็บเงินระบบอื่นด้วยตนเองผ่าน Play Console เช่น การเปิดหรือปิดใช้การเรียกเก็บเงินแบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจในแอปที่มีสิทธิ์ตามตลาดที่มีสิทธิ์ การจัดการโลโก้วิธีการชำระเงิน และ URL การจัดการการสมัครใช้บริการ
  • รายงานธุรกรรมของระบบการเรียกเก็บเงินระบบอื่นที่สามารถส่งออกได้ ซึ่งรายงานผ่าน API โดยมีข้อมูลเพิ่มเติม เช่น อัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ รหัสแพ็กเกจแอปที่เกี่ยวข้อง และอัตราค่าบริการ
ฉันจะดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีผสานรวมกับ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นได้ที่ไหน

การขยายการผสานรวมที่มีอยู่กับระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play เพื่อใช้ประโยชน์จาก API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นนั้นทำได้ง่ายดาย API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นสร้างขึ้นโดยใช้รูปแบบและหลักการเดียวกันกับ Play Billing Library และ Play Developer API ซึ่งหมายความว่าจะเข้ากันได้กับรูปแบบที่คุณมีอยู่และเป็นสิ่งที่ทีมคุ้นเคยอยู่แล้วโดยส่วนใหญ่

ในคู่มือการผสานรวม เรามีหลักเกณฑ์และแหล่งข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับวิธีเริ่มต้นใช้งานและจัดการกรณีการใช้งานสำหรับการเรียกเก็บเงินระบบอื่นๆ รวมถึงการซื้อแบบครั้งเดียวและแบบตามรอบ และมีข้อมูลโค้ดตัวอย่างเพื่อให้ติดตั้งใช้งานได้ง่าย เรายินดีรับฟังความคิดเห็นจากนักพัฒนาแอปเกี่ยวกับ API เหล่านี้และแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ ที่จะเป็นประโยชน์ หากคุณมีคำถามหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น โปรดติดต่อเราที่นี่

หากเข้าร่วมการเรียกเก็บเงินแบบให้ผู้ใช้ตัดสินใจอยู่แล้ว ฉันต้องทำอะไรบ้างเพื่อเปลี่ยนไปใช้ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น

ทำตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในหัวข้อผสานรวมกับ API การเรียกเก็บเงินระบบอื่น เมื่อย้ายข้อมูลการสมัครใช้บริการที่ใช้งานอยู่จากระยะเวลาที่กำหนดเอง และเริ่มรายงานธุรกรรมโดยใช้ API แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องส่งธุรกรรมด้วยตนเองอีกต่อไป

ฉันจะรายงานธุรกรรมที่เกิดซ้ำผ่าน API การเรียกเก็บเงินระบบอื่นสำหรับการสมัครใช้บริการที่ใช้งานอยู่ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อฉันเสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นแบบไม่อัตโนมัติได้อย่างไร

สำหรับการสมัครใช้บริการที่ใช้งานอยู่ซึ่งเริ่มต้นขณะที่คุณเสนอการเรียกเก็บเงินระบบอื่นโดยไม่มีการรายงานอัตโนมัติ คุณจะต้องย้ายข้อมูลการสมัครใช้บริการเหล่านี้ผ่าน ExternalTransactions API ก่อนที่จะรายงานธุรกรรมที่เกิดซ้ำผ่าน API เมื่อย้ายข้อมูลแล้ว คุณจะต้องรายงานธุรกรรมที่เกิดซ้ำผ่าน API เท่านั้น และไม่จำเป็นต้องรายงานผ่านการรายงานด้วยตนเองอีกต่อไป

หากยังไม่ได้ย้ายข้อมูลการสมัครใช้บริการที่ใช้งานอยู่ คุณยังคงต้องรายงานธุรกรรมที่เกิดซ้ำต่อไปผ่านวิธีการรายงานด้วยตนเองที่มีอยู่

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
12676181660228121487
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
92637
false
false
false
false