หมายเหตุ: เนื้อหาส่งเสริมการขายใช้ได้กับแอปที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์การมีสิทธิ์ในการใช้เครื่องมือสร้างการเติบโตแบบพรีเมียม
คุณสร้างเนื้อหาส่งเสริมการขายเมื่อใดก็ได้ แต่ต้องส่งภายใน 60 วันนับจากวันที่เริ่มต้นกิจกรรม ขั้นตอนการอนุมัติกิจกรรมอาจใช้เวลาสูงสุด 4 วัน ดังนั้นควรส่งกิจกรรมอย่างน้อย 4 วันก่อนวันที่เริ่มต้นเพื่อให้เผยแพร่ได้ทันเวลา
หมายเหตุ: ผู้เข้าร่วมโปรแกรมพาร์ทเนอร์ Google Play สำหรับเกมต้องส่งเนื้อหาส่งเสริมการขายล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วันก่อนวันที่เริ่มต้นกิจกรรมเพื่อรับประโยชน์จากความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพ
ขั้นตอนที่ 1: สร้างกิจกรรมของเนื้อหาส่งเสริมการขาย
เริ่มจากสร้างกิจกรรมของเนื้อหาส่งเสริมการขายโดยทำดังนี้
1. ไปที่หน้าเนื้อหาส่งเสริมการขาย (เพิ่มผู้ใช้ > การแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store > เนื้อหาส่งเสริมการขาย)
2. คลิกสร้างกิจกรรม
ขั้นตอนที่ 2: เพิ่มข้อมูลกิจกรรม
หลังจากสร้างกิจกรรมแล้ว คุณต้องเพิ่มข้อมูลต่อไปนี้
- ชื่อกิจกรรม: ชื่อกิจกรรมภายในที่แสดงใน Play Console เท่านั้น
- ประเภทกิจกรรม: เลือกประเภทกิจกรรม (ดูประเภทของเนื้อหาส่งเสริมการขาย)
- ประเทศ/ภูมิภาค: ประเทศหรือภูมิภาคอย่างน้อย 1 แห่งที่กิจกรรมนี้จะแสดง
- วันที่และเวลาเริ่มต้นกับวันที่และเวลาสิ้นสุด: วันที่และเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของกิจกรรม ซึ่งมีระยะเวลาสูงสุด 4 สัปดาห์ กิจกรรมเดียวกันสามารถจัดขึ้นได้ในหลายประเทศโดยกำหนดวันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุดที่แตกต่างกัน ดังนี้
- เลือก +ประเทศ/ภูมิภาคเพื่อเลือกประเทศหรือภูมิภาคอย่างน้อย 1 แห่งที่ต้องการให้มีวันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุดเดียวกัน
- ทำซ้ำขั้นตอนนี้สำหรับประเทศหรือภูมิภาคอื่นๆ ที่มีวันที่เริ่มต้นหรือวันที่สิ้นสุดที่แตกต่างกัน
- ข้อควรทราบมีดังนี้
- กิจกรรมทั้งหมดควรเริ่มต้นภายในไตรมาสเดียวกัน และแต่ละกิจกรรมจะใช้โควต้า 1 รายการ
- คุณตั้งค่าข้อเสนอให้ไม่มีเวลาสิ้นสุดได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์เวลาที่คุณมีข้อเสนอมาตรฐานสำหรับผู้ใช้บางประเภท เช่น ข้อเสนอสำหรับผู้ใช้มือใหม่ การเลือกตัวเลือกนี้จะกำหนดให้ผู้ที่มีสิทธิ์รับข้อเสนอของคุณต้องเป็นผู้ใช้ใหม่เท่านั้นโดยอัตโนมัติ เรามีแผนที่จะเปิดตัวเกณฑ์การมีสิทธิ์อื่นๆ ในอนาคต เช่น สถานะของผู้ซื้อ ระยะเวลานับตั้งแต่การมีส่วนร่วมครั้งล่าสุด และผู้ใช้ที่เลิกใช้งาน
- การอัปเดตหลักมีกำหนดระยะเวลาอยู่ที่ 28 วัน และประกาศการลงทะเบียนล่วงหน้ามีกำหนดระยะเวลาอยู่ที่ 1 สัปดาห์
- แสดงตัวอย่างกิจกรรม: เลือกว่าต้องการแสดงกิจกรรมใน Google Play ก่อนเวลาเริ่มต้นหรือไม่ แล้วจึงระบุจำนวนวันก่อนวันที่เริ่มต้น โดยไม่เกิน 14 วัน การดำเนินการนี้จะช่วยให้ผู้ใช้เลือกรับการแจ้งเตือนเมื่อกิจกรรมเริ่มต้นขึ้นได้ "แสดงตัวอย่างกิจกรรม" จะมีการเลือกไว้โดยค่าเริ่มต้น ดังนั้นอย่าลืมเปลี่ยนหากไม่ต้องการให้กิจกรรมแสดงขึ้นก่อนวันที่เริ่มต้น คุณแสดงตัวอย่างข้อเสนอไม่ได้
- เลือกกลุ่มเป้าหมาย: คุณเลือกกำหนดกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ได้ ซึ่ง Google Play จะเป็นผู้กำหนดกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้
- ทุกคนหรือผู้ใช้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า
- ทุกคน: ทุกคนใน Play ที่มีแอปของคุณอยู่แล้วหรือมีสิทธิ์ติดตั้งแอป
- ผู้ใช้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า: ผู้ใช้ที่ไม่เคยติดตั้งแอปของคุณจาก Google Play
- กลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง: หมายเหตุ: ตัวเลือกสถานะผู้ซื้อใช้ได้กับการซื้อที่ใช้ระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play เท่านั้น
- สถานะผู้ใช้
- ผู้ใช้ที่เลิกใช้งาน: ผู้ใช้ที่ถอนการติดตั้งแอปของคุณ
- ผู้ใช้ที่หยุดใช้งาน: ผู้ใช้ที่ไม่ได้เปิดแอปของคุณในช่วง 28 วันที่ผ่านมา
- ผู้ใช้ที่หยุดใช้งานและเลิกใช้งาน: ผู้ใช้ที่ถอนการติดตั้งแอปของคุณ หรือไม่ได้เปิดแอปในช่วง 28 วันที่ผ่านมา
- สถานะผู้ซื้อ
- ผู้ใช้ที่ไม่เคยซื้อ: ผู้ใช้ที่ติดตั้งแต่ไม่เคยซื้อจากแอปของคุณ
- ผู้ซื้อครั้งเดียว: ผู้ใช้ที่ซื้อจากแอปของคุณเพียงครั้งเดียว
- ผู้ซื้อซ้ำ: ผู้ใช้ที่ซื้อจากแอปของคุณมากกว่า 1 ครั้ง ซึ่งรวมถึงการชำระค่าสมัครใช้บริการ
- ผู้ซื้อที่หยุดซื้อ: ผู้ใช้ที่ซื้อจากแอปของคุณแต่ไม่ได้ซื้อเลยในช่วง 180 วันที่ผ่านมา
- กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง: คุณสร้างกลุ่มเป้าหมายของคุณเองได้โดยใช้ข้อมูลที่ไม่ซ้ำกันสำหรับผู้ใช้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- สถานะผู้ใช้
- ทุกคนหรือผู้ใช้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า
- ขอให้แนะนำ: คุณขอให้แนะนำกิจกรรมได้ แต่ละไตรมาสจะมีกิจกรรมที่แนะนำได้แบบจำกัด โควต้านี้จะรีเซ็ตทุกไตรมาสและแตกต่างกันไปตามกลุ่มเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น นักพัฒนาแอปเกมบางรายมีการแบ่งโควต้านี้ดังนี้
- ทุกคนหรือผู้ใช้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า: เกมส่วนใหญ่มีโอกาสแนะนำ 4 ครั้งต่อไตรมาส
- กลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง: เกมส่วนใหญ่มีโอกาสแนะนำ 2 ครั้งต่อไตรมาส
นอกจากนี้ คุณยังสามารถขอให้แนะนำเนื้อหาได้เพื่อบอก Google ว่าคุณต้องการให้กิจกรรมนี้โดดเด่นสะดุดตามากยิ่งขึ้น ซึ่งคุณสามารถทำแบบนี้ได้แบบจำกัดจำนวนครั้งในแต่ละไตรมาส
- 4 ครั้งสำหรับกิจกรรมประเภทใดก็ตามที่กำหนดเป้าหมายเป็นทุกคนและผู้ใช้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า
- 2 ครั้งสำหรับกิจกรรมประเภทใดก็ตามที่กำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งอาจเป็นสถานะผู้ใช้ สถานะผู้ซื้อ หรือกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง
สำคัญ: คุณต้องส่งกิจกรรมที่ขอให้แนะนำล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วันก่อนวันที่เริ่มต้นกิจกรรม
นอกจากนี้ คุณสามารถขอให้แนะนำเนื้อหาเพื่อบอก Google ว่าคุณต้องการให้กิจกรรมนี้โดดเด่นสะดุดตามากยิ่งขึ้น ซึ่งคุณสามารถทำแบบนี้ได้แบบจำกัดจำนวนครั้งในแต่ละไตรมาสโดยมีรายละเอียดดังนี้
กิจกรรมที่ขอให้แนะนำมีโอกาสที่จะแสดงอย่างเด่นชัดมากขึ้นในแพลตฟอร์มสำคัญๆ เช่น ด้านบนของหน้าแรก ในการค้นหา รวมถึงบน Google Play และแพลตฟอร์มอื่นๆ อีกมากมายในอนาคต วิธีนี้จะเพิ่มโอกาสในการรับรู้ ระดับการมองเห็น และคุณค่าได้อย่างสมบูรณ์แบบ
วิธีการทำงานของการแนะนำ
- เราคำนวณโควต้าตามเวลาเริ่มต้นของกิจกรรมและไตรมาสที่กำหนดเวลาไว้
- จำนวนโควต้าในหน้าเว็บจะอัปเดตหลังจากที่คุณส่งกิจกรรมเท่านั้น ไม่ใช่เมื่อคุณขอแสดง
กิจกรรมจะใช้โควต้าของคุณในกรณีต่อไปนี้เท่านั้น
- คุณขอให้แนะนำกิจกรรม
- กิจกรรมเริ่มต้นในไตรมาสปัจจุบัน และ
- คุณส่งกิจกรรม (ไม่ใช่ฉบับร่าง)
กิจกรรมจะไม่ใช้โควต้าในกรณีต่อไปนี้
- เป็นฉบับร่าง
- คุณยกเลิกก่อนกิจกรรมจะเริ่ม หรือ
- คุณส่งเนื้อหาอีกครั้งหลังจากที่เนื้อหาไม่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพ
คุณจะส่งกิจกรรมฉบับร่างที่กำหนดเวลาไว้ไม่ได้หากใช้โควต้าเกิน
การทำ Deep Link: คุณสามารถใช้การทำ Deep Link เพื่อนำผู้ใช้ไปยังเนื้อหาที่เฉพาะเจาะจงและติดตามการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ เพิ่ม Deep Link ลงในกิจกรรมเพื่อนำผู้ใช้ไปยังตำแหน่งที่แน่นอนภายในแอป ซึ่งไม่เพียงช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ แต่ยังช่วยให้คุณตรวจสอบประสิทธิภาพของกิจกรรมได้ด้วยการติดตามการดำเนินการของผู้ใช้ที่เริ่มต้นจาก Deep Link เหล่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ขั้นตอนที่ 3: เพิ่มข้อความและเนื้อหากราฟิกของกิจกรรม
ถัดไป ให้ระบุข้อความและเนื้อหากราฟิกของกิจกรรมดังต่อไปนี้
- แท็กไลน์ (จำเป็น): แท็กไลน์ควรสื่อความหมายและเกี่ยวกับกิจกรรมโดยเฉพาะ อย่าใช้แท็กไลน์ทั่วไปที่นำมาใช้ซ้ำกับกิจกรรม แอป หรือเกมอื่นๆ ได้ หากคุณกำลังกำหนดค่าข้อเสนอ ให้ระบุไอเทมที่จะลดราคารวมถึงจำนวนส่วนลด ตัวอย่างเช่น "ลดราคาช่วงเทศกาลวันหยุด! รับส่วนลด 25% เมื่อใช้จ่ายมากกว่า 1,500 บาทขึ้นไป" "เส้นทางใหม่: ลองแข่งบนถนน Prince’s Highway ช่วงสุดสัปดาห์นี้และปลดล็อกรถในตำนานสุดเอ็กคลูซีฟ" หรือ "หนังสือซื้อ 4 จ่าย 3"
- คำอธิบาย (จำเป็น): อย่าคัดลอกข้อความแท็กไลน์มาใช้ในคำอธิบายของกิจกรรม เนื่องจากคำอธิบายจะแสดงพร้อมกับแท็กไลน์ใน Google Play ตรวจสอบว่าคำอธิบายเกี่ยวข้องกับกิจกรรม หากคุณกำลังกำหนดค่าข้อเสนอ ให้ระบุข้อจำกัดหรือเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง เช่น การมีสิทธิ์ จำนวนทั้งหมดที่มีให้บริการ จำนวนต่อผู้ใช้ หรือวิธีรับข้อเสนอ คำอธิบายต้องลงรายละเอียดให้มากที่สุดเพื่อให้เข้าใจได้แม้จะเป็นผู้ใช้ที่อาจไม่รู้จักแอปหรือเกมของคุณ ดูข้อกำหนดเกี่ยวกับคำอธิบาย
- ภาพเคลื่อนไหว (ไม่บังคับ): ใช้ภาพเคลื่อนไหวที่สื่อข้อความหลักของกิจกรรม การอัปเดต หรือข้อเสนอได้อย่างชัดเจนและกระชับ ภาพเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยมจะต้องให้ข้อมูลและดึงดูดใจในเวลาเดียวกัน ตรวจสอบว่าภาพเคลื่อนไหวมีความราบรื่น มองเห็นได้ครบโดยที่ไม่มีส่วนใดถูกตัดออก และไม่มีข้อความ เช่น โลโก้แบรนด์ สโลแกน หรือชื่อแอป/เกม ดูข้อกำหนดเกี่ยวกับภาพเคลื่อนไหว
- รูปภาพหลัก (จำเป็น): ตรวจสอบว่ารูปภาพเกี่ยวข้องกับกิจกรรมและช่วยให้ผู้ใช้เห็นภาพกิจกรรม อย่าใส่ข้อความในรูปภาพ (รวมถึงโลโก้ของแบรนด์ สโลแกน หรือชื่อแอป/เกม) และอย่าใส่องค์ประกอบภาพที่สำคัญลงในส่วนที่จะถูกตัดออก ดูข้อกำหนดเกี่ยวกับรูปภาพ
- รูปภาพสี่เหลี่ยมจัตุรัส (จำเป็น): ต้องใช้เพื่อแสดงในแพลตฟอร์มและรายการต่างๆ ของ Google Play ดูข้อกำหนดเกี่ยวกับรูปภาพ
- วิดีโอ (แนะนำอย่างยิ่ง): ต้องเป็นวิดีโอ YouTube แบบสาธารณะที่ปิดการสร้างรายได้ไว้ ดูข้อกำหนดเกี่ยวกับวิดีโอ
สาเหตุทั่วไปที่ทำให้ทีมตรวจสอบของเราต้องปฏิเสธกิจกรรมและข้อเสนอคือการป้อนข้อมูลเป็นภาษาที่ไม่ถูกต้อง โปรดตรวจดูว่าคุณได้ป้อนแท็กไลน์และคำอธิบายเป็นภาษาที่ถูกต้องหมายเหตุ: ภาษาเริ่มต้นคือภาษาที่นักพัฒนาแอปกำหนดไว้เมื่อสร้างแอป
(แนะนำ) ขั้นตอนที่ 4: แปลภาษา
เราขอแนะนำให้คุณแปลกิจกรรมเป็นภาษาอื่นเพื่อเข้าถึงผู้ใช้ในประเทศต่างๆ ได้ ซึ่งคล้ายกับข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง เลือกจัดการคำแปล > จัดการคำแปลของตัวเอง แล้วเลือกภาษาอื่นที่ต้องการแปลสำหรับกิจกรรมของคุณ
หมายเหตุ: ภาษาอื่นจะใช้เนื้อหากราฟิกที่คุณอัปโหลดในขั้นตอนที่ 3 โดยค่าเริ่มต้น คุณให้เนื้อหาเฉพาะสำหรับภาษาหนึ่งๆ ด้วยตนเองได้โดยเลือกภาษาและอัปโหลดเนื้อหากราฟิกที่จำเป็นสำหรับแต่ละภาษา
ขั้นตอนที่ 5: ส่งและเผยแพร่กิจกรรม
คลิกส่งกิจกรรมเพื่อเผยแพร่ใน Google Play คุณคลิกบันทึกเป็นฉบับร่างเพื่อบันทึกงานโดยไม่ส่งไปยัง Google Play ได้
สำคัญ: คุณจะแก้ไขกิจกรรมหลังจากที่ส่งไปแล้วไม่ได้ ดังนั้นโปรดตรวจสอบงานอีกครั้งก่อนส่ง
คัดลอกกิจกรรม
คุณสามารถคัดลอกข้อมูลจากกิจกรรมที่ผ่านมาเพื่อช่วยให้สร้างกิจกรรมที่คล้ายกันได้ง่ายขึ้น
สิ่งที่ต้องทำก่อน: โปรดอ่านหลักเกณฑ์ด้านคุณภาพของเนื้อหาเพื่อให้แน่ใจว่ากิจกรรมนี้แตกต่างจากกิจกรรมเดิมมากพอ คุณไม่สามารถเผยแพร่กิจกรรมที่เหมือนหรือคล้ายกันอย่างมากในเวลาเดียวกัน
วิธีคัดลอกกิจกรรมเนื้อหาส่งเสริมการขาย
- ไปที่หน้าเนื้อหาส่งเสริมการขาย (เพิ่มผู้ใช้ > การแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store > เนื้อหาส่งเสริมการขาย)
- ในหน้าหลัก ให้คลิกคัดลอกไปยังกิจกรรมใหม่
- ระบบจะสร้างสําเนาของกิจกรรมขึ้นมา คุณแก้ไขรายละเอียดที่ต้องการเปลี่ยนแปลงได้ (รายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนนี้มีอธิบายอยู่ในส่วนสร้างเนื้อหาส่งเสริมการขายด้านบน)
- event_ID: เว้นช่องนี้ว่างไว้หากเป็นกิจกรรมใหม่
- Event_type: ต้องเป็น
OFFER
,TIME-LIMITED_EVENT
หรือMAJOR_UPDATE
- Priority: ต้องเป็น
FEATURING_REQUESTED
หรือFEATURING_NOT_REQUESTED
- submission_state: ต้องเป็น
DRAFT
หรือSUBMITTED
- start_time_utc และ end_time_utc: เวลาอยู่ในเขตเวลา UTC และต้องอยู่ในรูปแบบ YYYY-MM-DD HH:MM
- default_language_code: ป้อนรหัสภาษาที่คั่นด้วย ";"
- countries: ป้อนรหัสประเทศที่คั่นด้วย ";"
- taglines และ long_description: ควรใช้รูปแบบ "รหัสภาษา=แท็กไลน์" และคั่นด้วย ";" สำหรับแต่ละภาษา
- ตัวอย่างเช่น
en-US=testUS;en-GB=testGB
- ตัวอย่างเช่น
- images/video_ids: กําหนดเนื้อหากราฟิกเป้าหมายตามภาษาได้เช่นเดียวกับแท็กไลน์ หากไม่มีเนื้อหาที่แปล ให้ใช้ default_language_code เราจะใช้เนื้อหาเดียวกันสําหรับภาษาอื่นๆ ทั้งหมดที่คุณกําหนดเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น
en-US=testus.jpg;en-GB=testgb.jpg
en-US=YeT0t1C_y20;en-GB=r-ERajkMXw0
- user_eligibility: หากประเภทเป็นข้อเสนอ ค่าจะต้องเป็น
EVERYONE
หรือNEW_USERS_ONLY
(โปรดเว้นว่างไว้หาก event_type เป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่OFFER
) - preview_opt_in: เป็น
OPT_IN
หรือOPT_OUT
- preview_time_utc: ใช้รูปแบบ YYYY-MM-DD HH:MM
- Event_subtype:
- หากประเภทเป็นข้อเสนอ ค่าจะต้องเป็น
DISCOUNT,
VALUE_ADD
,FREE_REWARD
หรือSUBSCRIPTION_TRIAL
- หากประเภทเป็นกิจกรรมที่มีเวลาจํากัด ค่าจะต้องเป็น
COMPETITION_CHALLENGE
,REAL-TIME
หรือSPECIAL
- หากประเภทเป็นการอัปเดตหลัก ค่าจะต้องเป็น
FEATURES_&_ANNOUNCEMENTS
,NEW_CONTENT
หรือPRE_REGISTRATION _UPDATE
- หากประเภทเป็นข้อเสนอ ค่าจะต้องเป็น