ป้องกันการจัดจำหน่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วยการปกป้องอัตโนมัติและแจ้งให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปของคุณใน Google Play

การปกป้องอัตโนมัติของ Google Play เป็นบริการที่ช่วยคุณปกป้องแอปและเกมจากการจัดจำหน่ายซ้ำและการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ไม่ได้รับอนุญาต เมื่อผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปที่ได้รับการปกป้องของคุณจากช่องทางการจัดจำหน่ายที่ไม่รู้จัก ระบบจะแจ้งให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปอย่างเป็นทางการจาก Google Play การปกป้องอัตโนมัติทำงานในแอปของคุณได้โดยไม่ต้องใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต คุณเปิดใช้บริการนี้ได้อย่างง่ายดายใน Play Console โดยนักพัฒนาแอปไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ ก่อนการทดสอบและไม่ต้องผสานรวมเซิร์ฟเวอร์แบ็กเอนด์

วิธีการทำงาน

การปกป้องอัตโนมัติสามารถเพิ่มฟีเจอร์ต่อไปนี้ลงในแอป

การตรวจสอบโปรแกรมติดตั้ง

การปกป้องอัตโนมัติสามารถเพิ่มการตรวจสอบโปรแกรมติดตั้งของ Google Play ลงในโค้ดของแอป ซึ่งจะเกิดขึ้นขณะรันไทม์เมื่อแอปเปิดขึ้น หากตรวจสอบโปรแกรมติดตั้งไม่สำเร็จ ระบบจะแสดงข้อความเตือนให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปของคุณจาก Google Play 

ข้อดี: วิธีนี้จะช่วยให้ผู้ใช้จำนวนมากขึ้นได้รับอัปเดตแอปอย่างเป็นทางการจาก Google Play

การป้องกันการปลอมแปลง

หมายเหตุ: ฟีเจอร์นี้พร้อมใช้งานสำหรับพาร์ทเนอร์ Play บางรายเท่านั้น

การปกป้องอัตโนมัติสามารถเพิ่มการตรวจสอบรันไทม์ลงในโค้ดของแอปเพื่อตรวจหาการปรับเปลี่ยนและใช้เทคนิคการปรับให้ยากต่อการอ่าน (Obfuscation) ขั้นสูงเพื่อป้องกันไม่ให้นำการตรวจสอบออกหรือทำวิศวกรรมย้อนกลับ หากการตรวจสอบไม่สำเร็จ ระบบจะแสดงข้อความเตือนให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปของคุณจาก Google Play ไม่เช่นนั้นแอปจะไม่ทำงาน

ข้อดี: เมื่อใช้ร่วมกับการตรวจสอบโปรแกรมติดตั้งของ Google Play การป้องกันการปลอมแปลงจะป้องกันไม่ให้ผู้โจมตีข้ามค่ากำหนดการจัดจำหน่ายหรือการสร้างรายได้ของคุณผ่านการปรับเปลี่ยน การจัดแพ็กเกจใหม่ การจัดจำหน่ายซ้ำ และการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ไม่ได้รับอนุญาต

หมายเหตุ: การป้องกันการปลอมแปลงไม่สามารถรับประกันว่าจะป้องกันการปรับเปลี่ยนและการจัดจำหน่ายซ้ำทั้งหมดได้ ซึ่งทำให้การดำเนินการเหล่านี้ซับซ้อนและมีต้นทุนมากขึ้น จึงช่วยลดแนวโน้มที่จะทำสำเร็จ Google Play จะทำให้การป้องกันการปลอมแปลงมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป เพื่อที่รุ่นใหม่ๆ ของคุณจะได้รับการปกป้องเวอร์ชันล่าสุดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดโดยอัตโนมัติ

การแชร์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลของแอป เช่น ข้อมูลประสิทธิภาพและสภาพแวดล้อมที่ไม่ระบุตัวตนกับ Google Play จะช่วยเราปรับปรุงความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพของการป้องกันการปลอมแปลง คุณเลือกไม่ใช้การแชร์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลของแอปได้โดยปิด "แชร์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลของแอปกับ Google" ในหน้าการตั้งค่าการปกป้องอัตโนมัติ (ทดสอบและเผยแพร่ > ความสมบูรณ์ของแอป แล้วเลื่อนลงไปที่การปกป้องอัตโนมัติ) ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้ข้อมูลในการพัฒนาบริการของ Google

ตั้งค่า

ขั้นตอนด้านล่างอธิบายสิ่งที่คุณต้องทำเพื่อเริ่มใช้การปกป้องอัตโนมัติ

สิ่งที่ต้องมีก่อน

การปกป้องอัตโนมัติกำหนดให้ Google Play สร้าง APK ที่มีการปรับเปลี่ยนและรับรอง APK ดังกล่าวในนามของคุณ คุณจึงต้องดำเนินการต่อไปนี้

โปรดคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้ด้วย

  • การปกป้องอัตโนมัติกำหนดให้แอปของคุณกำหนดเป้าหมายเป็น API ระดับ 21 ขึ้นไปเป็นอย่างต่ำ
  • การปกป้องอัตโนมัติทำงานแบบออฟไลน์ แต่การตรวจสอบโปรแกรมติดตั้งจะกำหนดให้มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเป็นครั้งคราวหากแอป Play Store ในอุปกรณ์ออฟไลน์เป็นเวลานาน
  • การปกป้องอัตโนมัติจะแทนที่การใช้ไลบรารีการอนุญาตให้ใช้สิทธิของ Play
  • เมื่ออัปโหลดแอปไปยังการแชร์แอปภายใน ระบบจะไม่ใช้การปกป้อง โปรดแชร์ลิงก์การแชร์แอปภายในกับสมาชิกในทีมที่เชื่อถือได้เท่านั้น และอย่าแชร์เวอร์ชันที่ไม่มีการปกป้องออกไปภายนอก
  • การปกป้องอัตโนมัติเข้ากันไม่ได้กับความโปร่งใสของโค้ดสำหรับ App Bundle

สิ่งอื่นๆ ที่ต้องมีก่อนสำหรับการป้องกันการปลอมแปลง

หมายเหตุ: ฟีเจอร์นี้พร้อมใช้งานสำหรับพาร์ทเนอร์ Play บางรายเท่านั้น

หากต้องการใช้การป้องกันการปลอมแปลง แอปของคุณต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • กำหนดเป้าหมาย API ระดับ 23 ขึ้นไปเป็นอย่างต่ำ การกำหนดเป้าหมาย midSDKVersion 23 ขึ้นไปจะเข้าถึงกว่า 99% ของอุปกรณ์ Android ที่มีการใช้งาน
  • กำหนดเป้าหมาย ABI อย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ ซึ่งได้แก่ x86, x86_64, armeabi-v7a และ arm64-v8a หากต้องการอัปเดต ABI ที่กำหนดเป้าหมายของแอป ให้อัปเดตการตั้งค่า Gradle คุณนำ ABI อื่นๆ ที่อุปกรณ์ Android ไม่ได้ใช้งานออกจากการกำหนดเป้าหมายได้โดยไม่ส่งผลต่อความพร้อมให้บริการของแอป
ขั้นตอนที่ 1: เปิดการปกป้อง

สร้างรุ่นตามที่อธิบายไว้ในขั้นตอนที่ 1 ของส่วน "เตรียมพร้อมและเปิดตัวรุ่น"

คุณสามารถเปิดการปกป้องขณะสร้างรุ่น (ตามที่อธิบายไว้ในขั้นตอนที่ 2 ของส่วนเตรียมพร้อมและเปิดตัวรุ่น) หรือจะเปิดการปกป้องในหน้าความสมบูรณ์ของแอป (ทดสอบและเผยแพร่ > ความสมบูรณ์ของแอป) ก็ได้ ซึ่งจะมีบริการด้านความสมบูรณ์และการรับรองที่ช่วยดูแลให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานในแอปและเกมอย่างที่คุณตั้งใจ

เมื่อจัดเตรียมรุ่น คุณจะเห็นปุ่มรับการปกป้องความสมบูรณ์หรือจัดการการปกป้องความสมบูรณ์ จากนั้นคุณสามารถเปิดการปกป้องความสมบูรณ์ได้โดยคลิกใช่ เปิดเลย ใต้ "การปกป้องอัตโนมัติ" Google Play จะรับรองรุ่นของคุณและเพิ่มการปกป้องความสมบูรณ์เพื่อจำกัดการปลอมแปลงและการจัดจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งหมายความว่าการปกป้องอัตโนมัติเปิดอยู่

จัดเตรียมรุ่นให้เสร็จและบันทึกการเปลี่ยนแปลง

ขั้นตอนที่ 2: ทดสอบแอปที่มีการปกป้อง

ใช้แทร็กทดสอบแต่ละแทร็กในการทดสอบแอปเวอร์ชันที่มีการปกป้อง เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีผลกระทบที่ไม่คาดคิดต่อประสบการณ์ของผู้ใช้หรือประสิทธิภาพ

เราขอแนะนำให้รวมการดำเนินการต่อไปนี้ในการตรวจสอบของคุณด้วย

  • ทดสอบการเปิดของเกม มองหาข้อขัดข้องเมื่อเปิด และเวลาในการเปิดเกมที่ช้าลง

หากพบปัญหาระหว่างขั้นตอนการทดสอบ คุณสามารถเลือกที่จะปิดการปกป้องอัตโนมัติได้ สำหรับเวอร์ชันที่ไม่มีการปกป้อง เราขอแนะนำว่าอย่าโปรโมตเป็นแทร็กแบบเปิดหรือเวอร์ชันที่ใช้งานจริง

วิธีปิดการปกป้องความสมบูรณ์ในแต่ละรุ่น

  1. เมื่อจัดเตรียมรุ่น ให้คลิกจัดการการปกป้องความสมบูรณ์
  2. ในส่วน "การปกป้องอัตโนมัติ" ให้เลือกการปกป้องเวอร์ชันก่อนหน้าหรือปิดการปกป้องของรุ่นนี้
  3. บันทึกการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงจะมีผลกับรุ่นนี้ เมื่อคุณอัปโหลดรุ่นในครั้งถัดไป รุ่นดังกล่าวจะได้รับการปกป้องเวอร์ชันล่าสุดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดอีกครั้ง
ขั้นตอนที่ 3: โปรโมตแอปเป็นแทร็กเวอร์ชันที่ใช้งานจริง

เมื่อพร้อมแล้ว คุณสามารถเปิดตัวรุ่นเป็นแทร็กเวอร์ชันที่ใช้งานจริงใน Play Console ซึ่งจะทำให้แอปที่มีการปกป้องของคุณพร้อมให้บริการสำหรับผู้ใช้ Google Play ทุกคนในประเทศที่คุณเลือก

ปรับแต่งข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store เมื่อผู้ใช้เข้าชมจากข้อความเตือนการปกป้องอัตโนมัติ

การปกป้องอัตโนมัติจะแสดงข้อความเตือนผู้ใช้ที่ได้รับแอปของคุณอย่างไม่เป็นทางการให้ดาวน์โหลดที่ Google Play เมื่อผู้ใช้แตะข้อความเตือน ระบบจะเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยังข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ของคุณ ซึ่งเป็นที่ที่ผู้ใช้จะแตะปุ่มติดตั้ง (หรือปุ่มซื้อหรือปุ่มอัปเดต) เพื่อดาวน์โหลดแอปจาก Play ได้ ระบบจะได้เพิ่มแอปลงในคลัง Play ของผู้ใช้

คุณปรับแต่งเนื้อหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store สำหรับผู้เข้าชมที่แตะข้อความเตือนได้ ซึ่งรวมถึงชื่อแอป ไอคอน คำอธิบาย และเนื้อหากราฟิก วิธีการมีดังนี้

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าความสมบูรณ์ของแอป (ทดสอบและเผยแพร่ > ความสมบูรณ์ของแอป)
  2. เลื่อนไปที่ส่วน "การป้องกันอัตโนมัติ"
  3. คลิกการตั้งค่า
  4. เลื่อนไปที่ส่วน "ปรับแต่งข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store"
  5. คลิกสร้างข้อมูล
  6. ทำตามวิธีการในหน้าสร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง แล้วคลิกบันทึก

หรือจะสร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองสำหรับข้อความเตือนการปกป้องอัตโนมัติจากหน้าข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองโดยตรงก็ได้โดยทำดังนี้

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง (เพิ่มผู้ใช้ > ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง)
  2. คลิกสร้างข้อมูล เลือกว่าจะสร้างข้อมูลใหม่หรือทำซ้ำข้อมูลที่มีอยู่ แล้วคลิกถัดไป
  3. ในส่วน "รายละเอียดข้อมูล" ให้เลื่อนไปที่กลุ่มเป้าหมาย
  4. เลือกตาม URL แล้วป้อน "playintegrity" ในกล่องข้อความ
  5. กรอกรายละเอียดอื่นๆ ทั้งหมดแล้วคลิกบันทึก

เคล็ดลับ: พารามิเตอร์ของ URL "playintegrity" เป็นคีย์เวิร์ดพิเศษที่สงวนไว้สำหรับ Deep Link ความสมบูรณ์ คุณจึงต้องป้อนพารามิเตอร์ดังกล่าวให้ตรงกันทุกประการและไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อตั้งค่าข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง

แนวทางปฏิบัติแนะนำสำหรับการป้องกันการปลอมแปลง

หมายเหตุ: ฟีเจอร์นี้พร้อมใช้งานสำหรับพาร์ทเนอร์ Play บางรายเท่านั้น

ทำตามแนวทางปฏิบัติแนะนำต่อไปนี้เพื่อใช้การป้องกันการปลอมแปลงของ Google Play ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

โปรดระมัดระวังเวลาใช้โซลูชันการป้องกันการปลอมแปลงหลายอย่างร่วมกัน

การปกป้องอัตโนมัติอาจเข้ากันไม่ได้กับโซลูชันการป้องกันการปลอมแปลงรันไทม์อื่นๆ และการพยายามใช้ฟีเจอร์เหล่านี้ร่วมกันอาจทำให้เกิดปัญหาของผู้ใช้ หากแอปดำเนินการตรวจสอบรันไทม์ด้วยวิธีอื่นๆ โปรดทำการทดสอบแอปที่มีการป้องกันอย่างละเอียดว่าไม่มีปัญหาใดๆ ก่อนที่จะเผยแพร่เป็นแทร็กแบบเปิด

อย่าเผยแพร่แอปเวอร์ชันที่ไม่มีการปกป้อง

หากคุณเผยแพร่เวอร์ชันที่ไม่มีการปกป้องไปยังแทร็กแบบเปิดหรือผ่านช่องทางอื่นๆ นอก Google Play การปกป้องแอปจะไม่ทำงานอีกต่อไป คุณควรเผยแพร่เฉพาะแอปเวอร์ชันที่มีการปกป้องไปยังแทร็กแบบเปิดและเวอร์ชันที่ใช้งานจริงเพื่อคงการปกป้องความสมบูรณ์ของแอป

ทดสอบแอปที่มีการปกป้อง

Google Play จะนำส่งบิลด์ที่ได้รับการปกป้องในทุกๆ แทร็กโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นแทร็กทดสอบภายใน แบบปิด แบบเปิด หรือเวอร์ชันที่ใช้งานจริง คุณควรทดสอบเวอร์ชันเหล่านี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนตามปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องต่อไปนี้

  • ทดสอบการเปิดของเกม มองหาข้อขัดข้องเมื่อเปิด และเวลาในการเปิดเกมที่ช้าลง
  • ทดสอบช่วงเวลาที่โค้ดแบบเนทีฟ (C/C++) เรียกกลับออกมาที่ Java (ในโค้ดของคุณเองหรือในไลบรารีของบุคคลที่สาม) เช่น โฆษณา การบันทึก การโต้ตอบในโซเชียล การตรวจสอบสิทธิ์ หรือฟีเจอร์เฉพาะของ Android เช่น การจัดการสิทธิ์

หากพบปัญหาระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบ คุณสามารถเลือกที่จะเปลี่ยนกลับไปใช้การปกป้องอัตโนมัติเวอร์ชันก่อนหน้าที่คุณใช้อยู่แล้วในรุ่นก่อนหน้านี้หรือจะปิดการปกป้องอัตโนมัติก็ได้ สำหรับเวอร์ชันที่ไม่มีการปกป้อง เราขอแนะนำว่าอย่าโปรโมตเป็นแทร็กแบบเปิดหรือเวอร์ชันที่ใช้งานจริง

หากคุณอัปโหลดบิลด์ของแอปไปยังการแชร์แอปภายในโดยตรง Google Play จะไม่เพิ่มการปกป้อง วิธีนี้ช่วยให้คุณใช้การแชร์แอปภายในเพื่ออัปโหลดบิลด์การแก้ไขข้อบกพร่องและบิลด์อื่นๆ ที่คล้ายกันได้

ตรวจสอบข้อขัดข้อง

คุณอาจสังเกตเห็นว่ามีข้อขัดข้องที่เป็นฟังก์ชันของแอปที่มีการปกป้องมากขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าการปกป้องอัตโนมัติกำลังทำงานตามที่คุณต้องการ หากผู้โจมตีปรับเปลี่ยนแอปของคุณไม่สำเร็จ การตรวจสอบรันไทม์จะป้องกันไม่ให้แอปทำงานโดยการทำให้แอปขัดข้องเป็นหลัก

ข้อขัดข้องที่ไม่ได้มีที่มาจาก Google Play จะไม่ส่งผลกระทบต่อเมตริกความเสถียรใน Android Vitals หากคุณใช้เครื่องมืออื่นๆ เพื่อวิเคราะห์ข้อขัดข้อง เช่น Crashlytics และต้องการกรองชื่อแพ็กเกจตามแหล่งที่มาในการติดตั้ง ชื่อแพ็กเกจของ Google Play Store คือ "com.android.vending"

หากกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของข้อขัดข้องที่ไม่พึงประสงค์ คุณสามารถรายงานให้เราทราบโดยระบุรายละเอียดให้ได้มากที่สุด แล้วทีมของเราจะตรวจสอบให้ เราจะตอบกลับการรายงานของคุณหากพบว่าข้อขัดข้องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการปกป้อง

รายงานแอปเวอร์ชันที่ถูกแคร็ก

เวอร์ชันที่ถูกแคร็กคือเวอร์ชันของแอปที่ยังใช้งานได้เมื่อถูกปรับเปลี่ยนหรือเมื่อติดตั้งนอก Google Play หากคุณกำหนดให้มีการติดตั้งจาก Google Play

หากพบว่าแอปของคุณมีเวอร์ชันที่ถูกแคร็ก คุณรายงานให้เราทราบได้

เกณฑ์การมีสิทธิ์สำหรับการป้องกันการปลอมแปลง
หมายเหตุ: ฟีเจอร์นี้พร้อมใช้งานสำหรับพาร์ทเนอร์ Google Play บางรายเท่านั้น

การป้องกันการปลอมแปลงและฟีเจอร์ขั้นสูงอื่นๆ ที่มีอยู่ในการปกป้องอัตโนมัติจะพร้อมใช้งานสำหรับแอปและเกมที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์การมีสิทธิ์ของเรา ดังนี้

  • มี MAU รายวันอย่างน้อย 800,000 รายในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และจำนวนการติดตั้งที่มีการใช้งานอย่างน้อย 800,000 ครั้ง
  • มี MAU รายวันอย่างน้อย 1 ล้านรายในช่วงเดือนที่ผ่านมา และจำนวนการติดตั้งที่มีการใช้งานอย่างน้อย 1 ล้านครั้ง
  • มีการใช้จ่ายของผู้บริโภคอย่างน้อย $20,000 USD/เดือนในแต่ละเดือนตามปฏิทินที่ผ่านมา 3 เดือน หรืออย่างน้อย $25,000 USD ในเดือนตามปฏิทินที่ผ่านมา

หรือเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม Google Play ซึ่งรวมถึงโปรแกรมต่อไปนี้

  • โปรแกรมพาร์ทเนอร์ Google Play สำหรับเกม
  • Google Play Media Experience Program
  • Google Play Pass

ทั้งนี้เกณฑ์การมีสิทธิ์อาจมีการเปลี่ยนแปลง พาร์ทเนอร์ที่มีสิทธิ์เข้าถึงตามเกณฑ์ของเราจะได้รับแจ้งผ่านการแจ้งเตือนใน Play Console และในหน้าความสมบูรณ์ของแอป

หากกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของโจมตีที่ไม่พึงประสงค์เนื่องจากคุณไม่มีสิทธิ์รับการป้องกันการปลอมแปลงอีกต่อไป โปรดติดต่อทีมสนับสนุนนักพัฒนาแอปพร้อมระบุรายละเอียดให้ได้มากที่สุด แล้วทีมของเราจะตรวจสอบให้ เราจะตอบกลับรายงานของคุณตามความเหมาะสม

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
12854499773108444141
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
92637
false
false
false
false