ใช้ Google ไดรฟ์กับโปรแกรมอ่านหน้าจอ

จัดเก็บ แชร์ และทำงานร่วมกันในไฟล์และโฟลเดอร์ต่างๆ ได้จากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ด้วย Google ไดรฟ์

เนื่องจากบทความนี้มีเนื้อหาจำนวนมาก หากต้องการไปยังส่วนใดส่วนหนึ่งในบทความนี้อย่างรวดเร็ว ให้เลือกตัวเลือกด้านล่าง

เริ่มต้นดำเนินการ

เบราว์เซอร์และโปรแกรมอ่านหน้าจอที่แนะนำ

Google ไดรฟ์ขอแนะนำ Chrome และรายการต่อไปนี้

  • NVDA หรือ JAWS ใน Windows
  • ChromeVox ใน ChromeOS
  • VoiceOver ใน MacOS

Getting started with Google Drive using a screen reader

ในวิดีโอนี้ คุณจะได้ดูวิธีเริ่มต้นใช้งาน Google ไดรฟ์โดยใช้ NVDA กับ Firefox

ซิงค์ไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปโดยอัตโนมัติ

คุณจะซิงค์ไฟล์ในไดรฟ์บนคอมพิวเตอร์กับไฟล์ในไดรฟ์บนอินเทอร์เน็ตได้โดยอัตโนมัติ

หลังจากติดตั้งไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปแล้ว ให้ไปยังส่วนต่างๆ ในโฟลเดอร์ Google ไดรฟ์บนคอมพิวเตอร์ โดยใช้การกดแป้นพิมพ์ของโปรแกรมอ่านหน้าจอตามปกติ

หากต้องการข้ามไปยังไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการ ให้ทําดังนี้

  1. ป้อนตัวอักษรตัวแรกของชื่อไฟล์หรือโฟลเดอร์
  2. ตัดและวางไฟล์ระหว่างโฟลเดอร์

ดูวิธีติดตั้งไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป

Google เอกสาร ชีต และสไลด์

หากต้องการเริ่มต้นใช้งานเอกสาร ชีต สไลด์ หรือฟอร์ม ให้ดูวิธีใช้เครื่องมือแก้ไขเอกสารกับโปรแกรมอ่านหน้าจอ

โปรแกรมอ่านหน้าจอที่ทำงานร่วมกับ Google ไดรฟ์ใน Android ได้

คุณสามารถใช้ไดรฟ์บนอุปกรณ์ Android ที่มีคุณลักษณะความสามารถเข้าถึงได้ง่าย เช่น TalkBack, BrailleBack และการเข้าถึงด้วยสวิตช์

หากใช้แป้นพิมพ์ที่เชื่อต่อด้วย USB หรือบลูทูธกับอุปกรณ์ Android คุณจะใช้แป้นพิมพ์ลัดได้ ดูข้อมูลเกี่ยวกับแป้นพิมพ์ลัดกับไดรฟ์

หากคุณใช้ TalkBack

  • วิธีเปิดไฟล์ในไดรฟ์
    1. แตะหรือปัดเพื่อโฟกัสไฟล์
    2. แตะสองครั้งเพื่อเปิด
  • วิธีดำเนินการอื่นๆ เช่น เปลี่ยนชื่อหรือย้ายไฟล์
    1. แตะหรือปัดเพื่อโฟกัสไฟล์
    2. แตะสองครั้งแล้วค้างไว้เพื่อเลือก
    3. เปิดการดำเนินการเพิ่มเติมในแถบเครื่องมือ
    4. เลือกตัวเลือก

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ความช่วยเหลือด้านการช่วยเหลือพิเศษของ Android

โปรแกรมอ่านหน้าจอที่ทำงานร่วมกับ Google ไดรฟ์ใน iOS ได้

คุณสามารถใช้ไดรฟ์บน iPhone หรือ iPad ที่มีโปรแกรมอ่านหน้าจอ VoiceOver ได้

หากต้องการเปิด VoiceOver ให้ทำดังนี้

  1. เปิดการตั้งค่าใน iPhone หรือ iPad
  2. แตะทั่วไป จากนั้น การช่วยเหลือพิเศษ จากนั้น VoiceOver
  3. เปิด VoiceOver

โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมในความสามารถเข้าถึงได้ง่ายของ Apple ใน iPhone

ใช้ Google ไดรฟ์ในรูปแบบเว็บแอปพลิเคชัน

เราขอแนะนำให้ตั้งค่าโปรแกรมอ่านหน้าจอเพื่อไปยังส่วนต่างๆ ของ Google ไดรฟ์ในรูปแบบ "เว็บแอปพลิเคชัน" แทน "หน้าเว็บ"

เมื่อใช้ Google ไดรฟ์ในรูปแบบเว็บแอปพลิเคชัน คุณจะใช้แป้นพิมพ์ลัดสำหรับ Google ไดรฟ์เพื่อไปยังส่วนต่างๆ ของ Google ไดรฟ์ได้ง่ายขึ้น โดยป้อนแป้นพิมพ์ลัดต่อไปนี้

  • หากต้องการเปิดเมนูใหม่สำหรับสร้างรายการ ให้กด alt + n
  • หากต้องการเริ่มการค้นหาในไดรฟ์ ให้กดเครื่องหมายทับ
  • หากต้องการย้ายไปยังพื้นที่การนำทางไฟล์ ให้กด alt + g ตามด้วย n

ตั้งค่าโปรแกรมอ่านหน้าจอเพื่อใช้กับ Google ไดรฟ์

หากต้องการตั้งค่าโปรแกรมอ่านหน้าจอ ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่าง

  • JAWS: หากต้องการปิดเคอร์เซอร์เสมือนจริง ให้กด JAWS + z จนกว่าเคอร์เซอร์เสมือนจริงจะปิด
  • NVDA: หากต้องการเปลี่ยนเป็นโหมดโฟกัส ให้กด NVDA + แป้นเว้นวรรค
  • ChromeVox: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโหมดกดค้างปิดอยู่ หากต้องการปิดโหมดกดค้าง ให้กดแป้นค้นหา 2 ครั้ง
  • VoiceOver: ตรวจสอบว่า QuickNav ปิดอยู่ กดปุ่มลูกศรซ้ายและขวาจนกว่า VoiceOver จะพูดว่า "QuickNav ปิด"

เปิด Google ไดรฟ์

ในเบราว์เซอร์ ให้ไปที่ drive.google.com

ตั้งค่าหน้าเริ่มต้น

หน้าเริ่มต้นของ Google ไดรฟ์จะแนะนำไฟล์และโฟลเดอร์ที่มีประโยชน์มากที่สุดสำหรับผู้ใช้ในขณะนั้น โดยอิงจากกิจกรรมล่าสุดและกิจกรรมที่คาดไว้

ดังนั้นรายการจึงอาจต่างออกไปทุกครั้งที่เปิดไดรฟ์ หากคุณต้องการรายการที่สอดคล้องกัน (มุมมอง) ให้ตั้งค่าหน้าเริ่มต้นเป็น "ไดรฟ์ของฉัน" โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. เลือกตัวเลือกต่อไปนี้
    • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด ctrl + shift + s
    • ใน MacOS ให้กด command + shift + s
  2. ในรายการเมนูการตั้งค่า ให้กด enter
  3. กด tab หลายๆ ครั้งจนกว่าจะถึงกลุ่มหน้าเริ่มต้น
  4. กดลูกศรลงไปยังปุ่มตัวเลือก "ไดรฟ์ของฉัน"
  5. กด shift + tab ไปยังปุ่ม "ย้อนกลับ" และกด enter

คำอธิบายของอินเทอร์เฟซ Google ไดรฟ์

หากต้องการไปยังแต่ละส่วนด้านล่างใน Google ไดรฟ์ ให้ทำดังนี้

  • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด ctrl + F6
  • ใน MacOS ให้กด command + F6 

หากต้องการกลับไปยังส่วนก่อนหน้า ให้ทำดังนี้

  • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด shift + ctrl + F6
  • ใน MacOS ให้กด shift + command + F6 

หลังจากการนำทางแต่ละครั้ง หากต้องการย้ายไปยังส่วนนั้นๆ ให้กด tab

  • ตารางไฟล์และโฟลเดอร์: ส่วนนี้เป็นส่วนหลักที่จะได้รับโฟกัสเริ่มต้น และประกอบด้วยรายการโฟลเดอร์และไฟล์ พื้นที่การนำทางด้านซ้ายจะควบคุมเนื้อหาของรายการ
    • สำคัญ: ออบเจ็กต์อาจแสดงเป็นตารางกริดหรือรายการ
  • แผงด้านข้างของการนำทาง: เมื่อขยาย ส่วนนี้จะให้สิทธิ์เข้าถึงแอปอื่นๆ ของ Google เช่น Keep, Tasks และรายชื่อติดต่อ ในแผงภายในแท็บเบราว์เซอร์
  • แผงการนำทางที่มีรายการต่างๆ ดังนี้
    • ปุ่มข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
    • ปุ่มแป้นพิมพ์ลัด
    • ปุ่มความคิดเห็นเกี่ยวกับการช่วยเหลือพิเศษ
  • แผงแบนเนอร์/การค้นหาที่มี: ส่วนนี้มีการควบคุมสำหรับรายการต่อไปนี้
    • ค้นหาโฟลเดอร์หรือไฟล์ในไดรฟ์
    • เมนูการสนับสนุน
    • เมนูการตั้งค่า
    • ปุ่มเปิดแอปพลิเคชันของ Google
    • ปุ่มเปลี่ยนบัญชีที่ใช้งานอยู่
    • ปุ่มสร้างโฟลเดอร์และไฟล์ใหม่
  • แผนผังการนำทาง: ส่วนนี้จะเปลี่ยนมุมมองหลักเป็นรายการต่อไปนี้
    • หน้าแรก: มุมมองรายการคําแนะนําไฟล์ตามกิจกรรมของคุณ
    • กิจกรรม: ออบเจ็กต์ทั้งหมดที่สำคัญหรือที่อัปเดตเมื่อเร็วๆ นี้
    • พื้นที่ทำงาน: คุณเป็นผู้สร้างหรือได้รับการเพิ่มจากผู้อื่น
    • ไดรฟ์ของฉัน: ไดรฟ์ที่มีออบเจ็กต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับไฟล์ (ไฟล์ โฟลเดอร์ และทางลัด) ซึ่งคุณเป็นผู้สร้างหรือได้รับการเพิ่มจากผู้อื่น
    • ไดรฟ์ที่แชร์: ไฟล์และโฟลเดอร์ที่องค์กรเป็นเจ้าของและเก็บไว้ในไดรฟ์ของทีม
    • คอมพิวเตอร์: เข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์ในเครื่องได้หากคุณซิงค์โฟลเดอร์ในคอมพิวเตอร์
    • แชร์กับฉัน: มุมมองรายการไฟล์และโฟลเดอร์ที่แชร์กับคุณ
    • ล่าสุด: มุมมองรายการไฟล์ที่เข้าถึงล่าสุด
    • ติดดาว: มุมมองรายการไฟล์และโฟลเดอร์ที่คุณติดดาว
    • สแปม: มุมมองรายการไฟล์ที่อาจเป็นอันตราย
    • ถังขยะ: มุมมองรายการไฟล์และโฟลเดอร์ที่คุณลบ
    • พื้นที่เก็บข้อมูล: มุมมองรายการไฟล์และขนาดไฟล์ รวมทั้งการเข้าถึงข้อมูลสำรอง

ใช้แป้นพิมพ์ลัดใน Google ไดรฟ์

มีทางลัดมากมายที่จะช่วยคุณไปยังส่วนต่างๆ ของ Google ไดรฟ์และทำงานต่างๆ ได้

แสดงรายการแป้นพิมพ์ลัดทั้งหมด

  • หากต้องการแสดงกล่องโต้ตอบแป้นพิมพ์ลัด ให้เลือกตัวเลือกดังนี้
    • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด ctrl + เครื่องหมายทับ
    • ใน MacOS ให้กด command + เครื่องหมายทับ
  • หากต้องการสำรวจแป้นพิมพ์ลัดทั้งหมด ให้ป้อนส่วนหนึ่งของคำสั่งหรือเว้นช่องโฟกัสการค้นหาว่างไว้ จากนั้น หากต้องการไปที่ตารางแป้นพิมพ์ลัด ให้กด tab
  • หากต้องการตรวจสอบ ให้เปิดเคอร์เซอร์เสมือนจริงของโปรแกรมอ่านหน้าจอหรือโหมดอ่านเพื่อใช้คำสั่งการไปยังส่วนต่างๆ ในตาราง 
    1. เลื่อนลงในคอลัมน์แรกเพื่อตรวจสอบคำสั่ง
    2. ไปยังคอลัมน์ต่างๆ ทางด้านขวาด้วยแป้นพิมพ์ลัดรายการใหม่และรายการเดิม 
    3. เมื่อเสร็จแล้ว ให้ปิดเคอร์เซอร์เสมือนหรือโหมดอ่าน 
    4. หากต้องการปิดกล่องโต้ตอบ ให้กด escape

คุณสามารถเปิดแป้นพิมพ์ลัดสำหรับ Google ไดรฟ์บนเว็บในแท็บเบราว์เซอร์ใหม่ได้ หากต้องการ

ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับทางลัด

แป้นพิมพ์ลัดของ Google ไดรฟ์ส่วนใหญ่จะประกอบด้วยแป้นกดร่วมและอักขระอย่างน้อย 1 ตัว ซึ่งแป้นกดร่วม เช่น แป้น Shift คือแป้นที่กดค้างไว้ขณะที่คุณกดแป้นอักขระ 

ตัวอย่างแป้นพิมพ์ลัดแต่ละประเภทมีดังนี้

  • แป้นพิมพ์ลัดแบบปุ่มเดียว: เครื่องหมายทับเพื่อทำการค้นหา
  • แป้นพิมพ์ลัดที่ใช้แป้นกดร่วมรายการเดียว: หากต้องการแสดงกล่องโต้ตอบแป้นพิมพ์ลัด ให้ทำดังนี้
    • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด ctrl + เครื่องหมายทับ
    • ใน MacOS ให้กด command + เครื่องหมายทับ
  • แป้นพิมพ์ลัดที่ใช้แป้นกดร่วมหลายรายการ: หากต้องการแสดงการทำงานของโฟลเดอร์ปัจจุบัน ให้ทำดังนี้
    • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด alt + shift + a
    • ใน MacOS ให้กด control + shift + a
  • ลำดับของแป้นพิมพ์ลัดที่เป็นแป้นกดร่วมตามด้วยอักขระ: หากต้องการย้ายโฟกัสไปยังรายการในไดรฟ์ ให้ทำดังนี้
    • สำหรับ Windows และ ChromeOS ให้กด alt + g ตามด้วย i
    • ใน MacOS ให้กด option + g ตามด้วย i

ทำงานใน Google ไดรฟ์ด้วยโปรแกรมอ่านหน้าจอ

เปิดไฟล์

  1. เปิดไดรฟ์ในเบราว์เซอร์โดยไปที่ drive.google.com
  2. หากต้องการค้นหาไฟล์ที่ต้องการ ให้ช้ตัวอักษรแรกเพื่อไปยังส่วนต่างๆ หรือปุ่มลูกศร
    • หากคุณทราบชื่อไฟล์ ให้พิมพ์ตัวอักษรตัวแรก (ตัวเดียวหรือมากกว่านั้น) ในชื่อเพื่อโฟกัสที่รายการที่เริ่มต้นด้วยตัวอักษรดังกล่าว
    • หากเป็นมุมมองรายการ ให้ใช้ปุ่มลูกศรขึ้นและลง
    • หากเป็นมุมมองตารางกริด ให้ใช้ปุ่มลูกศรซ้ายและขวาเพื่อไปยังแต่ละไฟล์ โดยสามารถใช้ปุ่มลูกศรขึ้นและลงเพื่อข้ามไปยังไฟล์หลายไฟล์พร้อมกันได้ตามขนาดหน้าต่างและความหนาแน่นของการแสดงผล
  3. กด enter เพื่อเปิดออบเจ็กต์ที่เลือก
    • โฟลเดอร์: เปิดรายการไฟล์ที่มีอยู่ในโฟลเดอร์
    • ไฟล์ต่างๆ ดังนี้
      • ไฟล์ Workspace เช่น เอกสาร ชีต หรือสไลด์จะเปิดขึ้นในแท็บเบราว์เซอร์ใหม่
      • ไฟล์อื่นๆ จะเปิดในระดับระบบหรือในแอปพลิเคชันของบุคคลที่สามที่เลือก
    • สื่อ: เปิดในโปรแกรมเล่นแบบป๊อปอัปในแท็บเบราว์เซอร์เดียวกัน

เคล็ดลับ: หากต้องการขึ้นไปที่โฟลเดอร์ระดับบนหนึ่งระดับในเส้นทาง ให้ทำดังนี้

  • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด alt + g ตามด้วย p
  • ใน MacOS ให้กด option + g ตามด้วย p

เปลี่ยนเลย์เอาต์ของรายการไฟล์

ไฟล์และโฟลเดอร์ในรายการไฟล์อาจแสดงในมุมมองรายการหรือตารางกริด

  • มุมมองรายการ: แสดง 1 ไฟล์ต่อแถว และจะมีแอตทริบิวต์เพิ่มเติม เช่น แก้ไขล่าสุดและวันที่
  • มุมมองตารางกริด: แสดงหลายไฟล์ในแต่ละแถว โดยจะระบุเฉพาะชื่อและประเภทเท่านั้น

หากต้องการสลับระหว่างมุมมอง 2 แบบ ให้ทำดังนี้

  • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด alt + v ตามด้วย l
  • ใน MacOS ให้กด option + v ตามด้วย l

จัดเรียงลำดับ

  1. หากต้องการไปที่ปุ่ม "กลับทิศทางการจัดเรียง" ให้กด shift + tab
  2. กด enter โปรดทราบว่าโฟกัสจะกลับไปที่รายการไฟล์หรือโฟลเดอร์โดยอัตโนมัติ

จัดเรียงช่อง

  1. หากต้องการเปิดเมนูจัดเรียง ให้เลือกตัวเลือกดังนี้
    • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด alt + r
    • ใน MacOS ให้กด control + r
  2. ใช้ปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงเพื่อตรวจสอบว่าจะจัดเรียงตามชื่อไฟล์หรือวันที่แก้ไขไฟล์
  3. กด enter โปรดทราบว่าโฟกัสจะกลับไปที่รายการไฟล์หรือโฟลเดอร์โดยอัตโนมัติ

เล่นวิดีโอ

  1. เลือกสื่อที่ต้องการเล่น
  2. กด enter
  3. เมื่อเปิดสื่อ ตัวเลือกต่อไปนี้จะพร้อมใช้งาน

ฟีเจอร์

การดำเนินการ

หยุดชั่วคราว/เล่น

ใช้ k กับโฟกัสที่หน้าต่างโปรแกรมเล่น หรือใช้ tab เพื่อไปยังปุ่มเล่น แล้วกด enter หรือแป้นเว้นวรรค
ความเร็วในการเล่น

เมื่อโฟกัสอยู่ที่หน้าต่างโปรแกรมเล่นวิดีโอ

  • ใช้ shift + คอมมา เพื่อลดความเร็วในการเล่น
  • ใช้ปุ่ม shift + จุด เพื่อเพิ่มความเร็วในการเล่น
ตำแหน่งการเล่น

เมื่อโฟกัสอยู่ที่หน้าต่างโปรแกรมเล่นวิดีโอ

  • ใช้ shift + ลูกศรซ้าย เพื่อกรอกลับ 5 วินาที
  • ใช้ shift + ลูกศรขวา เพื่อกรอไปข้างหน้า 5 วินาที
  • ใช้ 1 ถึง 9 เพื่อตั้งค่าตำแหน่งการเล่นเป็น 10% ถึง 90%

กด Tab ไปยังแถบเลื่อน

  • ใช้ shift + page down เพื่อกรอกลับ 1 นาที
  • ใช้ shift + page up เพื่อกรอไปข้างหน้า 1 นาที
  • ใช้ shift + home เพื่อปรับตำแหน่งไปที่จุดเริ่มต้น
  • ใช้ shift + end เพื่อปรับตำแหน่งไปที่จุดสุดท้าย

ปิดเสียง/เปิดเสียง

ใช้ m กับโฟกัสที่หน้าต่างโปรแกรมเล่น หรือใช้ tab เพื่อไปยังปุ่มปรับระดับเสียง แล้วกด enter

ระดับเสียง

กด Tab ไปยังปุ่มปรับระดับเสียงเพื่อทำสิ่งต่อไปนี้

  • เพิ่มระดับเสียงโดยใช้ปุ่มลูกศรขึ้น
  • ลดระดับเสียงโดยใช้ปุ่มลูกศรลง

คำบรรยาย

ใช้ c กับโฟกัสที่หน้าต่างโปรแกรมเล่น หรือใช้ tab เพื่อไปยังปุ่มคำบรรยายแทนเสียง แล้วกด enter

  • เพิ่มขนาดคำบรรยายวิดีโอโดยใช้ shift + เท่ากับ
  • ลดขนาดคำบรรยายวิดีโอโดยใช้ shift + ขีดกลาง

เต็มหน้าจอ

ใช้ f กับโฟกัสที่หน้าต่างโปรแกรมเล่น หรือใช้ tab เพื่อไปยังปุ่มเต็มหน้าจอ แล้วกด enter

สำหรับการตั้งค่าสื่อ ให้ใช้ปุ่ม tab เพื่อไปที่ปุ่มเมนูการตั้งค่า หากต้องการเปิดใช้งานการตั้งค่าต่อไปนี้ ให้กด enter หรือแป้นเว้นวรรค

Feature

การดำเนินการ

ความเร็วในการเล่น

ช่วงความเร็วมีตั้งแต่ 0.25 ถึง 2

ใช้ปุ่มลูกศรหรือ shift + tab เพื่อไปยังปุ่มที่กำหนดเอง แล้วตั้งค่าความเร็วที่กำหนดเองด้วยปุ่มลูกศรขึ้นและลง ใช้ลูกศรขึ้นหรือลงเพื่อเปลี่ยนความเร็ว

คำอธิบายหรือคำบรรยาย

เลือกคำบรรยายด้วยปุ่มลูกศรลง

กด shift + tab เพื่อไปยังตัวเลือกในการตั้งค่าคำบรรยายเพิ่มเติม เช่น

  • ชุดแบบอักษร
  • สีแบบอักษร
  • ขนาดตัวอักษร
  • สีพื้นหลัง
  • ความทึบแสงของพื้นหลัง
  • สีหน้าต่าง
  • ความทึบของหน้าต่าง
  • รูปแบบขอบหน้าต่าง
  • ความทึบของแบบอักษร
  • ปุ่มรีเซ็ต

คุณภาพ

หากต้องการเลือกคุณภาพวิดีโอระหว่าง 720p, 360p หรืออัตโนมัติ ให้กดลูกศรลงแล้วตามด้วย enter

โหมดการแสดงภาพซ้อนภาพ

นำทางด้วยปุ่ม tab เพื่อไปยังปุ่มการแสดงภาพซ้อนภาพ แล้วกด enter

เปลี่ยนสิ่งที่อยู่ในไฟล์หลักและมุมมองโฟลเดอร์

  1. ไปยังส่วนการนำทางด้านซ้ายด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้
    • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด alt + g ตามด้วย n หรือ alt + g ตามด้วย f 
    • ใน MacOS ให้กด option + g ตามด้วย n หรือ option + g ตามด้วย f
  2. ใช้ปุ่มลูกศรขึ้นและลงเพื่อเลือกตัวเลือกต่อไปนี้
    • หน้าแรก
    • กิจกรรม
    • พื้นที่ทำงานหรือคอมพิวเตอร์
    • ไดรฟ์ของฉัน
    • ไดรฟ์ที่แชร์
    • แชร์กับฉัน
    • ล่าสุด
    • ติดดาว
    • สแปม
    • ถังขยะ
    • พื้นที่เก็บข้อมูล
  3. กด enter

รายชื่อไฟล์จะเปลี่ยนแปลงและโฟกัสจะกลับไปที่รายการไฟล์ ยกเว้นกรณีที่มุมมองที่เลือกจะเป็นมุมมองที่ใช้งานอยู่แล้ว

เคล็ดลับ: รายการในไดรฟ์ของฉันและไดรฟ์ที่แชร์จะอยู่ในมุมมองแบบต้นไม้

  1. เลือกตัวเลือกดังนี้ 
    • ใช้ลูกศรขวาเพื่อขยายโครงสร้างต้นไม้เพื่อแสดงโฟลเดอร์
    • ใช้ลูกศรซ้ายเพื่อยุบโครงสร้างต้นไม้
  2. หากต้องการไปยังส่วนต่างๆ ของโฟลเดอร์ในโครงสร้างต้นไม้ ให้ใช้ปุ่มลูกศรขึ้นหรือลง

ค้นหาไฟล์

หากต้องการค้นหารายการในโฟลเดอร์ปัจจุบันอย่างรวดเร็ว ให้ใช้ตัวอักษรแรกเพื่อไปยังส่วนต่างๆ นอกจากนี้คุณยังค้นหาแบบง่ายๆ ในช่องค้นหาหรือการค้นหาขั้นสูงด้วยกล่องโต้ตอบการค้นหาได้อีกด้วย

การใช้ตัวอักษรแรกเพื่อไปยังส่วนต่างๆ

คุณสามารถใช้ฟีเจอร์การใช้ตัวอักษรแรกเพื่อไปยังส่วนต่างๆ เพื่อย้ายโฟกัสภายในโฟลเดอร์ไปยังรายการถัดไปที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรที่พิมพ์ได้ โดยเมื่อกดตัวอักษรเดิมอีกครั้ง ก็จะเป็นการย้ายไปที่รายการถัดไปที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรดังกล่าว

  • เมื่อสิ้นสุดรายการแล้ว เสียงจะดังขึ้นเพื่อระบุว่า "ถึงจุดสิ้นสุด" และโฟกัสจะย้ายกลับไปที่รายการแรก
  • เสียงจะเล่นเมื่อไม่มีรายการที่ตรงกัน ข้อผิดพลาดนี้อาจเกิดขึ้นเมื่อไม่มีรายการที่ตรงกันสำหรับตัวอักษรหรือชุดตัวอักษร 
  • ระบบอาจเล่นเสียงอื่นๆ เพื่อระบุว่ากำลังโหลดในขณะที่ Google ไดรฟ์ดึงข้อมูลเพิ่มเติม
  • สุดท้าย อาจมีเสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นเพื่อแสดงว่าไม่มีรายการที่ตรงกับการค้นหาปัจจุบัน โดยเสียงอาจเล่นขึ้นหลังจากการกดแป้นครั้งแรกหากไม่มีรายการที่ตรงกับชุดตัวอักษร

เคล็ดลับ 

  • หากคุณมีโฟลเดอร์ที่มีรายการต่างๆ มากกว่า 200 รายการ ไดรฟ์อาจค้นหาข้อมูลเพียงบางส่วนเท่านั้น โดยจะแนะนำให้คุณค้นหาเมื่อการใช้ตัวอักษรแรกเพื่อไปยังส่วนต่างๆ ไม่พบรายการที่ตรงกัน
  • คุณสามารถโฟกัสรายการซึ่งมีตัวอักษรละตินที่มีเครื่องหมายด้านบนได้เมื่อกดตัวอักษรที่ไม่มีเครื่องหมายด้านบน

ใช้ช่องค้นหา

  1. หากต้องการย้ายโฟกัสไปที่ช่องค้นหา ให้กดเครื่องหมายทับ 
  2. ป้อนข้อความค้นหา
  3. กด enter 
    • โฟกัสจะย้ายไปที่รายการไฟล์โดยอัตโนมัติ
  4. ใช้ปุ่มลูกศรเพื่อเลื่อนดูผลการค้นหา

สำคัญ: เกณฑ์การค้นหาจะเป็นแบบไดนามิกและระบุการค้นหาได้ทุกประเภทเพื่อกรองไฟล์หรือโฟลเดอร์

โดยจะรวมรายการต่อไปนี้

  • จาก:
    • ส่งโดยผู้ใช้หรือองค์กรที่เจาะจง
  • ถึง:
    • ส่งถึงผู้ใช้หรือองค์กรที่เจาะจง
  • เจ้าของ:
    • เป็นของผู้ใช้หรือองค์กรที่เจาะจง
  • แชร์:
    • แชร์กับผู้ใช้หรือองค์กรที่เจาะจง

ดูวิธีเพิ่มเติมสำหรับกรองข้อความค้นหาได้ที่หัวข้อค้นหาไฟล์ใน Google ไดรฟ์

ใช้กล่องโต้ตอบการค้นหา

  1. หากต้องการย้ายโฟกัสไปที่ช่องค้นหา ให้กดแป้น /
  2. กด tab ไปยังปุ่มเมนู "การค้นหาขั้นสูง" แล้วกด enter
  3. กด tab ผ่านกล่องโต้ตอบและป้อนช่องที่ต้องการใช้สําหรับการค้นหา
  4. หากต้องการค้นหา ให้เลือกตัวเลือกดังนี้
    • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด ctrl + enter
    • ใน MacOS ให้กด command + enter
    • กด tab ไปที่ปุ่ม "ค้นหา" แล้วกด enter
  5. รายการไฟล์จะอัปเดตพร้อมผลลัพธ์

ดูรายละเอียดไฟล์ กิจกรรม และการอนุมัติ

รายละเอียดเกี่ยวกับไฟล์และกิจกรรมของไฟล์จะอยู่ในมุมมองที่เปิดหรือปิดได้

  1. เลือกไฟล์ในรายการไฟล์
  2. หากต้องการย้ายโฟกัสไปที่รายละเอียด ให้เลือกตัวเลือกดังนี้
    • สำหรับ Windows และ ChromeOS ให้กด alt + g ตามด้วย d
    • ใน MacOS ให้กด option + g ตามด้วย d
  3. โฟกัสจะอยู่ที่แท็บ "รายละเอียด" โดยสามารถเลือกกดลูกศรขวาเพื่อเลือก "กิจกรรม" หรือ "การอนุมัติ" แล้วกด enter ได้ และหากต้องการเข้าถึงข้อมูล ให้กด tab
    • รายละเอียด:
      • หน้าต่างขนาดเล็กที่แสดงภาพขนาดย่อของเอกสาร
      • ผู้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงเอกสาร
      • พร็อพเพอร์ตี้ของระบบที่แสดงประเภทเอกสาร ขนาด สถานที่ตั้ง และเจ้าของ
    • กิจกรรม:
      • แสดงประวัติการแก้ไขของเอกสาร
    • การอนุมัติ
  4. หากต้องการปิดแผงรายละเอียด ให้เลือกตัวเลือกดังนี้
    • สำหรับ Windows และ ChromeOS ให้กด alt + v ตามด้วย d
    • ใน MacOS ให้กด option + v ตามด้วย d
    • กด shift + tab ไปยังปุ่มปิด แล้วกด enter
  5. หากต้องการย้ายโฟกัสไปยังรายการไฟล์ ให้เลือกตัวเลือกดังนี้
    • สำหรับ Windows และ ChromeOS ให้กด alt + g ตามด้วย i
    • ใน MacOS ให้กด option + g ตามด้วย i

เคล็ดลับ: หากต้องการทำความเข้าใจรายละเอียดและกิจกรรมได้อย่างง่ายดาย ให้กำหนดค่าโปรแกรมอ่านหน้าจอชั่วคราวให้ไปยังส่วนต่างๆ ของเนื้อหาแบบหน้าเว็บ โปรแกรมอ่านหน้าจอบางโปรแกรมจะกำหนดค่านี้ให้คุณโดยอัตโนมัติ

  • JAWS: หากต้องการสลับ "เคอร์เซอร์เสมือนจริง" ให้กด JAWS + z
  • NVDA: หากต้องการสลับ "โหมดอ่าน" ให้กด NVDA + แป้นเว้นวรรค
  • ChromeVox: หากต้องการสลับ "โหมดกดค้าง" ให้กดแป้นค้นหา 2 ครั้ง
  • VoiceOver: หากต้องการสลับ "QuickNav" ให้กดปุ่มลูกศรซ้ายและขวา

วิธีอื่นๆ ในการค้นหาไฟล์

ใช้แผนผังการนำทางเพื่อค้นหาไฟล์

  1. ไปที่แผนผังการนำทางด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้
    • ใน Windows และ ChromeOS ให้ใช้แป้นพิมพ์ลัด alt + g ตามด้วย n หรือ alt + g ตามด้วย f
    • ใน MacOS ให้ใช้แป้นพิมพ์ลัด option + g ตามด้วย n หรือ option + g ตามด้วย f
  2. ใช้ปุ่มลูกศรขึ้นหรือลงเพื่อไปยังรายการใดรายการหนึ่งต่อไปนี้
  3. หากต้องการเลือกตัวเลือกและย้ายโฟกัสไปยังรายการหลัก ให้กด enter

เคล็ดลับ: หากต้องการย้ายโฟกัสกลับไปที่รายการหลัก ให้เลือกตัวเลือกดังนี้

  • สำหรับ Windows และ ChromeOS ให้กด alt + g ตามด้วย i
  • ใน MacOS ให้กด option + g ตามด้วย i

ใช้กิจกรรม

เอกสารที่มีการแก้ไข ย้าย และแสดงความคิดเห็นเมื่อไม่นานมานี้จะแสดงอยู่ในมุมมองกิจกรรมและจัดเรียงตามวันที่ของกิจกรรม

ใช้ "แชร์กับฉัน"

ไฟล์ที่แชร์กับคุณจะปรากฏตามลำดับเวลาที่แชร์

หากต้องการค้นหาไฟล์ที่แชร์โดยบุคคลใดบุคคลหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ให้ใช้แถบตัวกรอง ดังนี้

  1. หากต้องการย้ายโฟกัสไปยังแถบตัวกรอง ให้เลือกตัวเลือกดังนี้
    • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด ctrl + shift + f
    • ใน MacOS ให้กด command + shift + f
  2. กดลูกศรขวาไปยัง "ผู้คน"
  3. หากต้องการโฟกัสที่ช่องแก้ไข "ค้นหาผู้คนและกลุ่ม" ให้กด enter
  4. พิมพ์ส่วนหนึ่งของชื่อ
  5. กด tab เพื่อไปที่เมนูข้อมูลที่ตรงกัน 
  6. หากต้องการไปที่บุคคลหรือกลุ่มที่สนใจ ให้กดลูกศรลงแล้วตามด้วย enter
  7. หากต้องการไปที่รายการจากบุคคลโดยตามลำดับเวลาที่แชร์ ให้กด tab

ใช้ "ล่าสุด"

ไฟล์ที่คุณเข้าถึงล่าสุดจะมีให้ใช้งานในมุมมองล่าสุด

ใช้ "ที่ติดดาว"

คุณสามารถ "ติดดาว" ไฟล์ที่ต้องการค้นหาอย่างรวดเร็วได้

สำคัญ: หากต้องการสลับ "ติดดาว" ในไฟล์ คุณต้องดำเนินการต่อไปนี้

  1. ย้ายไปยังไฟล์ที่ต้องการ
  2. หากต้องการติดดาวหรือยกเลิกการติดดาวไฟล์หรือโฟลเดอร์ ให้เลือกตัวเลือกดังนี้
    1. ใน Windows และ ChromeOS ให้กด ctrl + alt + s
    2. ใน MacOS ให้กด command + option + s
    3.  ใช้เมนูการทำงาน
      • กด Tab ไปยังปุ่ม "การดำเนินการเพิ่มเติม" แล้วกด enter หรือกด shift + F10
      • กดลูกศรลงเพื่อ "จัดระเบียบ" และกด enter
      • กดลูกศรลงไปยัง "เพิ่มไปยังรายการที่ติดดาว" หรือ "นำออกจากรายการที่ติดดาว" แล้วกด enter

สร้างโฟลเดอร์และไฟล์

สร้างโฟลเดอร์

  1. หากต้องการเปิดเมนูใหม่ ให้เลือกตัวเลือกดังนี้
    • สำหรับ Windows และ ChromeOS ให้กด alt + n
    • ใน MacOS ให้กด control + n
  2. กดลูกศรลงไปยังรายการในเมนูโฟลเดอร์
  3. กด enter
  4. กล่องโต้ตอบจะปรากฏขึ้นเพื่อให้คุณตั้งชื่อโฟลเดอร์
  5. พิมพ์ชื่อโฟลเดอร์
  6. กด enter

เคล็ดลับ: หากต้องการสร้างโฟลเดอร์โดยไม่ใช้เมนูใหม่ ให้ทำดังนี้

  • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด alt + c ตามด้วย f
  • ใน MacOS ให้กด control + c ตามด้วย f

สร้างไฟล์

  1. วิธีเปิดเมนูใหม่ 
    • สำหรับ Windows และ ChromeOS ให้กด alt + n
    • ใน MacOS ให้กด control + n
  2. กดลูกศรลงไปยังประเภทไฟล์ที่ต้องการสร้าง
  3. หากต้องการเปิดเมนูย่อย ให้กด enter หรือลูกศรขวา
  4. หากต้องการเลือกประเภท ให้ใช้ปุ่มลูกศร
  5. กด enter 
    • ระบบจะสร้างไฟล์ในแท็บเบราว์เซอร์ใหม่

เคล็ดลับ: หากต้องการสร้างไฟล์อย่างรวดเร็ว ให้ใช้ทางลัดด้านล่าง

  • หากต้องการสร้างเอกสารใน Google เอกสาร ให้ทำดังนี้
    • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด alt + c ตามด้วย t
    • ใน MacOS ให้กด control + c ตามด้วย t
  • วิธีสร้างสเปรดชีตใน Google ชีต
    • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด alt + c ตามด้วย s
    • ใน MacOS ให้กด control + c ตามด้วย s
  • วิธีสร้างงานนำเสนอใน Google
    • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด alt + c ตามด้วย p
    • ใน MacOS ให้กด control + c ตามด้วย p
  • หากต้องการสร้าง Google วาดเขียน ให้ทำดังนี้
    • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด alt + c ตามด้วย d
    • ใน MacOS ให้กด control + c ตามด้วย d
  • วิธีสร้างแบบฟอร์มใน Google ฟอร์ม
    • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด alt + c ตามด้วย o
    • ใน MacOS ให้กด control + c ตามด้วย o

อัปโหลดไฟล์

  1. หากต้องการเปิดเมนูใหม่ ให้เลือกตัวเลือกดังนี้
    • สำหรับ Windows และ ChromeOS ให้กด alt + n
    • ใน MacOS ให้กด control + n
  2. หากต้องการ "อัปโหลดไฟล์" ให้กดลูกศรลง
  3. กด enter
  4. เลือกไฟล์จากคอมพิวเตอร์ แล้วกด enter

 เคล็ดลับ: หากต้องการอัปโหลดไฟล์ คุณสามารถใช้แป้นพิมพ์ลัดต่อไปนี้

  • ใน Windows และ ChromeOS: alt + c ตามด้วย u 
  • ใน MacOS: control + c ตามด้วย u

อัปโหลดโฟลเดอร์

  1. หากต้องการเปิดเมนูใหม่ ให้เลือกตัวเลือกดังนี้
    • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด alt +n
    • ใน MacOS ให้กด control + n
  2. หากต้องการ "อัปโหลดโฟลเดอร์" ให้กดลูกศรลง
  3. กด enter
  4. เลือกโฟลเดอร์จากคอมพิวเตอร์ของคุณ แล้วกด enter

เคล็ดลับ: หากต้องการอัปโหลดโฟลเดอร์ คุณสามารถใช้แป้นพิมพ์ลัดต่อไปนี้ 

  • ใน Windows และ ChromeOS: alt + c ตามด้วย i
  • ใน MacOS: control + c ตามด้วย i

จัดระเบียบโฟลเดอร์และไฟล์

ย้ายไฟล์ไปยังโฟลเดอร์อื่น

  1. เลือกรายการที่จะย้าย
  2. หากต้องการเปิดเมนูการทำงาน ให้กด shift + F10
  3. กดลูกศรลงเพื่อ "จัดระเบียบ"
  4. กดลูกศรขวาเพื่อ "ย้าย"
  5. หากต้องการเปิดกล่องโต้ตอบการย้าย ให้กด enter
    • เคล็ดลับ: หากต้องการยกเลิกการย้ายไม่ว่าจะในตำแหน่งใดก็ตาม ให้กด escape
  6. โฟกัสเริ่มต้นจะอยู่ที่แท็บ "แนะนํา" คุณสามารถกดลูกศรขวาไปยัง "ที่ติดดาว" หรือ "ตำแหน่งทั้งหมด" ได้หากต้องการ 
  7. หากต้องการเลือกปลายทางจากแท็บที่เลือก ให้กด tab ตามด้วยลูกศรลงไปยังปลายทาง
  8. หากต้องการเลือกโฟลเดอร์ในตำแหน่งปัจจุบัน เช่น โฟลเดอร์อื่นใน "ไดรฟ์ของฉัน" ให้กด shift + Tab แล้วกด enter โฟกัสจะย้ายไปที่โฟลเดอร์ในตำแหน่งปัจจุบัน
    • ไม่บังคับ: หากต้องการสร้างโฟลเดอร์ใหม่ ให้ทำดังนี้
  • หากต้องการไปยังปุ่ม "โฟลเดอร์ใหม่" ให้ใช้แป้น tab
  • กด enter
  • ตั้งชื่อโฟลเดอร์ใหม่
  • กด enter
  1. หากต้องการไปที่ปุ่ม "ย้าย" ให้ใช้แป้น tab
  2. หากต้องการย้ายไฟล์ไปยังปลายทาง ให้กด enter

ใช้คลิปบอร์ดเพื่อคัดลอกหรือย้ายไฟล์และโฟลเดอร์

  1. เลือกรายการที่ต้องการคัดลอกหรือย้าย
    • หากต้องการคัดลอกรายการที่เลือก ให้เลือกตัวเลือกดังนี้
      • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด ctrl + c
      • ใน MacOS ให้กด command + c
    • หากต้องการย้ายรายการที่เลือก ให้เลือกตัวเลือกดังนี้
      • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด ctrl + x
      • ใน MacOS ให้กด command + x
  2. ไปยังไดรฟ์และโฟลเดอร์ปลายทาง
  3. หากต้องการทำสำเนาหรือย้ายให้เสร็จสิ้น ให้เลือกตัวเลือกดังนี้
    • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด ctrl + v
    • ใน MacOS ให้กด command + v

เคล็ดลับ 

  • หากมีชื่อไฟล์หรือโฟลเดอร์อยู่แล้ว ชื่อไฟล์หรือโฟลเดอร์ใหม่จะขึ้นต้นด้วย "สำเนาของ" ตามด้วยชื่อไฟล์หรือโฟลเดอร์
  • หากต้องการเปลี่ยนชื่อไฟล์ที่มีโฟกัส ให้กด F2 คุณสามารถเลือกชื่อปัจจุบันเพื่อแก้ไขหรือแทนที่ได้ เมื่อเสร็จแล้ว ให้กด enter

สร้างแป้นพิมพ์ลัด

ทางลัดคือลิงก์ที่อ้างอิงไฟล์หรือโฟลเดอร์อื่น ซึ่งคุณจะใช้ในไดรฟ์หรือไดรฟ์ที่แชร์ได้ โดยแต่ละรายการจะมีข้อจำกัดดังนี้

  • มีทางลัดได้สูงสุด 500 รายการต่อไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่คุณสร้าง
  • มีทางลัดทั้งหมดได้ 5,000 รายการต่อไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ผู้อื่นสร้าง

วิธีสร้างแป้นพิมพ์ลัด

  1. เลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์
  2. หากต้องการเปิดเมนูการทำงาน ให้กด shift + F10
  3. กดลูกศรลงเพื่อ "จัดระเบียบ" แล้วกดลูกศรขวา
  4. กดลูกศรลงเพื่อ "เพิ่มแป้นพิมพ์ลัด"
  5. หากต้องการเปิดกล่องโต้ตอบ "เพิ่มแป้นพิมพ์ลัด" ให้กด enter
  6. หากต้องการเลือกปลายทางสำหรับแป้นพิมพ์ลัด ให้ทำตามวิธีการต่อไปนี้
    1. หากต้องการเลือกระหว่าง "แนะนำ" "ที่ติดดาว" หรือ "ตำแหน่งทั้งหมด" ให้กดลูกศรขวาแล้วตามด้วย enter
    2. กด tab ตามด้วยลูกศรลงไปยังโฟลเดอร์ปลายทาง
      • ไม่บังคับ: หากโฟลเดอร์ปลายทางมีโฟลเดอร์ย่อย ให้ไปที่โฟลเดอร์ย่อย หากต้องการขยายและเลือกปลายทาง ให้กด enter
    3. กด tab ไปที่ปุ่ม "เพิ่ม"
หากต้องการสร้างแป้นพิมพ์ลัด ให้กด enter

จัดการการตั้งค่า

  1. หากต้องการขยายปุ่มเมนู "การตั้งค่า" และโฟกัสที่ตัวเลือกเมนู "การตั้งค่า" ให้ทำดังนี้
    • ใน Windows และ ChromeOS: กด ctrl + shift + s
    • ใน MacOS: กด command + Shift + s
  2. หากต้องการเปิดหน้าการตั้งค่า ให้กด enter
  3. โฟกัสเริ่มต้นจะอยู่ที่รายการ "ทั่วไป" หากต้องการเลือก "การแจ้งเตือน" หรือ "จัดการแอป" ให้กดลูกศรลงตามด้วย enter
  4. หากต้องการไปยังส่วนต่างๆ ของหมวดหมู่การตั้งค่า ให้กด tab
  5. เมื่อเสร็จแล้ว ให้กด shift + tab ไปยังปุ่ม "ย้อนกลับ" ตามด้วย enter

การตั้งค่า: ทั่วไป

รวมรายการต่างๆ ต่อไปนี้

  • พื้นที่เก็บข้อมูล
  • หน้าเริ่มต้น
  • พื้นที่ทำงาน
  • ลักษณะที่ปรากฏ
  • ความหนาแน่น
  • การอัปโหลด
  • ออฟไลน์
  • การ์ดแสดงตัวอย่างไฟล์
  • แป้นพิมพ์ลัด
  • เสียง
  • การแชร์
  • ภาษา
  • ความเป็นส่วนตัว

การตั้งค่า: การแจ้งเตือน

รวมรายการต่างๆ ต่อไปนี้

  • เบราว์เซอร์
  • แจ้งฉันเกี่ยวกับ
  • อีเมล
  • Google Chat

การตั้งค่า: จัดการแอป

รวมรายการต่างๆ ต่อไปนี้

  • จัดการแอปที่เชื่อมต่อกับไดรฟ์

เคล็ดลับ: ปุ่ม tab จะย้ายโฟกัสไปยังช่องทำเครื่องหมายเพื่อสลับแต่ละแอปที่เชื่อมต่อกับไดรฟ์ แอปบางแอปมีปุ่มเมนู "ตัวเลือก" ด้วย

ซิงค์ไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปโดยอัตโนมัติ

คุณจะซิงค์ไฟล์ในไดรฟ์บนคอมพิวเตอร์กับไฟล์ในไดรฟ์บนอินเทอร์เน็ตได้โดยอัตโนมัติ

วิธีติดตั้งไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปใน Windows หรือ MacOS

  1. หากต้องการขยายปุ่มเมนูการตั้งค่าและโฟกัสที่ตัวเลือกเมนู "การตั้งค่า" ให้เลือกตัวเลือกดังนี้ 
    • ใน Windows และ ChromeOS ให้กด ctrl + shift + s
    • ใน MacOS ให้กด command + shift + s
  2. หากต้องการ "ดาวน์โหลดไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป" ให้กดลูกศรลง
  3. กด enter แล้วทำตามวิธีการติดตั้ง

หลังจากติดตั้งไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปแล้ว ให้ไปยังส่วนต่างๆ ในโฟลเดอร์ Google ไดรฟ์บนคอมพิวเตอร์ ใช้แป้นพิมพ์ลัดบนเดสก์ท็อปปกติเพื่อทำสิ่งต่อไปนี้

  • ไปยังชื่อไฟล์หรือโฟลเดอร์ด้วยตัวอักษรแรก
  • ตัดและวางไฟล์ระหว่างโฟลเดอร์

ดูวิธีติดตั้งไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป

ขอความช่วยเหลือ

  1. ไปที่ "การตั้งค่า" แล้วกด shift + tab ไปยังปุ่มเมนู "การสนับสนุน”
  2. หากต้องการเปิดกล่องโต้ตอบ "ความช่วยเหลือ" ให้กด enter 2 ครั้ง
  3. กล่องโต้ตอบจะปรากฏขึ้น หากต้องการเปิดใช้งาน ให้กด tab ไปยังรายการใดรายการหนึ่งต่อไปนี้
    • แหล่งข้อมูลความช่วยเหลือยอดนิยม: ช่องที่คุณเลือกคำตอบที่ลิงก์กับหน้าอื่นได้
    • ไปที่ฟอรัมความช่วยเหลือ
    • ช่องค้นหา: ช่องข้อความเพื่อค้นหาคำตอบสำหรับคำถามของคุณ
    • ถามชุมชนความช่วยเหลือ: รับคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญของชุมชน
    • ส่งความคิดเห็น
  4. กด enter

แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
6803404291981240501
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
99950
false
false
false
false