เริ่มต้นใช้งานไฟล์ที่เข้ารหัสในไดรฟ์ เอกสาร ชีต และสไลด์

ไฟล์ทั้งหมดที่อัปโหลดไปยังไดรฟ์หรือสร้างในเอกสาร ชีต และสไลด์จะได้รับการเข้ารหัสขณะรับส่งและขณะจัดเก็บโดยใช้การเข้ารหัสแบบ AES256 บิต องค์กรอาจอนุญาตให้คุณเข้ารหัสไฟล์ในไดรฟ์ เอกสาร ชีต และสไลด์ด้วยการเข้ารหัสฝั่งไคลเอ็นต์ของ Workspace เพื่อการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น ไฟล์ที่เข้ารหัสมีข้อจำกัดบางประการซึ่งแตกต่างจากไฟล์มาตรฐาน นอกจากนี้ คุณยังอัปโหลดไฟล์ประเภทต่างๆ ในไดรฟ์ เช่น PDF และ Office เป็นไฟล์ที่เข้ารหัสในไดรฟ์ได้อีกด้วย

สำคัญ: หากต้องการเข้ารหัสไฟล์ในไดรฟ์ เอกสาร ชีต และสไลด์ด้วยการเข้ารหัสฝั่งไคลเอ็นต์ของ Workspace ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • คุณต้องมีบัญชี Workspace
  • ผู้ดูแลระบบต้องเปิดใช้การเข้ารหัสฝั่งไคลเอ็นต์
  • คุณต้องยืนยันตัวตน

ดูข้อมูลเกี่ยวกับการเข้ารหัส

การเข้ารหัสเป็นกระบวนการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อปกป้องข้อมูลของคุณ โดยมีเพียงผู้ใช้ที่ผู้ดูแลระบบเปิดใช้การเข้ารหัสฝั่งไคลเอ็นต์ของ Workspace ให้และได้ยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้นที่จะสร้างหรือคัดลอกไฟล์ที่เข้ารหัสได้ ซึ่งในไฟล์ที่เข้ารหัส ผู้ใช้ทุกรายที่ได้รับการแชร์ไฟล์จะเข้าถึงไฟล์ดังกล่าวได้โดยใช้คีย์การเข้ารหัสที่ไม่ซ้ำกันสำหรับไฟล์นั้น โดยปกติ Google จะเข้ารหัสเนื้อหาระหว่างการส่งและระหว่างจัดเก็บ แต่เมื่อใช้การเข้ารหัสฝั่งไคลเอ็นต์ ก็หมายความว่าโดเมนของคุณได้เลือกเพิ่มระดับการป้องกันอีกชั้นหนึ่ง

สิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับการเข้ารหัส
  • ผู้ดูแลระบบโดเมนควบคุมได้ว่ากลุ่มและบุคคลใดที่สามารถใช้การเข้ารหัสได้ โปรดติดต่อผู้ดูแลระบบหากต้องการย้ายไฟล์ไปยังตำแหน่งที่ปิดใช้การเข้ารหัส หรือหากต้องการเปิดใช้ฟีเจอร์นี้ในตำแหน่งใหม่
  • นอกจากนี้ผู้ดูแลระบบยังเลือกแนะนำให้สร้างไฟล์ใหม่ในไดรฟ์ เอกสาร ชีต และสไลด์โดยใช้การเข้ารหัสฝั่งไคลเอ็นต์ผ่านข้อความแจ้งในแอปได้ด้วย โปรดปรึกษาผู้ดูแลระบบของคุณตามความจำเป็นเพื่อทำความเข้าใจความคาดหวังขององค์กร
  • การเข้ารหัสฝั่งไคลเอ็นต์จะเพิ่มระดับการปกป้องอีกชั้นหนึ่งให้กับองค์กร ไฟล์จะได้รับการเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทาง รวมทั้งเข้ารหัสระหว่างไคลเอ็นต์ ซึ่ง Google จะไม่สามารถถอดรหัสไฟล์ของคุณได้ โดยมีข้อควรทราบดังนี้
    • แอปพลิเคชันในคอมพิวเตอร์ของคุณที่ได้รับสิทธิ์เพียงพอ เช่น ส่วนขยาย Chrome อาจดูและขโมยไฟล์ที่เข้ารหัสได้
    • การเข้ารหัสไม่ได้ปกป้องไฟล์จากบุคคลที่สามารถดูหน้าจอของคุณได้
  • ผู้ดูแลระบบจะกำหนดความถี่ที่คุณต้องลงชื่อเข้าใช้ใหม่เพื่อเปิดไฟล์ที่เข้ารหัสฝั่งไคลเอ็นต์ หากพบว่าตนเองต้องลงชื่อเข้าใช้บ่อยๆ โปรดติดต่อผู้ดูแลระบบ
ดูความแตกต่างเกี่ยวกับไฟล์ที่เข้ารหัส
  • ไอคอนแม่กุญแจ จะปรากฏข้างไฟล์ที่เข้ารหัส
  • ผู้ใช้จะแก้ไขไฟล์ที่เข้ารหัสได้ครั้งละ 1 คนเท่านั้น ดูวิธีทำงานร่วมกันในไฟล์ที่เข้ารหัส
  • ในไฟล์ที่เข้ารหัส ระบบจะเริ่มบันทึกอัตโนมัติทุกๆ 30 วินาที ยกเว้นในกรณีที่อุปกรณ์ไม่มีการใช้งานหรือคุณดำเนินการอย่างอื่นอยู่ เช่น แชร์ไฟล์หรือพยายามออกจากไฟล์
    • คุณจะเห็นคำเตือนหากพยายามออกจากไฟล์ที่ยังไม่ได้บันทึก ให้คลิกยกเลิกเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้การเปลี่ยนแปลงที่ยังไม่ได้บันทึกสูญหาย
  • การบันทึกอัตโนมัติมี 3 สถานะดังนี้
    • กำลังรอการบันทึก: ระบบรอเรียกใช้การบันทึกอัตโนมัติหรือตัวจับเวลา 30 วินาที
    • กำลังบันทึก: ระบบกำลังดำเนินการบันทึก คุณสามารถแก้ไขไฟล์ต่อไปได้
    • บันทึกไปที่ไดรฟ์แล้ว: คุณยังไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ ข้อมูลในไฟล์จึงเป็นเวอร์ชันล่าสุด
  • การสร้างไฟล์ที่เข้ารหัสมีหลายวิธี ดูวิธีสร้างหรือคัดลอกไฟล์ที่เข้ารหัส
  • หากต้องการเข้าถึงไฟล์ที่เข้ารหัส ผู้ดูแลระบบอาจกำหนดให้คุณต้องลงชื่อเข้าใช้บริการ SSO เพิ่มเป็น 2 ครั้ง โดยครั้งแรกคือการลงชื่อเข้าใช้ IdP ขององค์กร และอีกครั้งคือการลงชื่อเข้าใช้ Google ไดรฟ์ เอกสาร ชีต และสไลด์
  • คุณพิมพ์จากเอกสารหรือชีตได้ แต่จะพิมพ์จากสไลด์ไม่ได้
  • การตรวจตัวสะกดสำหรับเอกสารและสไลด์ที่เข้ารหัสมีให้บริการในภาษาอังกฤษ (อเมริกัน), อังกฤษ (อังกฤษ), ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี และสเปน
  • การตรวจตัวสะกดใช้ไม่ได้ในชีต
  • คุณส่งออกไฟล์ชีตเป็นไฟล์ Excel ได้ โดยไปที่ไฟล์ จากนั้น ดาวน์โหลด
  • ประวัติเวอร์ชันสำหรับไฟล์ที่เข้ารหัสจะเก็บข้อมูลได้สูงสุด 100 เวอร์ชัน หลังจากที่เกินจำนวนสูงสุดแล้ว ระบบจะนําเวอร์ชันที่มีนัยสําคัญน้อยกว่าออกโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้เวอร์ชันที่มีชื่อยังไม่พร้อมใช้งาน
  • เอกสาร ชีต และสไลด์ที่เข้ารหัสจะต้องมีขนาดไม่เกิน 100 MB ส่วนไฟล์ในไดรฟ์ที่เข้ารหัสจะไม่มีการจำกัดขนาด
  • จำนวนภาพสูงสุดในเอกสารคือ 3,000 ภาพ
  • ขนาดรูปภาพต้องไม่เกิน 1 MB
  • การดาวน์โหลดโฟลเดอร์จะไม่ส่งผลต่อไฟล์ที่เข้ารหัสฝั่งไคลเอ็นต์
ดูสิ่งที่ไม่สามารถดำเนินการในไฟล์ที่เข้ารหัสได้

สำหรับไฟล์ที่เข้ารหัส คุณจะทำสิ่งต่อไปนี้ไม่ได้

  • เปิด Microsoft Office ในโหมดแก้ไขสำหรับเอกสารหรือสไลด์
  • แสดงความคิดเห็นในไฟล์ Drive
  • ใช้แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อแก้ไขเอกสาร ชีต หรือสไลด์
  • ใช้ฟังก์ชันในชีตซึ่งเรียกใช้ข้อมูลจากภายนอก
  • นําเข้าไฟล์ Microsoft Office ไปยังเอกสารหรือสไลด์
  • ใช้เครื่องมือบางรายการดังต่อไปนี้
    • ตรวจสอบไวยากรณ์
    • แปลและเปรียบเทียบเอกสาร
    • พิมพ์ด้วยเสียง
    • ส่วนเสริม
  • ดาวน์โหลดเอกสารหรือสไลด์
  • ใช้การแสดงตัวอย่างไฟล์สำหรับเอกสาร ชีต หรือสไลด์

สร้างหรือคัดลอกไฟล์ที่เข้ารหัส

สำคัญ: หากต้องการสร้างหรือคัดลอกไฟล์ที่เข้ารหัส คุณต้องทำดังนี้

  • ลงชื่อเข้าใช้บัญชีงานหรือบัญชีโรงเรียน
  • แจ้งให้ผู้ดูแลระบบเปิดใช้การเข้ารหัสฝั่งไคลเอ็นต์
  • ยืนยันว่าบัญชีของคุณสามารถสร้างไฟล์ได้
สร้างไฟล์ที่เข้ารหัสรายการใหม่

หากต้องการสร้างเอกสาร สเปรดชีต หรืองานนำเสนอที่เข้ารหัส ให้เลือกตัวเลือกดังนี้

หากดำเนินการจาก Google ไดรฟ์ ให้ทำดังนี้

  1. ไปที่ drive.google.com
  2. คลิกใหม่ ที่ด้านซ้ายบน
  3. ชี้ไปที่ลูกศรถัดจากเอกสาร ชีต หรือสไลด์ จากนั้น คลิกเอกสาร/สเปรดชีต/งานนำเสนอเปล่าที่เข้ารหัส
  4. ในหน้าต่าง "เอกสารที่เข้ารหัสใหม่" ให้คลิกสร้าง

หากดำเนินการจาก Google เอกสาร ชีต หรือสไลด์ ให้ทำดังนี้

  1. เปิด Google เอกสาร ชีต หรือสไลด์
  2. คลิกไฟล์ที่ด้านบน
  3. ชี้ไปที่ "ใหม่" จากนั้น คลิกเอกสาร/สเปรดชีต/งานนำเสนอที่เข้ารหัสรายการใหม่
  4. ในหน้าต่าง "เอกสารที่เข้ารหัสใหม่" ให้คลิกสร้าง

เคล็ดลับ

  • ไฟล์ จากนั้น ใหม่
  • หากคุณสร้างไฟล์ที่เข้ารหัสในโฟลเดอร์ที่แชร์ ไฟล์นั้นจะมีสิทธิ์เข้าถึงแบบเดียวกับโฟลเดอร์
  • หากไม่มีตัวเลือกเอกสาร/สเปรดชีต/งานนำเสนอเปล่าที่เข้ารหัสหรือเอกสาร/สเปรดชีต/งานนำเสนอที่เข้ารหัสรายการใหม่ ให้ทำดังนี้
อัปโหลดไฟล์ที่เข้ารหัสรายการใหม่
  1. ไปที่ drive.google.com
  2. คลิกใหม่ ที่ด้านซ้ายบน
  3. ชี้ไปที่ลูกศรถัดจากอัปโหลดไฟล์ จากนั้น คลิกเข้ารหัสและอัปโหลดไฟล์

เคล็ดลับ

  • หากผู้ดูแลระบบเปิดใช้ CSE โดยค่าเริ่มต้น "เข้ารหัสและอัปโหลด" จะปรากฏเป็นตัวเลือกที่แนะนำในเมนู "ใหม่+"
  • หากคุณอัปโหลดไฟล์ที่เข้ารหัสในโฟลเดอร์ที่แชร์ ไฟล์นั้นจะมีสิทธิ์เข้าถึงแบบเดียวกับโฟลเดอร์
  • หากไม่มีตัวเลือกเข้ารหัสและอัปโหลดไฟล์ ให้ทำดังนี้
คัดลอกไฟล์ที่เข้ารหัส

จาก Google เอกสาร ชีต หรือสไลด์ ให้ทําดังนี้

  1. เปิดไฟล์ Google เอกสาร, ชีต หรือสไลด์ที่เข้ารหัส
  2. คลิกไฟล์ จากนั้น ทำสำเนา ที่ด้านซ้ายบน

หากดำเนินการจาก Google ไดรฟ์ ให้ทำดังนี้

  1. คลิกขวาที่ไฟล์ที่เข้ารหัส
  2. ในกรณีที่ไฟล์ที่เข้ารหัสมีลักษณะดังนี้
    • เป็นไฟล์ Google เอกสาร, ชีต หรือสไลด์: เลือกทำสำเนา
    • ไม่ใช่ไฟล์ Google เอกสาร, ชีต หรือสไลด์: เลือกทำสำเนา จากนั้น ทำสำเนา

เคล็ดลับ: หากต้องการทำสำเนาโดยไม่มีการเข้ารหัสเพิ่มเติม ให้นำการเข้ารหัสเพิ่มเติมออกจากเอกสาร

เพิ่มการเข้ารหัสให้กับเอกสาร

จาก Google เอกสาร ชีต หรือสไลด์ ให้ทําดังนี้

  1. เปิดไฟล์ Google เอกสาร ชีต หรือสไลด์
  2. ที่ด้านบน ให้คลิกไฟล์ จากนั้น ทำสำเนา
    • หากเป็นไฟล์ Google สไลด์ ให้คลิกทั้งงานนำเสนอ
  3. เลือกเพิ่มการเข้ารหัสเพิ่มเติม

หากดำเนินการจาก Google ไดรฟ์ ให้ทำดังนี้

สำคัญ: คุณจะเพิ่มการเข้ารหัสเพิ่มเติมสำหรับไฟล์ในโปรแกรมแก้ไขของ Google Workspace ไม่ได้

  1. คลิกขวาที่ไฟล์
  2. เลือกทำสำเนา จากนั้น ทำสำเนาที่เข้ารหัส

เคล็ดลับ

  • หากไม่พบช่องทำเครื่องหมาย "เพิ่มการเข้ารหัสเพิ่มเติม" ใน Google เอกสาร, ชีต หรือสไลด์ หรือรายการในเมนู "สร้างสำเนาที่เข้ารหัส" ในไดรฟ์ ให้ทำดังนี้
    • ยืนยันว่าคุณเข้าสู่ระบบบัญชีงานหรือบัญชีโรงเรียนแล้ว
    • ตรวจสอบว่าผู้ดูแลระบบอนุญาตให้ใช้การเข้ารหัสฝั่งไคลเอ็นต์หรือไม่
    • ยืนยันว่าคุณเป็นเจ้าของเอกสารในไดรฟ์ของฉันหรือเป็นผู้จัดการของไดรฟ์ที่แชร์
    • ยืนยันตัวตนของคุณ ดูวิธีเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัว

สำคัญ: สำหรับฟีเจอร์ที่การเข้ารหัสเพิ่มเติมไม่รองรับ คุณจะไม่สามารถแก้ไขหรือระบบจะนำฟีเจอร์ดังกล่าวออกได้

  • ฟีเจอร์ที่แก้ไขไม่ได้
    • รายการตรวจสอบ
    • ภาพวาด แผนภูมิ และตารางที่ฝัง
    • แบบฟอร์มที่ลิงก์
    • ฟังก์ชันข้อมูลภายนอก เช่น GOOGLEFINANCE
    • ชีตที่เชื่อมต่อ
    • WordArt
  • ฟีเจอร์ที่นำออกจากเอกสาร
    • ช่องลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์
    • ความคิดเห็นและคำแนะนำ
    • ช่วงที่ป้องกัน
    • Apps Script และส่วนเสริม
นำการเข้ารหัสเพิ่มเติมออกจากเอกสาร

จาก Google เอกสาร ชีต หรือสไลด์ ให้ทําดังนี้

  1. เปิดไฟล์ Google เอกสาร, ชีต หรือสไลด์
  2. ที่ด้านบน ให้คลิกไฟล์ จากนั้น ทำสำเนา
    • หากเป็นไฟล์ Google สไลด์ ให้คลิกทั้งงานนำเสนอ
  3. เลือกนำการเข้ารหัสเพิ่มเติมออก

หากดำเนินการจาก Google ไดรฟ์ ให้ทำดังนี้

สำคัญ: คุณไม่สามารถนำการเข้ารหัสเพิ่มเติมสำหรับไฟล์ในโปรแกรมแก้ไขของ Google Workspace ออกได้

  1. คลิกขวาที่ไฟล์ที่เข้ารหัส
  2. เลือกทำสำเนา จากนั้น ทำสำเนาแบบถอดรหัส

เคล็ดลับ

  • หากไม่พบตัวเลือก "นำการเข้ารหัสเพิ่มเติมออก" ใน Google เอกสาร, ชีต หรือสไลด์ หรือตัวเลือกเมนู "ทำสำเนาที่ถอดรหัสแล้ว" ในไดรฟ์ ให้ทำดังนี้
    • ยืนยันว่าคุณเข้าสู่ระบบบัญชีงานหรือบัญชีโรงเรียนแล้ว
    • ตรวจสอบว่าผู้ดูแลระบบอนุญาตให้ใช้การเข้ารหัสฝั่งไคลเอ็นต์หรือไม่
    • ยืนยันว่าคุณเป็นเจ้าของเอกสารในไดรฟ์ของฉันหรือเป็นผู้จัดการของไดรฟ์ที่แชร์
    • ยืนยันตัวตนของคุณ ดูวิธีเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัว

ดูวิธีทำงานกับไฟล์ Excel ที่เข้ารหัสในไดรฟ์

คุณทำงานกับไฟล์ Excel ที่เข้ารหัสได้หลายวิธี โดยสิ่งที่ทำได้มีดังนี้

  • แก้ไขไฟล์ Excel ในชีต
  • นำเข้าข้อมูล Excel ไปยังชีต
  • แปลงไฟล์ Excel เป็นชีต
  • ดาวน์โหลดสำเนาของไฟล์ชีตในรูปแบบ Excel
แก้ไขไฟล์ Excel ในชีต
  • ดับเบิลคลิกไฟล์ Excel ที่เข้ารหัสในไดรฟ์
  • สเปรดชีตจะเปิดขึ้นในแท็บใหม่
  • ตอนนี้คุณจะแก้ไข แชร์ ค้นหาประวัติเวอร์ชัน และอื่นๆ ได้ ระบบจะบันทึกการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่คุณดำเนินการในไฟล์ Excel ที่เข้ารหัส

เคล็ดลับ

  • คุณสามารถเปิดไฟล์ Excel ที่เข้ารหัสซึ่งมีนามสกุล .xlsx ได้เท่านั้น
  • ไฟล์มีขนาดได้ไม่เกิน 100 MB
  • ขีดจำกัดหน่วยความจำของรูปภาพมีได้สูงสุด 90 MB
  • คุณมีจำนวนรายการสูงสุดได้ดังนี้
    • 10 ล้านเซลล์
    • 3,000 รูปภาพ
ดูวิธีนําเข้าข้อมูล Excel ไปยังชีต

คุณสามารถนำเข้าข้อมูลจากไฟล์ Excel ไปยังไฟล์ชีตที่เข้ารหัสที่มีอยู่ได้ แต่ไฟล์ Excel จะยังคงเดิมแม้ว่าคุณจะเปลี่ยนไฟล์ชีตที่เข้ารหัสก็ตาม

  1. ในชีต ให้สร้างไฟล์ Excel ใหม่หรือเปิดไฟล์ Excel ที่เข้ารหัสที่มีอยู่
  2. คลิกไฟล์ จากนั้น นำเข้า ที่ด้านซ้ายบน
  3. เลือกไฟล์ Excel
  4. คลิกเลือก
  5. เลือกตัวเลือกการนำเข้าดังนี้
    • สร้างสเปรดชีตใหม่
    • แทรกชีตใหม่
  6. คลิกนำเข้าข้อมูล

เคล็ดลับ

  • คุณนำเข้าได้เฉพาะไฟล์ Excel ซึ่งมีนามสกุล .xlsx เท่านั้น
  • ขณะที่นำเข้า ระบบจะข้ามฟีเจอร์ Excel ที่ไม่รองรับในชีต
  • ไฟล์ขนาดสูงสุด: 100 MB
  • จำนวนเซลล์สูงสุด: 10 ล้าน
  • จํานวนรูปภาพสูงสุด: 3000
แปลงไฟล์ Excel เป็นชีต

คุณสามารถแปลงไฟล์ Excel ที่เข้ารหัสเป็นชีตในระหว่างที่ทำงานต่อได้โดยไม่ต้องนำเข้าข้อมูล โดยไฟล์ที่เข้ารหัสจะไม่เปลี่ยนแปลง

  1. ดับเบิลคลิกไฟล์ Excel ที่เข้ารหัสในไดรฟ์
    • สเปรดชีตจะเปิดขึ้นในแท็บใหม่
  2. คลิกไฟล์ จากนั้น บันทึกเป็น Google ชีต
คุณสามารถค้นหาไฟล์ Excel ที่เข้ารหัสและชีตที่เข้ารหัสรายการใหม่ได้ในไดรฟ์ คุณจะเก็บหรือลบไฟล์ Excel ก็ได้ หากเก็บไฟล์ Excel ให้เปลี่ยนชื่อไฟล์เป็น {ARCHIVE}...xlsx เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสน
ดูวิธีดาวน์โหลดไฟล์ชีตเป็นไฟล์ Excel

คุณสามารถดาวน์โหลดสำเนาของไฟล์ชีตที่เข้ารหัสในรูปแบบ Excel ได้

  1. ในชีต ให้คลิกไฟล์ จากนั้น ดาวน์โหลดและถอดรหัส ที่ด้านซ้ายบน
  2. คลิก Microsoft Excel (.xlsx)

บทความที่เกี่ยวข้อง

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
2039442155053497822
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
99950
false
false
false
false