คุณสามารถใช้พาสคีย์เพื่อลงชื่อเข้าใช้ได้ง่ายๆ และปลอดภัยด้วยลายนิ้วมือ การสแกนใบหน้า หรือการล็อกหน้าจอ พาสคีย์เป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยในการลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google รวมถึงเว็บไซต์และแอปทั้งหมดที่สำคัญสำหรับคุณ โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน ระบบอาจขอให้คุณลงชื่อเข้าใช้เว็บไซต์ด้วยพาสคีย์หรือสร้างพาสคีย์เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของบัญชี
ดูวิธีลงชื่อเข้าใช้ด้วยพาสคีย์แทนรหัสผ่าน
เคล็ดลับ: พาสคีย์สร้างขึ้นตามมาตรฐานอุตสาหกรรม จึงนำไปใช้งานได้ในหลายแพลตฟอร์ม
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพาสคีย์
ความแตกต่างระหว่างพาสคีย์กับรหัสผ่านคือพาสคีย์เป็นคู่คีย์การเข้ารหัส คู่คีย์มีไว้เฉพาะสำหรับแต่ละเว็บไซต์ คีย์หนึ่งแชร์กับเว็บไซต์ ส่วนอีกคีย์หนึ่งเป็นข้อมูลส่วนตัวและจัดเก็บไว้ในอุปกรณ์หรือเครื่องมือจัดการรหัสผ่าน เทคโนโลยีนี้ใช้รหัสที่สร้างขึ้นอย่างปลอดภัยเพื่อตรวจสอบสิทธิ์ของคุณในการเข้าถึงเว็บไซต์และแอป แทนที่จะเป็นรหัสผ่านซึ่งอาจถูกขโมยหรือรั่วไหล
ประโยชน์ของพาสคีย์ ได้แก่
- คุณไม่ต้องจำลำดับตัวอักษร ตัวเลข และอักขระสำหรับแต่ละเว็บไซต์
- คุณสามารถลงชื่อเข้าใช้บัญชีด้วยเทคโนโลยีการจดจำลายนิ้วมือหรือใบหน้า
- คุณใช้พาสคีย์ได้ในระบบปฏิบัติการและระบบนิเวศของเบราว์เซอร์ต่างๆ รวมถึงกับทั้งเว็บไซต์และแอป
- พาสคีย์มีความรัดกุมมากพอที่จะทำให้ไม่สามารถคาดเดาหรือใช้ซ้ำ จึงปลอดภัยจากการเข้าถึงของแฮ็กเกอร์
- พาสคีย์เชื่อมต่อกับแอปหรือเว็บไซต์ที่ใช้งานพาสคีย์ดังกล่าว คุณจึงจะไม่ถูกล่อลวงให้ใช้พาสคีย์เพื่อลงชื่อเข้าใช้แอปหรือเว็บไซต์ที่เป็นการฉ้อโกง
- พาสคีย์ที่บันทึกไว้ในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านบน Google จะพร้อมใช้งานในอุปกรณ์ต่างๆ คุณจะใช้รหัสผ่านเหล่านั้นในแพลตฟอร์มทั้งหมดที่ Chrome ให้บริการได้เมื่อลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Google เดียวกัน
ใช้พาสคีย์
คุณจัดเก็บพาสคีย์ในอุปกรณ์ได้ โดยกระบวนการจะแตกต่างกันไปในแต่ละระบบปฏิบัติการ และอาจไม่สามารถใช้งานได้ในบางระบบ
จัดเก็บพาสคีย์ในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านบน Google
เมื่อจัดเก็บพาสคีย์ไว้ในบัญชี Google ระบบจะปกป้องพาสคีย์ด้วย PIN, รูปแบบ, Face ID, รหัสผ่าน และ PIN ของเครื่องมือจัดการรหัสผ่านบน Google ของ iPhone หรือ iPad
หากต้องการบันทึกพาสคีย์ไว้ในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านบน Google ให้ตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้
-
อุปกรณ์ของคุณใช้ iOS หรือ iPadOS 17 ขึ้นไป
-
คุณตั้งค่า Chrome เป็นผู้ให้บริการป้อนข้อความอัตโนมัติของ iOS ในการตั้งค่าอุปกรณ์ ดูวิธีใช้รหัสผ่านและพาสคีย์ที่บันทึกไว้ใน Chrome และแอปอื่นๆ
-
คุณลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google และซิงค์รหัสผ่าน
- เครื่องมือจัดการรหัสผ่านบน Google จะซิงค์ในอุปกรณ์อื่นๆ ที่ติดตั้ง Chrome
- "รหัสผ่าน" เปิดอยู่ในบัญชี Google ดูวิธีเริ่มหรือหยุดบันทึกรหัสผ่าน
เมื่อเข้าชมเว็บไซต์ที่รองรับพาสคีย์ ระบบจะถามว่าคุณต้องการสร้างพาสคีย์ในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านบน Google หรือไม่
หากเคยสร้างพาสคีย์ในอุปกรณ์ Android มาแล้วก่อนหน้านี้ คุณจะต้องใช้ PIN, รูปแบบ หรือรหัสผ่านของอุปกรณ์ดังกล่าวเพื่อปลดล็อกพาสคีย์ หากเคยสร้างพาสคีย์ในอุปกรณ์เดสก์ท็อปมาแล้วก่อนหน้านี้ คุณจะต้องใช้ PIN ของเครื่องมือจัดการรหัสผ่านบน Google เพื่อปลดล็อกพาสคีย์
ลงชื่อเข้าใช้ด้วยพาสคีย์ใน Chrome
สำคัญ: คุณใช้พาสคีย์เมื่อลงชื่อเข้าใช้แอปอื่นๆ ได้ด้วย
- เปิดหน้าเข้าสู่ระบบของเว็บไซต์หรือแอป
- หากต้องการลงชื่อเข้าใช้ด้วยพาสคีย์ คุณจะทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- แตะช่องชื่อผู้ใช้หรือรหัสผ่าน
- แตะลงชื่อเข้าใช้ด้วยพาสคีย์
- ในกล่องโต้ตอบ "ลงชื่อเข้าใช้ด้วยพาสคีย์ใช่ไหม" หากไม่ได้เลือก Chrome ไว้ล่วงหน้า ให้แตะ Chrome
ต่อไป
- ตรวจสอบสิทธิ์ด้วย Face ID เพื่อลงชื่อเข้าใช้ให้เสร็จสมบูรณ์
ต่อไปจัดเก็บพาสคีย์ใน iPhone หรือ iPad
หากอุปกรณ์ใช้ iOS หรือ iPadOS 16 ขึ้นไป คุณจะใช้พาสคีย์ได้ รหัสผ่าน Apple จะจัดเก็บและซิงค์ระหว่างอุปกรณ์ iOS, iPadOS และ macOS
สำคัญ:
- หากใช้ iOS หรือ iPadOS 16 ขึ้นไป รหัสผ่าน Apple หรือที่เรียกว่าแอปรหัสผ่านสำหรับ iOS 18 จะรองรับพาสคีย์
- หากใช้ iOS หรือ iPadOS 17 ขึ้นไป คุณจะเลือกเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่รองรับพาสคีย์ได้ โดยจะต้องตั้งค่า Chrome เป็นผู้ให้บริการป้อนข้อความอัตโนมัติของ iOS ในการตั้งค่าอุปกรณ์
วิธีจัดการพาสคีย์
- เปิดการตั้งค่าอุปกรณ์ใน iPhone หรือ iPad
- เลือกรหัสผ่าน
จัดเก็บพาสคีย์ในคีย์ความปลอดภัย
คุณใช้คีย์ความปลอดภัยเพื่อจัดเก็บพาสคีย์ได้
สำคัญ: ระบบจะไม่สำรองข้อมูลพาสคีย์ที่จัดเก็บไว้ในคีย์ความปลอดภัย หากคีย์ความปลอดภัยสูญหายหรือมีการรีเซ็ต คุณจะกู้คืนพาสคีย์ไม่ได้
ใช้พาสคีย์ในอุปกรณ์อื่น
คุณใช้ Chrome ในคอมพิวเตอร์เพื่อใช้พาสคีย์จาก iPhone หรือ iPad ได้
- เปิด Chrome ในคอมพิวเตอร์
- ไปที่หน้าลงชื่อเข้าใช้ของเว็บไซต์ที่ต้องการเข้าสู่ระบบ
- เมื่อระบบแจ้งให้ใช้พาสคีย์ ให้แตะอุปกรณ์เครื่องอื่น
- คุณอาจต้องแตะลองวิธีอื่น
- สแกนคิวอาร์โค้ดนี้ด้วย iPhone หรือ iPad