การทดสอบด้วยตนเองคือการทดสอบที่คุณกำหนดตามเกณฑ์และกำหนดเวลาของคุณเอง การทดสอบจะใช้เปอร์เซ็นต์การเข้าชมจริงของเครือข่ายเพื่อทดสอบว่าการใช้การตั้งค่าเหล่านั้นจะส่งผลต่อรายได้อย่างไร เมื่อคุณทำการทดสอบ การทดสอบนั้นจะปรากฏในหน้า "การทดสอบ"
หากต้องการดูรายการประเภทการทดสอบด้วยตนเองที่มีอยู่ทั้งหมดและการทดสอบที่ใช้งานอยู่ ให้คลิกการเพิ่มประสิทธิภาพ แล้วคลิกการทดสอบ
รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการทดสอบ
คุณจะได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการทดสอบผ่านทางอีเมลหรือใน Ad Manager โดยตรง วิธีเริ่มรับการแจ้งเตือน
- ลงชื่อเข้าใช้ Google Ad Manager
- สำหรับการแจ้งเตือนทางอีเมล ให้คลิกการเพิ่มประสิทธิภาพ แล้วคลิกการทดสอบ จากนั้นคลิกสมัครรับอีเมลอัปเดต
- สำหรับการแจ้งเตือนใน Ad Manager ให้คลิกการแจ้งเตือน
แล้วคลิกการตั้งค่า
จากนั้นคลิกการแจ้งเตือนการทดสอบ
ภาพรวมการทดสอบด้วยตนเอง
วิธีทำการทดสอบด้วยตนเอง
- เลือกประเภทและเกณฑ์การทดสอบที่ต้องการใช้
- กำหนดการทดลองสำหรับการทดสอบและให้การทดลองเริ่มขึ้นโดยใช้เวลาตามที่ระบุ
- แก้ไขเงื่อนไขเพื่อหยุดการทดสอบชั่วคราวโดยอัตโนมัติ หรือปิดการหยุดชั่วคราวโดยอัตโนมัติสำหรับการทดสอบ
- เปรียบเทียบระหว่างการเข้าชมการแสดงผลที่จัดสรรให้กลุ่ม "รูปแบบ" กับการเข้าชมที่จัดสรรให้กลุ่ม "ควบคุม" เพื่อดูว่ากลุ่มใดมีประสิทธิภาพดีกว่าในระหว่างการทดสอบ
- เรียกใช้การทดลองเพิ่มเติมตามต้องการ
- ตัดสินใจว่าจะใช้การตั้งค่าการทดสอบนั้นๆ กับเครือข่าย Ad Manager ของคุณหรือไม่
ทำการทดสอบ
ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อทำการทดสอบด้วยตนเอง
หมายเหตุ: ขั้นตอนการทดสอบจะแตกต่างกันไปเล็กน้อย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่หัวข้อเลือกประเภทการทดสอบด้วยตนเองด้านล่าง
- ลงชื่อเข้าใช้ Google Ad Manager
- คลิกการเพิ่มประสิทธิภาพ แล้วคลิกการทดสอบ
- คลิกการทดสอบใหม่ในการ์ดประเภทการทดสอบที่ต้องการใช้
- ตั้งชื่อการทดสอบเพื่อให้อ้างถึงผลลัพธ์ได้ง่ายขึ้น
- ป้อนการตั้งค่าที่เจาะจงจากประเภทการทดสอบ
- ในส่วน "ระยะเวลาการทดสอบ" ให้กําหนดวันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุดของการทดสอบ
- วันที่เริ่มต้น: การทดลองแต่ละรายการต้องใช้เวลาอย่างน้อย 7 วันเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้ผลสรุปที่แน่ชัด คุณกำหนดเวลาการทดลองให้เริ่มทันทีหรือจะเลือกวันที่ในอนาคตก็ได้ การทดลองทั้งหมดจะเริ่มในเวลา 0.00 น. และสิ้นสุดในเวลา 23.59 น. ในวันที่ที่กำหนดไว้ในเขตเวลาท้องถิ่นของคุณ ระบบจะรีเฟรชข้อมูลทุกวัน ถ้ากำหนดวันที่เริ่มต้นเป็นวันที่ปัจจุบัน การทดลองจะเริ่มในชั่วโมงถัดไป
- วันที่สิ้นสุด: เวลาที่ใช้ในการทดลองแต่ละรายการในการทดสอบหนึ่งๆ รวมแล้วต้องไม่เกิน 31 วัน เมื่อการทดลองสิ้นสุดลง คุณจะตรวจสอบผลเพื่อตัดสินใจได้ว่าจะนำไปใช้เป็นโอกาส เรียกใช้การทดลองอื่น หรือยุติการทดสอบและคงการตั้งค่าเดิมไว้
- ในส่วน "การจัดสรรการเข้าชม" ให้กําหนดเปอร์เซ็นต์ของการเข้าชมการแสดงผลเพื่อจัดสรรให้กับการทดสอบ
- ในส่วน "การทดสอบการหยุดชั่วคราวอัตโนมัติ" ให้กําหนดเงื่อนไขการหยุดชั่วคราวอัตโนมัติสูงสุด 10 รายการ โดยเลือกสะสมหรือรายวันสําหรับแต่ละเงื่อนไข
- สะสม: จำนวนรายได้ที่สูญเสียไปที่จะหยุดการทดสอบชั่วคราวภายในระยะเวลาของการทดลอง
- รายวัน: จำนวนรายได้ที่สูญเสียไปที่จะหยุดการทดสอบชั่วคราวภายใน 1 วันล่าสุดที่เก็บข้อมูล
หมายเหตุ: การหยุดชั่วคราวอัตโนมัติจะตรวจสอบวันละครั้งว่าผลลัพธ์เป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไหม เพื่อไม่ให้การทดสอบหยุดชั่วคราวก่อนที่จะได้รวบรวมข้อมูล การทดสอบจะไม่หยุดชั่วคราวภายใน 24 ชั่วโมงแรกของการเริ่มทดสอบ เพื่อหลีกเลี่ยงการสุ่มตัวอย่างข้อผิดพลาด ช่วงทดลองจะหยุดชั่วคราวตามผลลัพธ์ที่มีนัยสำคัญทางสถิติเท่านั้น เช่น ช่วงทดลองจะหยุดชั่วคราวเมื่อขอบล่างของช่วงความเชื่อมั่น 95% ถึงเกณฑ์ที่จำเป็น
- คลิกบันทึก
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการทดสอบด้วยตนเอง
บางครั้งการใช้การเปลี่ยนแปลงกับการตั้งค่าอาจส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ซื้อและผู้มีส่วนร่วมในตลาดคนอื่นๆ ได้ เช่น อาจเปลี่ยนแปลงรูปแบบการซื้อ เราขอแนะนำแนวทางปฏิบัติต่อไปนี้เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการทดสอบด้วยตนเองที่คุณเรียกใช้และบันทึกผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
ทดสอบให้มากขึ้นได้โดยใช้การทดลอง
การทดสอบที่ใช้กับการเข้าชมในเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำกว่าจะมีความเสี่ยงน้อยกว่า แต่ก็มีแนวโน้มน้อยกว่าด้วยที่จะกระตุ้นให้ผู้ที่มีส่วนร่วมในตลาดคนอื่นๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
เมื่อประสิทธิภาพถึงระดับที่ยอมรับได้ที่เปอร์เซ็นต์การจัดสรรการเข้าชมที่ต่ำกว่า คุณจะเริ่มต้นการทดลองรายการที่ 2 ได้โดยใช้การตั้งค่าแบบเดียวกันที่การจัดสรรการเข้าชมในเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของการอัปเดตการเข้าชมทั้งหมดของเครือข่ายที่มีต่อการตั้งค่าดังกล่าว การคาดการณ์ข้างต้นถูกต้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับการกำหนดราคา ซึ่งมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะกระตุ้นให้ผู้ซื้อเกิดการตอบสนอง
คุณควรคำนึงถึงว่าการทดสอบที่มีเปอร์เซ็นต์การจัดสรรการเข้าชมที่ต่ำลงอาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีพอที่จะเปลี่ยนพฤติกรรม เมื่อเพิ่มการจัดสรรการเข้าชมให้สูงขึ้น คุณจะมีโอกาสมากขึ้นในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตลาดและวัดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมดังกล่าว
ทําการทดสอบให้นานขึ้น
คุณควรเรียกใช้การทดสอบเป็นเวลานานพอที่จะมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและเพื่อให้การทดสอบนั้นวัดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นได้ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมมักจะใช้เวลาอย่างน้อย 7 วันจึงจะมีผลต่อรายได้
คำนึงถึงรายได้รวมนอกเหนือจากการเปรียบเทียบระหว่างการตั้งค่าแบบต่างๆ
การตั้งค่าการทดสอบอาจส่งผลต่อพฤติกรรมทั้งของกลุ่มรูปแบบและกลุ่มควบคุม คุณควรตรวจยืนยันว่ารายได้ที่คาดไว้ในกลุ่มรูปแบบตรงกับที่คุณคาดไว้เมื่อพิจารณาเทียบกับเครือข่ายของคุณโดยรวม
เลือกประเภทการทดสอบด้วยตนเอง
ประเภทการทดสอบที่คุณเลือกจะเป็นตัวกำหนดการจัดสรรการเข้าชมและเกณฑ์ที่ใช้ในการเรียกใช้การทดสอบด้วยตนเอง
การเลิกบล็อกหมวดหมู่ทำให้มีผู้ลงโฆษณาและผู้ซื้อจำนวนมากขึ้นแข่งขันเพื่อชิงพื้นที่โฆษณา ซึ่งจะช่วยเพิ่มการครอบคลุมและรายได้สูงสุดให้กับคุณ
เกณฑ์การทดสอบ
- การป้องกัน: เลือกการป้องกันที่ต้องการใช้กับการทดสอบนี้
- เลิกบล็อกหมวดหมู่ต่อไปนี้: เลือกหมวดหมู่ที่ต้องการเลิกบล็อกในระหว่างการทดสอบ
- ระยะเวลาการทดสอบ: วันที่เริ่มต้นที่เร็วที่สุดที่ใช้ได้จะปรากฏในเครื่องมือเลือกช่วงวันที่ การทดสอบที่กำหนดเวลาไว้จะเริ่มขึ้นในวันที่เลือก
- การจัดสรรการเข้าชม: เปอร์เซ็นต์ของการแสดงผลโดยประมาณที่ต้องการจัดสรรให้สไตล์ทดสอบในระหว่างการทดสอบ การแสดงผลที่เหลือจะเป็นของสไตล์ดั้งเดิม เช่น หากคุณจัดสรรการแสดงผล 60% ให้แก่สไตล์ที่ทดสอบ สไตล์ดั้งเดิมจะได้รับการแสดงผล 40% ที่เหลือ โปรดคำนึงถึงการจัดสรรนี้เมื่อวิเคราะห์ผลการทดสอบ
การทดสอบกฎการกำหนดราคาแบบรวมช่วยให้ผู้เผยแพร่โฆษณาทำการทดสอบด้วยตนเองซึ่งเปลี่ยนราคาพื้นในกฎการกำหนดราคาแบบรวมกฎใดก็ได้ คุณอาจทดสอบการเพิ่มหรือลดราคาพื้นของกฎแล้วเปรียบเทียบผลลัพธ์
กฎการกําหนดราคาทับซ้อน: การทดสอบกฎการกำหนดราคาแบบรวมจะประเมินประสิทธิภาพของคําขอโฆษณาทั้งหมดที่ตรงกับเกณฑ์การกําหนดเป้าหมายของกฎ ซึ่งรวมถึงคําขอโฆษณาที่เชื่อมโยงกับการกําหนดเป้าหมายที่ทับซ้อนกันในตัวเลือกการกำหนดราคาอื่นๆ วิธีนี้ช่วยให้ Ad Manager พิจารณาการเปลี่ยนแปลงราคาที่เปลี่ยนสมดุลระหว่างการแสดงผลและรายได้กับกฎการกําหนดราคาหรือตัวเลือกการกําหนดราคาอื่นๆ
CPM ที่แสดงคือค่าเฉลี่ยของคำขอโฆษณาทั้งหมดที่ตรงกับเกณฑ์การกำหนดเป้าหมาย ซึ่งหมายความว่า CPM อาจต่ำกว่าราคาพื้นในการทดสอบกฎการกำหนดราคาแบบรวมบางการทดสอบ หากการเข้าชมจำนวนมากที่ตรงกับเกณฑ์การกำหนดเป้าหมายไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเลือกการกำหนดราคาที่เลือกไว้และเป็นไปตามกฎการกำหนดราคาที่ต่ำกว่าเท่านั้น
- กฎการกําหนดราคา P1 จะกําหนดเป้าหมายหน่วยโฆษณา XYZ และมีกฎย่อย 1 ข้อที่กําหนดเป้าหมายเป็นผู้ลงโฆษณา A123 ที่มีราคาพื้นอยู่ที่ $10
- กฎการกําหนดราคา P2 จะกําหนดเป้าหมายหน่วยโฆษณา XYZ และมีกฎย่อย 1 ข้อสําหรับโฆษณาทั้งหมดที่มีราคาพื้นเท่ากับ $
หากคุณทําการทดสอบใน P1 ในรายงานก็น่าจะแสดง eCPM ต่ำกว่า $10 เนื่องจากราคาพื้น $10 จะมีผลก็ต่อเมื่อผู้ลงโฆษณา A123 ชนะการประมูล อย่างไรก็ตาม เราพิจารณาการเข้าชมทั้งหมดที่มีหน่วยโฆษณา XYZ (ซึ่งจะมีราคาพื้นที่ $2 เนื่องจากกฎข้อที่สอง)
เกณฑ์การทดสอบ
- กฎการกำหนดราคาแบบรวม: เลือกกฎการกำหนดราคาแบบรวมที่เป็นตัวกำหนดการเข้าชมที่การทดสอบนี้ใช้
- ตัวเลือกการกำหนดราคา: เลือกตัวเลือกการกำหนดราคาที่ใช้ในช่วงเวลาของการทดสอบนี้
- ราคาทดสอบ: ราคาที่ต้องการใช้กับการเข้าชมในกลุ่มรูปแบบ
- รายการโฆษณาส่วนที่เหลือที่ได้รับผลกระทบ: จำนวนรายการโฆษณาส่วนที่เหลือโดยประมาณซึ่งได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงราคาพื้นในการทดสอบที่สัมพันธ์กับราคาเดิม
- ระยะเวลาการทดสอบ: วันที่เริ่มต้นที่เร็วที่สุดที่ใช้ได้จะปรากฏในเครื่องมือเลือกช่วงวันที่ การทดสอบที่กำหนดเวลาไว้จะเริ่มขึ้นในวันที่เลือก
- การจัดสรรการเข้าชม: เปอร์เซ็นต์ของการแสดงผลโดยประมาณที่ต้องการจัดสรรให้สไตล์ทดสอบในระหว่างการทดสอบ การแสดงผลที่เหลือจะเป็นของสไตล์ดั้งเดิม เช่น หากคุณจัดสรรการแสดงผล 60% ให้แก่สไตล์ที่ทดสอบ สไตล์ดั้งเดิมจะได้รับการแสดงผล 40% ที่เหลือ โปรดคำนึงถึงการจัดสรรนี้เมื่อวิเคราะห์ผลการทดสอบ
สไตล์ดั้งเดิมที่ต้องการทดสอบกับดีไซน์ใหม่จะเป็น "สไตล์ควบคุม" ส่วนดีไซน์ใหม่จะเป็น "สไตล์ทดสอบ" คุณอัปเดตการตั้งค่าของสไตล์ทดสอบโดยพยายามปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยการเปรียบเทียบกับสไตล์ควบคุม จากนั้น คุณจะวิเคราะห์ประสิทธิภาพของทั้ง 2 สไตล์และตัดสินใจว่าจะเก็บการตั้งค่าของสไตล์ใดไว้ใช้งาน
การทดสอบโฆษณาเนทีฟจะเปรียบเทียบสไตล์โฆษณาเนทีฟเพียง 2 สไตล์ในตำแหน่งโฆษณาเนทีฟที่มีอยู่เท่านั้น คุณจะเปรียบเทียบแบนเนอร์และโฆษณาเนทีฟในตำแหน่งโฆษณาเดียวกันไม่ได้
หากการทดสอบกำหนดเป้าหมายเป็นสไตล์โฆษณาเนทีฟควบคุมที่มีทั้งการเข้าชมแบบเป็นโปรแกรมและแบบดั้งเดิมผสมกัน โปรดทราบว่าการเข้าชมแบบมีการจองจะได้รับผลกระทบ
เกณฑ์การทดสอบ
- สไตล์โฆษณาเนทีฟ: เลือกสไตล์โฆษณาเนทีฟที่มีรูปแบบและการมีสิทธิ์เข้าร่วมดีลซึ่งคุณต้องการทำการทดสอบ
- ระยะเวลาการทดสอบ: วันที่เริ่มต้นที่เร็วที่สุดที่ใช้ได้จะปรากฏในเครื่องมือเลือกช่วงวันที่ การทดสอบที่กำหนดเวลาไว้จะเริ่มขึ้นในวันที่เลือก
- การจัดสรรการเข้าชม: เปอร์เซ็นต์ของการแสดงผลโดยประมาณที่ต้องการจัดสรรให้สไตล์ทดสอบในระหว่างการทดสอบ การแสดงผลที่เหลือจะเป็นของสไตล์ดั้งเดิม เช่น หากคุณจัดสรรการแสดงผล 60% ให้แก่สไตล์ที่ทดสอบ สไตล์ดั้งเดิมจะได้รับการแสดงผล 40% ที่เหลือ โปรดคำนึงถึงการจัดสรรนี้เมื่อวิเคราะห์ผลการทดสอบ
- เพิ่มการกำหนดเป้าหมาย: เลือกการกำหนดเป้าหมายสำหรับการทดสอบ การกำหนดเป้าหมายต้องตรงกับการกำหนดเป้าหมายรายการโฆษณาจึงจะแสดงสำเร็จ
คุณทดสอบรูปแบบโฆษณาใหม่ได้เพื่อให้เข้าใจถึงผลกระทบที่มีต่อพื้นที่โฆษณาของคุณ โดยในปัจจุบันมีรูปแบบโฆษณาคั่นระหว่างหน้าในเว็บและโฆษณา Anchor ให้ทำการทดสอบ
ในระหว่างการทดสอบ ระบบจะเพิ่มหน่วยโฆษณาทดสอบเป็นหน่วยโฆษณาแบบไม่ใช้โค้ดโดยอัตโนมัติตามเปอร์เซ็นต์ของการโหลดหน้าเว็บทั้งหมดที่ตรงกับการกำหนดเป้าหมาย ซึ่งจะโหลดรูปแบบการทดสอบ
เมื่อสิ้นสุดการทดสอบ ให้คลิกใช้เพื่อใช้การเปลี่ยนแปลงกับเว็บไซต์โดยอัตโนมัติเป็นหน่วยโฆษณาแบบไม่ใช้โค้ด โดยไม่จำเป็นต้องติดแท็กอีกครั้ง
เกณฑ์การทดสอบ
- รูปแบบ: เลือกรูปแบบที่คุณต้องการเรียกใช้การทดสอบ
- หน่วยโฆษณาทดสอบ: เลือกหน่วยโฆษณาที่จะใช้สำหรับการดูแลการแสดงโฆษณาและเพื่อทำความเข้าใจประสิทธิภาพจากการทดสอบในการรายงาน โปรดทราบว่าเราจะไม่ใช้หน่วยโฆษณาในการกำหนดเป้าหมาย ซึ่งหมายความว่ารูปแบบดังกล่าวจะแสดงในทุกคำขอที่ตรงกับการกำหนดเป้าหมายของการทดสอบ เราขอแนะนำให้ตั้งค่าหน่วยโฆษณาใหม่
- เป้าหมาย: กำหนดตำแหน่งที่คุณต้องการทำการทดสอบ
- ระยะเวลาการทดสอบ: วันที่เริ่มต้นที่เร็วที่สุดที่ใช้ได้จะปรากฏในเครื่องมือเลือกช่วงวันที่ การทดสอบที่กำหนดเวลาไว้จะเริ่มขึ้นในวันที่เลือก
- การจัดสรรการเข้าชม: เปอร์เซ็นต์ของการแสดงผลโดยประมาณที่ต้องการจัดสรรให้โฆษณาคั่นระหว่างหน้าในเว็บทดสอบในระหว่างการทดสอบ ส่วนที่เหลือจะเป็นโฆษณาอื่นๆ ตัวอย่างเช่น หากคุณจัดสรรการแสดงผล 60% ให้กับโฆษณาคั่นระหว่างหน้าในเว็บที่ทดสอบ โฆษณาอื่นๆ จะได้รับ 40% ที่เหลือ โปรดคำนึงถึงการจัดสรรนี้เมื่อวิเคราะห์ผลการทดสอบ
การกำหนดความถี่สูงสุดของโฆษณาคั่นระหว่างหน้าจะจำกัดจำนวนโฆษณาคั่นระหว่างหน้าที่แสดงต่อผู้ใช้แต่ละรายภายในกรอบเวลาที่กำหนด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความถี่สูงสุด
เกณฑ์การทดสอบ
- การตั้งค่าฟีเจอร์: ตั้งค่าความถี่สูงสุดสำหรับฟีเจอร์
เช่น แสดงผลไม่เกิน 123 ครั้งภายใน 5 นาที
ในตัวอย่างนี้ คุณจะป้อนข้อมูลต่อไปนี้สำหรับการทดสอบ- "การแสดงผล:" 123
- "จำนวนหน่วยเวลา:" 5
- "หน่วยเวลา:" นาที
- ระยะเวลาการทดสอบ: วันที่เริ่มต้นที่เร็วที่สุดที่ใช้ได้จะปรากฏในเครื่องมือเลือกช่วงวันที่ การทดสอบที่กำหนดเวลาไว้จะเริ่มขึ้นในวันที่เลือก
- การจัดสรรการเข้าชม: เปอร์เซ็นต์ของการแสดงผลที่คุณต้องการจัดสรรให้กับความถี่สูงสุดของโฆษณาคั่นระหว่างหน้าเพื่อแข่งขันกันในระหว่างการทดสอบ โดยจะมีผลต่อการแสดงผลที่กำหนดเป้าหมายโดยความถี่สูงสุดของโฆษณาคั่นระหว่างหน้าเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะได้รับการส่งโฆษณาเสมือนว่าความถี่สูงสุดของโฆษณาคั่นระหว่างหน้าไม่ได้ใช้งานอยู่ ตัวอย่างเช่น หากคุณจัดสรรการแสดงผล 90% ให้กับความถี่สูงสุดของโฆษณาคั่นระหว่างหน้าทดสอบ อีก 10% ที่เหลือจะไม่ได้รับผลกระทบ โปรดคำนึงถึงการจัดสรรนี้เมื่อวิเคราะห์ผลการทดสอบ
เกณฑ์การทดสอบ
- การตั้งค่ากลุ่มผลตอบแทน: เลือกกลุ่มผลตอบแทนที่จะใช้ในการทดสอบ กลุ่มผลตอบแทนต้องตั้งค่าเป็น "ไม่ได้ใช้งาน" ก่อนจึงจะใช้ในการทดสอบได้ (การทดสอบจะทำงานโดยการเปิดใช้งาน) เมื่อใช้ในการทดสอบ สถานะของกลุ่มผลตอบแทนจะแสดงเป็น "กำลังทดสอบ" หลังจากที่สิ้นสุดการทดสอบโดยการเลือกนำไปใช้หรือปฏิเสธการใช้ สถานะของกลุ่มผลตอบแทนจะเปลี่ยนเป็น "ใช้งานอยู่" หรือ "ไม่ได้ใช้งาน" ตามการเลือกดังกล่าว
- ระยะเวลาการทดสอบ: วันที่เริ่มต้นที่เร็วที่สุดที่ใช้ได้จะปรากฏในเครื่องมือเลือกช่วงวันที่ การทดสอบที่กำหนดเวลาไว้จะเริ่มขึ้นในวันที่เลือก
- การจัดสรรการเข้าชม: เปอร์เซ็นต์ของการแสดงผลที่คุณต้องการจัดสรรให้กลุ่มผลตอบแทนเพื่อแข่งขันในระหว่างการทดสอบ โดยจะมีผลต่อการแสดงผลที่กําหนดเป้าหมายโดยกลุ่มผลตอบแทนเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะได้รับการส่งโฆษณาเสมือนว่ากลุ่มผลตอบแทนไม่ได้ใช้งานอยู่ ตัวอย่างเช่น หากคุณจัดสรรการแสดงผล 60% ให้กับกลุ่มผลตอบแทนทดสอบ อีก 40% ที่เหลือจะไม่ได้รับผลกระทบ โปรดคำนึงถึงการจัดสรรนี้เมื่อวิเคราะห์ผลการทดสอบ
ข้อความสำหรับผู้ใช้
การทดสอบกฎ A/B ช่วยคุณกำหนดโครงสร้างการโหลดโฆษณาและช่วงพักโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้ เลือกกฎโฆษณาวิดีโอ ช่วงวันที่ และเปอร์เซ็นต์ของการเข้าชมสําหรับการทดสอบ จากนั้นทําการปรับเปลี่ยนโดยอิงตามผลลัพธ์
การตั้งค่าที่กำหนดค่าได้สําหรับการทดสอบนี้ ได้แก่
- โหลดโฆษณาตลอดการสตรีมและตําแหน่งช่วงพักโฆษณา ให้เลือกโฆษณาตอนต้น โฆษณาตอนกลาง และโฆษณาตอนท้าย
- การปรับแต่งระดับสปอตโฆษณาสําหรับช่วงพักโฆษณา ให้กําหนดตําแหน่งที่การสนับสนุนควรอยู่ในช่วงพัก
- ระยะเวลาของพ็อด จำนวนโฆษณา และระยะเวลาของโฆษณา
- ความถี่สูงสุด
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎโฆษณาวิดีโอ
- ดูกฎโฆษณา: อนุญาตให้ผู้ใช้ดูผลการทดสอบที่สร้างขึ้นในเครือข่าย
- แก้ไขกฎโฆษณา: อนุญาตให้ผู้ใช้สร้าง ใช้ และปฏิเสธการทดสอบ
เกณฑ์การทดสอบ
ข้อมูลพื้นฐาน
ป้อนชื่อการทดสอบและทําการเลือกอื่นๆ ดังนี้
- กฎโฆษณาวิดีโอ: เลือกกฎโฆษณาวิดีโอที่การทดสอบควรใช้
หมายเหตุ: ปัจจุบันการทดสอบประเภทนี้ใช้ได้กับกฎโฆษณาวิดีโอมาตรฐาน - ระยะเวลาการทดสอบ: วันที่เริ่มต้นที่เร็วที่สุดที่ใช้ได้จะปรากฏในเครื่องมือเลือกช่วงวันที่ การทดสอบที่กำหนดเวลาไว้จะเริ่มขึ้นในวันที่เลือก
- การจัดสรรการเข้าชม: เปอร์เซ็นต์ของการแสดงผลโดยประมาณที่คุณต้องการจัดสรรให้แก่กฎโฆษณาทดสอบในระหว่างการทดสอบ ส่วนที่เหลือจะใช้กฎโฆษณาเดิม ตัวอย่างเช่น หากคุณจัดสรรการแสดงผล 60% ให้กับกฎโฆษณาทดสอบ กฎโฆษณาเดิมจะได้รับการแสดงผล 40% ที่เหลือ
หมายเหตุ: หากมี PPID ให้ การทดสอบจะเปลี่ยนเส้นทางที่ระดับผู้ใช้ ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้รายหนึ่งๆ จะเห็นตัวแปรกฎโฆษณาเดียวกันเสมอ มิเช่นนั้น การเข้าชมจะเปลี่ยนเส้นทางที่ระดับสตรีมสำหรับคำขอ VMAP แต่ละรายการ
การตั้งค่าการทดลอง
ในส่วน "การตั้งค่าการทดสอบ" คุณสามารถตรวจสอบตัวควบคุมและทําการเลือกต่างๆ สําหรับการทดสอบได้
- การควบคุม: การตั้งค่าการควบคุมแสดงขึ้นเพื่อให้คุณใช้อ้างอิง โปรดอ้างอิงจากสิ่งที่คุณเลือกในกฎโฆษณาทดสอบ โปรดทราบว่าการตั้งค่าการควบคุมจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
หากต้องการดูการตั้งค่าการควบคุม ให้คลิกขยาย
-
การทดสอบ: เลือกตัวเลือกสำหรับการทดสอบ
คลิกบันทึกเพื่อเริ่มต้นการทดสอบตามที่กำหนดเวลาไว้
ตรวจสอบผลการทดสอบ
หลังจากการทดสอบเสร็จสมบูรณ์แล้ว คุณสามารถประเมินผลลัพธ์ได้
