คุณอาจมีสิทธิ์เข้าถึงเครื่องมือตรวจสอบความปลอดภัยซึ่งมีฟีเจอร์ขั้นสูงมากกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่น Google Workspace ที่คุณใช้ เช่น ผู้ดูแลระบบขั้นสูงสามารถระบุ ตรวจสอบ และดำเนินการกับปัญหาด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ในฐานะผู้ดูแลระบบขององค์กร คุณสามารถเรียกใช้การค้นหาและดำเนินการกับเหตุการณ์ในบันทึกของ Meet ได้ ซึ่งคุณจะตรวจสอบกิจกรรมการประชุมในองค์กรได้ที่หน้านี้ เช่น ดูเวลาที่ผู้ใช้เริ่มการประชุม เข้าร่วมจากที่ใด และใครอยู่ในที่ประชุมบ้าง
หากต้องการความช่วยเหลือในระหว่างการประชุมหรือต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการประชุมใดก็ตาม
คุณสามารถแก้ปัญหาในการประชุมได้แบบเรียลไทม์โดยใช้เครื่องมือจัดการคุณภาพ Meet โปรดดูที่หัวข้อติดตามคุณภาพและสถิติการประชุม
เรียกใช้การค้นหาเหตุการณ์ในบันทึก
ความสามารถในการค้นหาจะขึ้นอยู่กับรุ่นของ Google, สิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ และแหล่งข้อมูล คุณจะเรียกใช้การค้นหาของผู้ใช้ทุกคนได้ ไม่ว่าผู้ใช้จะใช้งาน Google Workspace รุ่นใดก็ตาม
หากต้องการเรียกใช้การค้นหาเหตุการณ์ในบันทึก ให้เลือกแหล่งข้อมูลก่อน จากนั้นเลือกตัวกรองสำหรับการค้นหาอย่างน้อย 1 รายการ
-
ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google ด้วยบัญชีผู้ดูแลระบบ
หากไม่ได้ใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ คุณจะเข้าถึงคอนโซลผู้ดูแลระบบไม่ได้
-
ไปที่เมนู
การรายงาน > การตรวจสอบความถูกต้องและข้อเท็จจริง > เหตุการณ์ในบันทึกของ Meet
ต้องมีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบสำหรับรายงาน
- คลิกเพิ่มตัวกรอง จากนั้นเลือกแอตทริบิวต์
- ในหน้าต่างป๊อปอัป ให้เลือกโอเปอเรเตอร์
เลือกค่า
คลิกใช้
- (ไม่บังคับ) หากต้องการสร้างตัวกรองหลายรายการสำหรับการค้นหา ให้ทำซ้ำขั้นตอนนี้
- (ไม่บังคับ) หากต้องการเพิ่มโอเปอเรเตอร์การค้นหา ให้เลือก AND หรือ OR เหนือเพิ่มตัวกรอง
- คลิกค้นหา
หมายเหตุ: คุณใช้แท็บตัวกรองเพื่อใส่พารามิเตอร์และค่าคู่ที่เรียบง่ายเพื่อกรองผลการค้นหาได้ และยังใช้แท็บเครื่องมือสร้างเงื่อนไข ซึ่งมีตัวกรองที่แสดงเงื่อนไขเป็นโอเปอเรเตอร์ AND/OR ได้ด้วย
หากต้องการเรียกใช้การค้นหาในเครื่องมือตรวจสอบความปลอดภัย ให้เลือกแหล่งข้อมูลก่อน จากนั้นเลือกเงื่อนไขสำหรับการค้นหาอย่างน้อย 1 รายการ สำหรับเงื่อนไขแต่ละรายการ ให้เลือกแอตทริบิวต์ โอเปอเรเตอร์ และค่า
-
ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google ด้วยบัญชีผู้ดูแลระบบ
หากไม่ได้ใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ คุณจะเข้าถึงคอนโซลผู้ดูแลระบบไม่ได้
-
ไปที่เมนู
ความปลอดภัย > ศูนย์ความปลอดภัย > เครื่องมือตรวจสอบ
ต้องมีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบของศูนย์ความปลอดภัย
- คลิกแหล่งข้อมูลและเลือกเหตุการณ์ในบันทึกของ Meet
- คลิกเพิ่มเงื่อนไข
เคล็ดลับ: คุณจะกำหนดเงื่อนไขในการค้นหาได้มากกว่า 1 รายการ หรือปรับแต่งการค้นหาด้วยการค้นหาแบบซ้อน โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อปรับแต่งการค้นหาด้วยการค้นหาแบบซ้อน - คลิกแอตทริบิวต์
เลือกตัวเลือกที่ต้องการ
หากต้องการดูรายการแอตทริบิวต์ทั้งหมด ให้ไปที่ส่วนคําอธิบายแอตทริบิวต์เ้านล่างด้านล่าง - เลือกโอเปอเรเตอร์
- ป้อนค่าหรือเลือกค่าจากรายการแบบเลื่อนลง
- (ไม่บังคับ) หากต้องการเพิ่มเงื่อนไขการค้นหา ให้ทําขั้นตอนที่ 4-7 ซ้ํา
- คลิกค้นหา
ผลการค้นหาในเครื่องมือตรวจสอบจะแสดงในตารางที่ด้านล่างของหน้า - (ไม่บังคับ) หากต้องการบันทึกการตรวจสอบ ให้คลิกบันทึก
ป้อนชื่อและคําอธิบาย
คลิกบันทึก
หมายเหตุ
- ในแท็บเครื่องมือสร้างเงื่อนไข ตัวกรองจะแสดงเป็นเงื่อนไขที่มีโอเปอเรเตอร์ AND/OR นอกจากนี้ คุณยังใช้แท็บตัวกรองเพื่อใส่พารามิเตอร์และคู่ค่าแบบง่ายๆ เพื่อกรองผลการค้นหาได้อีกด้วย
- หากคุณมอบชื่อใหม่ให้กับผู้ใช้ คุณจะไม่เห็นผลการค้นหาหากใช้ชื่อเก่าของผู้ใช้ เช่น หากคุณเปลี่ยนชื่อ [email protected] เป็น [email protected] คุณจะไม่เห็นผลลัพธ์สำหรับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ [email protected]
คำอธิบายแอตทริบิวต์
สำหรับแหล่งข้อมูลนี้ คุณจะใช้แอตทริบิวต์ต่อไปนี้เมื่อค้นหาข้อมูลเหตุการณ์ในบันทึกได้
แอตทริบิวต์ | คำอธิบาย |
---|---|
คำอธิบายการดำเนินการ | คำอธิบายของผู้ใช้เมื่อรายงานการละเมิดในการประชุม |
เหตุผลของการดำเนินการ | เหตุผลของผู้ใช้เมื่อรายงานการละเมิดในการประชุม |
เวลาดำเนินการ | เวลาจริงของการดำเนินการ |
ผู้ดำเนินการ | อีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ดำเนินการ หรือรหัสอุปกรณ์ของฮาร์ดแวร์ Meet ที่ผู้ดำเนินการใช้เข้าร่วมการประชุม |
ชื่อกลุ่มผู้ดำเนินการ |
ชื่อกลุ่มของผู้ดำเนินการ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อการกรองผลลัพธ์ตาม Google Group หากต้องการเพิ่มกลุ่มไปยังรายการที่อนุญาตของกลุ่มการกรอง ให้ทำดังนี้
|
ประเภทข้อมูลระบุตัวตนของผู้ดำเนินการ | ประเภทตัวระบุของผู้ใช้ที่เข้าร่วมการประชุม เช่น อีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ |
ชื่อผู้ดำเนินการ | ชื่อผู้ที่เข้าร่วมการประชุม |
หน่วยขององค์กรผู้ดำเนินการ | หน่วยขององค์กรที่ผู้ดำเนินการอยู่ |
รหัสกิจกรรมในปฏิทิน | รหัสของกิจกรรมในปฏิทินที่เชื่อมโยงกับการประชุม (หากมี) |
คะแนนการโทรเต็ม 5 คะแนน | คะแนนการประชุมใน Meet จาก 1 ถึง 5 |
เมือง | เมืองที่ผู้เข้าร่วมเข้าร่วมการประชุม |
ประเภทไคลเอ็นต์ | ประเภทของไคลเอ็นต์ Meet เช่น Android, iOS หรือเว็บเบราว์เซอร์ |
รหัสรอบประชุม | รหัสรอบประชุม ซึ่งเป็นอินสแตนซ์ของการประชุม เช่น ในการประชุมรายสัปดาห์ที่กำลังดำเนินอยู่ การประชุมแต่ละครั้งจะมีรหัสรอบประชุมที่ไม่ซ้ำกัน |
ประเทศ | รหัสประเทศ/ภูมิภาคของประเทศ/ภูมิภาคที่ผู้เข้าร่วมเข้าร่วมการประชุม |
วันที่ | วันที่และเวลาของเหตุการณ์ (ตามที่แสดงในเขตเวลาเริ่มต้นของเบราว์เซอร์) |
ระยะเวลา (วินาที) | ระยะเวลาที่ผู้เข้าร่วมอยู่ในการประชุม |
รหัสเครื่องปลายทาง | ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันสำหรับผู้เข้าร่วมแต่ละราย |
เหตุการณ์ | การดำเนินการของเหตุการณ์ที่บันทึกไว้ เช่น ส่งรายงานการละเมิดหรือรับชมสตรีมแบบสด |
ที่อยู่ IP | ที่อยู่ IP ของผู้เข้าร่วมที่เข้าร่วมการประชุม |
รหัสหน้ารับชมสตรีมแบบสด | รหัสสำหรับหน้ารับชมสตรีมแบบสดของการประชุม Meet การประชุมที่เกิดซ้ำจะมีรหัสหน้ารับชมสตรีมแบบสดเดียวกัน |
รหัสการประชุม | รหัสสำหรับการประชุม ซึ่งการประชุมที่เกิดซ้ำจะมีรหัสการประชุมเดียวกัน |
อีเมลผู้จัดการประชุม | อีเมลของผู้จัดการประชุม |
ผู้เข้าร่วมจากภายนอกองค์กร | ระบุว่าผู้เข้าร่วมมาจากภายในองค์กรหรือไม่ |
ประเภทผลิตภัณฑ์ | ผลิตภัณฑ์ที่ใช้เข้าร่วมการประชุม เช่น Google Meet |
สถานะเซสชันสตรีมมิง | สถานะของเซสชันสตรีมมิง (การบันทึก การออกอากาศ การถอดเสียงเป็นคำ ฯลฯ) |
เป้าหมาย | อีเมลของผู้เข้าร่วมที่รายงาน |
ชื่อที่แสดงเป้าหมาย | ชื่อที่แสดงของผู้ใช้ที่รายงาน |
หมายเลขโทรศัพท์เป้าหมาย | หมายเลขโทรศัพท์ของอุปกรณ์ที่รายงาน |
จำนวนผู้ใช้เป้าหมาย | จำนวนผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการ |
หมายเหตุ: หากคุณตั้งชื่อใหม่ให้กับผู้ใช้ คุณจะมองไม่เห็นผลการค้นหาเกี่ยวกับชื่อเก่าของผู้ใช้ เช่น หากคุณเปลี่ยนชื่อ [email protected] เป็น [email protected] คุณจะไม่เห็นผลการค้นหาสำหรับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ [email protected]
ระบุผู้เข้าร่วมการประชุม
แอตทริบิวต์เหตุการณ์ในบันทึกบางส่วนที่อธิบายไว้ข้างต้น เช่น ผู้ดำเนินการ ชื่อผู้ดำเนินการ และประเทศ จะช่วยให้คุณทราบว่าใครเข้าร่วมการประชุมทั้งภายในและภายนอกองค์กร (การประชุมภายในและภายนอก) ทั้งนี้ข้อมูลเหตุการณ์ของบันทึกจะปรากฏโดยขึ้นอยู่กับผู้เข้าร่วมและประเภทการประชุม ซึ่งข้อมูลอาจเป็นดังนี้
- แสดงเป็นข้อความธรรมดา - แสดงเป็นข้อความที่ไม่ได้ปกปิดและสามารถอ่านได้
- ถูกปกปิด - แสดงพร้อมกับเครื่องหมายดอกจัน (*) เพื่อปกปิดข้อมูล เช่น อีเมลที่ถูกปกปิดอาจมีอักขระดังนี้ li***@s***.com
- ไม่แสดง - ข้อมูลที่ไม่แสดงในบันทึก
ตารางต่อไปนี้จะแสดงตัวระบุผู้เข้าร่วมซึ่งอยู่ในข้อมูลเหตุการณ์ของบันทึก ตารางนี้ยังช่วยให้คุณทราบถึงตัวระบุที่มีในองค์กรอื่นเมื่อมีผู้ใช้จากองค์กรของคุณเข้าร่วมการประชุม
ตัวระบุผู้เข้าร่วม | ข้อมูลที่มี |
---|---|
ประเทศและที่อยู่ IP |
|
อีเมลและรหัสอุปกรณ์ |
|
ชื่อ | แสดงเป็นข้อความธรรมดาสำหรับผู้เข้าร่วมทุกคน |
อีเมลผู้จัดการประชุม |
|
หมายเลขโทรศัพท์ | ปกปิดสำหรับผู้เข้าร่วมทั้งหมด |
หมายเหตุ: เมื่อผู้เข้าร่วมเป็นผู้ใช้ที่ไม่ระบุชื่อ ช่องประเภทตัวระบุผู้ดำเนินการจะว่างเปล่า และช่องชื่อผู้ดำเนินการจะเป็นชื่อที่ผู้ใช้ส่งเข้ามา
ดูข้อมูลอื่นๆ ของ Meet
- หากต้องการทราบระยะเวลาการประชุมตามจริงและค่าใช้จ่าย โปรดไปที่บันทึกการตรวจสอบของ Voice
- ตรวจสอบเหตุการณ์และพารามิเตอร์สำหรับเหตุการณ์ของกิจกรรมการตรวจสอบ Google Meet ประเภทต่างๆ โดยใช้ API ใน Google Workspace Admin SDK
จัดการข้อมูลเหตุการณ์ในบันทึก
จัดการข้อมูลคอลัมน์ผลการค้นหา
คุณควบคุมได้ว่าจะให้คอลัมน์ข้อมูลใดปรากฏในผลการค้นหา
- คลิก "จัดการคอลัมน์"
ที่ด้านขวาบนของตารางผลการค้นหา
- (ไม่บังคับ) หากต้องการนำคอลัมน์ปัจจุบันออก ให้คลิก "นำออก"
- (ไม่บังคับ) หากต้องการเพิ่มคอลัมน์ ให้คลิกลูกศรลง
ข้างเพิ่มคอลัมน์ใหม่แล้วเลือกคอลัมน์ข้อมูล
ทำซ้ำตามที่จำเป็น - (ไม่บังคับ) หากต้องการเปลี่ยนลำดับของคอลัมน์ ให้ลากชื่อคอลัมน์ข้อมูล
- คลิกบันทึก
ส่งออกข้อมูลผลการค้นหา
คุณสามารถส่งออกผลการค้นหาไปยัง Google ชีตหรือไฟล์ CSV ได้
- คลิกส่งออกทั้งหมดที่ด้านบนของตารางผลการค้นหา
- ป้อนชื่อ
คลิกส่งออก
การส่งออกจะแสดงใต้ตารางผลการค้นหาในส่วนผลลัพธ์การดำเนินการส่งออก - หากต้องการดูข้อมูล ให้คลิกชื่อการส่งออก
การส่งออกจะเปิดขึ้นใน Google ชีต
ขีดจํากัดการส่งออกจะแตกต่างกันไปดังนี้
- ผลการส่งออกทั้งหมดจำกัดอยู่ที่ 100,000 แถว
- รุ่นที่รองรับฟีเจอร์นี้ได้แก่ Frontline Standard และ Frontline Plus; Enterprise Standard และ Enterprise Plus; Education Standard และ Education Plus; Enterprise Essentials Plus; Cloud Identity Premium เปรียบเทียบรุ่นของคุณ
หากคุณมีเครื่องมือตรวจสอบความปลอดภัย ผลการส่งออกทั้งหมดจะจำกัดอยู่ที่ 30 ล้านแถว (ยกเว้นการค้นหาข้อความ Gmail ซึ่งจำกัดไว้ที่ 10,000 แถว)
โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อส่งออกผลการค้นหา
ข้อมูลจะใช้ได้เมื่อใดและใช้ได้นานเพียงใด
ดำเนินการตามผลการค้นหา
- คุณสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนตามข้อมูลเหตุการณ์ในบันทึกได้โดยใช้กฎการรายงาน โปรดดูวิธีการที่หัวข้อสร้างและจัดการกฎการรายงาน
- รุ่นที่รองรับฟีเจอร์นี้ได้แก่ Frontline Standard และ Frontline Plus; Enterprise Standard และ Enterprise Plus; Education Standard และ Education Plus; Enterprise Essentials Plus; Cloud Identity Premium เปรียบเทียบรุ่นของคุณ
คุณจะปรับให้การทำงานในเครื่องมือตรวจสอบความปลอดภัยเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติและตั้งค่าการแจ้งเตือนได้โดยการสร้างกฎกิจกรรม ซึ่งจะช่วยป้องกัน ตรวจจับ และแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากต้องการตั้งค่ากฎ ให้กําหนดเงื่อนไขสําหรับกฎ จากนั้นระบุการดําเนินการที่จะเกิดขึ้นเมื่อตรงตามเงื่อนไข โปรดดูรายละเอียดและวิธีการที่หัวข้อสร้างและจัดการกฎกิจกรรม
รุ่นที่รองรับฟีเจอร์นี้ได้แก่ Frontline Standard และ Frontline Plus; Enterprise Standard และ Enterprise Plus; Education Standard และ Education Plus; Enterprise Essentials Plus; Cloud Identity Premium เปรียบเทียบรุ่นของคุณ
หลังจากทําการค้นหาในเครื่องมือตรวจสอบความปลอดภัยแล้ว คุณจะดําเนินการกับผลการค้นหาได้ เช่น คุณสามารถค้นหาตามเหตุการณ์ในบันทึกของ Gmail แล้วใช้เครื่องมือเพื่อลบข้อความที่ต้องการ ส่งข้อความไปยังเขตกักบริเวณ หรือส่งข้อความไปยังกล่องจดหมายของผู้ใช้ โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่หัวข้อดำเนินการตามผลการค้นหา
จัดการการตรวจสอบ
รุ่นที่รองรับฟีเจอร์นี้ได้แก่ Frontline Standard และ Frontline Plus; Enterprise Standard และ Enterprise Plus; Education Standard และ Education Plus; Enterprise Essentials Plus; Cloud Identity Premium เปรียบเทียบรุ่นของคุณ
ดูรายการการตรวจสอบหากต้องการดูรายการการตรวจสอบที่คุณเป็นเจ้าของและรายการที่ผู้อื่นแชร์กับคุณ ให้คลิกดูการตรวจสอบ รายการการตรวจสอบประกอบด้วยชื่อ คําอธิบาย และเจ้าของการตรวจสอบ และวันที่แก้ไขล่าสุด
จากรายการนี้ คุณจะดำเนินการกับการตรวจสอบที่คุณเป็นเจ้าของได้ เช่น ลบการตรวจสอบ เลือกช่องสำหรับการตรวจสอบแล้วคลิกการดำเนินการ
หมายเหตุ: ที่ด้านบนของรายการการตรวจสอบ ใต้ส่วนการเข้าถึงด่วน คุณจะดูการตรวจสอบที่บันทึกไว้ล่าสุดได้
ในฐานะผู้ดูแลระบบขั้นสูง ให้คลิกการตั้งค่า เพื่อดําเนินการดังนี้
- เปลี่ยนเขตเวลาสําหรับการตรวจสอบ โดยเขตเวลาจะมีผลกับเงื่อนไขการค้นหาและผลการค้นหา
- การเปิดหรือปิดต้องมีผู้ตรวจสอบ โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่หัวข้อต้องมีผู้ตรวจสอบสําหรับการดำเนินการหลายรายการพร้อมกัน
- เปิดหรือปิดการดูเนื้อหา การตั้งค่านี้จะอนุญาตให้ผู้ดูแลระบบที่มีสิทธิ์ในระดับที่เหมาะสมดูเนื้อหาได้
- เปิดหรือปิดการเปิดใช้เหตุผลรองรับการดําเนินการ
โปรดดูวิธีการและรายละเอียดที่หัวข้อกําหนดการตั้งค่าสําหรับการตรวจสอบ
หากต้องการบันทึกเกณฑ์การค้นหาหรือแชร์กับคนอื่นๆ คุณสามารถสร้างและบันทึกการตรวจสอบ จากนั้นก็แชร์ ทำซ้ำ หรือลบออกได้
โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อบันทึก แชร์ ลบ และทําซ้ำการตรวจสอบ