เปิดหรือปิดการยืนยันปลายทาง

รุ่นที่รองรับฟีเจอร์นี้ ได้แก่ Frontline Starter, Frontline Standard, and Frontline Plus; Business Starter, Business Standard และ Business Plus; Enterprise Standard และ Enterprise Plus; Education Fundamentals, Education Standard, Teaching and Learning Upgrade, Education Plus และ Endpoint Education Upgrade; Essentials, Enterprise Essentials และ Enterprise Essentials Plus; G Suite Basic และ G Suite Business; Cloud Identity Free และ Cloud Identity Premium เปรียบเทียบรุ่นของคุณ

ในฐานะผู้ดูแลระบบ คุณสามารถใช้การยืนยันปลายทางเพื่อดูรายละเอียดอุปกรณ์ที่ใช้ ChromeOS หรือเบราว์เซอร์ Chrome ที่เข้าถึงข้อมูลขององค์กรได้ เช่น ดูข้อมูลเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ อุปกรณ์ และผู้ใช้สำหรับอุปกรณ์ส่วนตัวและอุปกรณ์ขององค์กร นอกจากนี้คุณยังใช้การเข้าถึงแบบ Context-Aware (CAA) เพื่อควบคุมการเข้าถึงข้อมูลตามตำแหน่งของอุปกรณ์ สถานะความปลอดภัย หรือแอตทริบิวต์อื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น คุณสามารถกำหนดให้ต้องอนุมัติอุปกรณ์ จากนั้นจึงสร้างนโยบาย CAA ที่บล็อกการเข้าถึงข้อมูลหากอุปกรณ์มีสถานะเป็นรอการอนุมัติหรือถูกบล็อก

คอมพิวเตอร์ที่รองรับ

  • Apple Mac OS X El Capitan (10.11) ขึ้นไป
  • อุปกรณ์ที่ใช้ ChromeOS 110 ขึ้นไป
  • Linux Debian และ Ubuntu
    หมายเหตุ: CPU ต้องรองรับชุดคำสั่ง AES
  • Microsoft Windows 10 และ 11

ตั้งค่าการยืนยันปลายทาง

เปิดทั้งหมด | ปิดทั้งหมด

ขั้นตอนที่ 1: เปิดการยืนยันปลายทางในคอนโซลผู้ดูแลระบบ

โดยปกติแล้ว การยืนยันปลายทางจะเปิดอยู่ตามค่าเริ่มต้น หากปิดใช้อยู่ ให้เปิดใช้อีกครั้ง

ข้อควรทราบก่อนที่จะเริ่มต้น: หากต้องการกำหนดแผนกหรือทีมสำหรับการตั้งค่านี้ โปรดดูหัวข้อเพิ่มหน่วยขององค์กร

  1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google ด้วยบัญชีผู้ดูแลระบบ

    หากไม่ได้ใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ คุณจะเข้าถึงคอนโซลผู้ดูแลระบบไม่ได้

  2. คลิกการเข้าถึงข้อมูลจากนั้นการยืนยันปลายทาง
  3. (ไม่บังคับ) หากต้องการใช้การตั้งค่ากับแผนกหรือทีม ให้เลือกหน่วยขององค์กร แสดงวิธีการ ที่ด้านข้าง
  4. เลือกช่องตรวจดูอุปกรณ์ที่เข้าถึงข้อมูลองค์กร
  5. คลิกบันทึก หรือคลิกลบล้างสำหรับ หน่วยขององค์กร

    หากในภายหลังต้องการกู้คืนค่าที่รับช่วงมา ให้คลิกรับค่า

ขั้นตอนที่ 2: ติดตั้งส่วนขยายการยืนยันปลายทาง

ตัวเลือกที่ 1: ให้ผู้ใช้ติดตั้งส่วนขยาย

ผู้ใช้สามารถติดตั้งส่วนขยายได้ในอุปกรณ์ Linux, Mac และ Windows โปรดดูรายละเอียดและขั้นตอนสำหรับผู้ใช้ในหัวข้อตั้งค่าการยืนยันปลายทางในคอมพิวเตอร์

ตัวเลือกที่ 2: บังคับติดตั้งส่วนขยายในคอนโซลผู้ดูแลระบบ

ข้อควรทราบก่อนที่จะเริ่มต้น: หากต้องการกำหนดแผนกหรือทีมสำหรับการตั้งค่านี้ โปรดดูหัวข้อเพิ่มหน่วยขององค์กร

  1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google ด้วยบัญชีผู้ดูแลระบบ

    หากไม่ได้ใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ คุณจะเข้าถึงคอนโซลผู้ดูแลระบบไม่ได้

  2. (ไม่บังคับ) หากต้องการใช้การตั้งค่ากับแผนกหรือทีม ให้เลือกหน่วยขององค์กร แสดงวิธีการ ที่ด้านข้าง
  3. คลิกเพิ่ม จากนั้นเพิ่มแอปหรือส่วนขยาย Chrome โดยใช้รหัส
  4. ป้อน callobklhcbilhphinckomhgkigmfocg ในช่องรหัสส่วนขยาย โปรดคัดลอกโค้ดดังกล่าวเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด
  5. เลือกจาก Chrome เว็บสโตร์ไว้แล้วคลิกบันทึก
  6. เลือกตัวเลือกต่อไปนี้ในส่วนการจัดการใบรับรองของแผงตัวเลือกแอปที่เปิดขึ้น
    1. คลิกเปิดใช้ ถัดจากอนุญาตให้เข้าถึงคีย์
    2. คลิกเปิดใช้ ถัดจากอนุญาตให้ทดสอบคีย์ขององค์กร
    3. ปิดแผงดังกล่าว
  7. คลิกลูกศรลง ในรายการแอปในแถวการยืนยันปลายทาง และเลือกนโยบายการติดตั้งดังนี้
    • หากต้องการบังคับติดตั้งและปักหมุดส่วนขยายไว้ที่แถบเครื่องมือของเบราว์เซอร์ในอุปกรณ์ที่ใช้ ChromeOS ให้เลือกบังคับติดตั้ง + ปักหมุดไว้ที่แถบเครื่องมือของเบราว์เซอร์
    • หากต้องการบังคับติดตั้งแอป ให้เลือกบังคับติดตั้ง
    • เลือกอนุญาตให้ติดตั้งเพื่อให้ผู้ใช้เลือกติดตั้งส่วนขยายเอง
  8. คลิกบันทึก หรือคลิกลบล้างสำหรับ หน่วยขององค์กร

    หากในภายหลังต้องการกู้คืนค่าที่รับช่วงมา ให้คลิกรับค่า

การเปลี่ยนแปลงอาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง แต่โดยปกติจะใช้เวลาเร็วกว่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ตัวเลือกที่ 3: ใช้นโยบายเพื่อเพิ่มส่วนขยายลงในอุปกรณ์ที่มีการจัดการ

อุปกรณ์ Mac, Windows และ Linux

ดูวิธีกำหนดนโยบายเบราว์เซอร์ Chrome ใน PC ที่มีการจัดการ

ขั้นตอนที่ 3: ติดตั้งแอปผู้ช่วย (เฉพาะ Linux, Mac และ Windows เท่านั้น) หากจำเป็น

ข้อควรทราบก่อนที่จะเริ่มต้น

  • (Linux และ Windows) หากอุปกรณ์ลงทะเบียนการยืนยันปลายทางอยู่แล้วและไม่จำเป็นต้องใช้แอปผู้ช่วย ก็ไม่ต้องติดตั้งแอป เนื่องจากการติดตั้งแอปอาจทำให้อุปกรณ์ไม่สามารถรายงานไปยังเซิร์ฟเวอร์ได้ หากอุปกรณ์ไม่รายงาน โปรดแจ้งให้ผู้ใช้ทําตามขั้นตอนเพื่อถอนการติดตั้งแอปผู้ช่วย แล้วไปที่ขั้นตอนที่ 4 ภายหลังในหน้านี้
  • หากผู้ใช้ติดตั้งส่วนขยายการยืนยันปลายทางอยู่แล้ว ระบบจะแจ้งให้ติดตั้งแอปผู้ช่วยโดยอัตโนมัติ หากจำเป็น คุณข้ามขั้นตอนนี้และไปยังขั้นตอนที่ 4 ได้
  • หากใช้การตรวจสอบสิทธิ์ใบรับรองไคลเอ็นต์ โปรดตรวจสอบว่าอุปกรณ์ใช้ใบรับรองที่ถูกต้องเพื่อเชื่อมต่อกับบริการที่มีการรักษาความปลอดภัย เช่น เว็บไซต์ภายใน แอปผู้ช่วยจะสร้างใบรับรองแบบ Self-signed สำหรับการใช้งานภายในด้วยเบราว์เซอร์ Chrome แต่หากใช้ใบรับรองแบบ Self-signed สำหรับคำขอใบรับรองไคลเอ็นต์ การเชื่อมต่อจะถูกปฏิเสธ เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ ให้ใช้วิธีใดวิธีหนึ่งหรือทั้ง 2 วิธีต่อไปนี้
    • กำหนดรายการชื่อ CA ที่ถูกต้องในเซิร์ฟเวอร์สำหรับคำขอใบรับรองไคลเอ็นต์
    • ตั้งค่านโยบาย Chrome AutoSelectCertificateForUrls เพื่อเลือกใบรับรองที่เชื่อถือได้
       

ติดตั้งแอปผู้ช่วย

คุณต้องติดตั้งแอปผู้ช่วยการยืนยันปลายทางเพื่อดำเนินการต่อไปนี้

วิธีติดตั้งแอปผู้ช่วยในคอมพิวเตอร์ของคุณเองหรือของผู้อื่น มีดังนี้

  1. ดาวน์โหลดแอปผู้ช่วยสำหรับ Linux, Mac หรือ Windows
  2. ใช้เครื่องมือการจัดการซอฟต์แวร์ของบุคคลที่สามเพื่อติดตั้งแอป
ขั้นตอนที่ 4: (ไม่บังคับ) ตั้งค่าการอนุมัติอุปกรณ์
หากต้องการตรวจสอบอุปกรณ์ยืนยันปลายทางแต่ละอุปกรณ์ที่เข้าถึงข้อมูลขององค์กร โปรดกำหนดให้ผู้ดูแลระบบอนุมัติการเข้าถึงอุปกรณ์ คุณสามารถติดแท็กอุปกรณ์ว่าได้รับการอนุมัติหรือถูกบล็อก โดยใช้แท็กเป็นเงื่อนไขได้ในระดับ CAA หากไม่ได้กำหนดระดับ CAA อุปกรณ์ที่รอการอนุมัติหรือถูกบล็อกจะยังคงเข้าถึงข้อมูลงานได้

แก้ปัญหาการยืนยันปลายทาง

หากผู้ใช้พบปัญหา ผู้ใช้อาจดำเนินการแก้ไขปัญหาเองได้ โปรดดูรายละเอียดในหัวข้อแก้ปัญหาการยืนยันปลายทางสำหรับผู้ใช้

หากอุปกรณ์ Mac ไม่รายงานสถานะรหัสผ่านในคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ตรวจสอบว่าได้ติดตั้งแอปผู้ช่วยการยืนยันปลายทางแล้ว

หากอุปกรณ์ที่มีแอปผู้ช่วยไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่มีการรักษาความปลอดภัยในเบราว์เซอร์ Chrome ได้ โปรดตรวจสอบว่าอุปกรณ์ใช้ใบรับรองที่ถูกต้องในการเชื่อมต่อ เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ ให้ใช้วิธีใดวิธีหนึ่งหรือทั้ง 2 วิธีต่อไปนี้

  • กำหนดรายการชื่อ CA ที่ถูกต้องในเซิร์ฟเวอร์สำหรับคำขอใบรับรองไคลเอ็นต์
  • ตั้งค่านโยบาย Chrome AutoSelectCertificateForUrls เพื่อเลือกใบรับรองที่เชื่อถือได้

หากวิธีแก้ปัญหาดังกล่าวไม่ได้ผล ให้ติดต่อทีมสนับสนุนของ Google ก่อนติดต่อทีมสนับสนุน เราขอแนะนำให้คุณแจ้งให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดบันทึกการยืนยันปลายทางเพื่อผู้เชี่ยวชาญในทีมสนับสนุนจะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้รวดเร็วขึ้น

ค้นหาผู้ใช้ที่ไม่มีการยืนยันปลายทาง

คุณสามารถดูรายชื่อผู้ใช้ที่ไม่ได้ติดตั้งการยืนยันปลายทางในอุปกรณ์ของตน และส่งอีเมลเพื่อขอให้ผู้ใช้ติดตั้งการยืนยันปลายทางได้ หากต้องการ

  1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google ด้วยบัญชีผู้ดูแลระบบ

    หากไม่ได้ใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ คุณจะเข้าถึงคอนโซลผู้ดูแลระบบไม่ได้

  2. ไปที่เมนู จากนั้น อุปกรณ์ > ภาพรวม

    ต้องมีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบในการตั้งค่าอุปกรณ์ที่แชร์

  3. คลิกปลายทาง
  4. คลิกเพิ่มตัวกรองด้านบนสุดของรายการอุปกรณ์
  5. เลือกยกเว้น: การยืนยันปลายทาง
  6. วิธีส่งอีเมลถึงผู้ใช้ที่ไม่มีการยืนยันปลายทาง
    1. เลือกช่องถัดจากอุปกรณ์แต่ละเครื่อง
    2. คลิกส่งอีเมลหาผู้ใช้

      หน้าต่างอีเมลจะเปิดขึ้นพร้อมกับผู้ใช้ที่คุณเลือกไว้ในช่องถึง

    3. เขียนอีเมลแล้วคลิกส่ง

ปิดการยืนยันปลายทาง

คุณจะไม่เห็นอุปกรณ์ที่เพิ่มเข้ามาหลังจากปิดการยืนยันปลายทางในคอนโซลผู้ดูแลระบบ แต่จะยังเห็นอุปกรณ์ที่เคยตรวจสอบมาก่อน ทั้งนี้ข้อมูลอุปกรณ์จะไม่อัปเดต

ข้อควรทราบก่อนที่จะเริ่มต้น: หากต้องการกำหนดแผนกหรือทีมสำหรับการตั้งค่านี้ โปรดดูหัวข้อเพิ่มหน่วยขององค์กร

  1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google ด้วยบัญชีผู้ดูแลระบบ

    หากไม่ได้ใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ คุณจะเข้าถึงคอนโซลผู้ดูแลระบบไม่ได้

  2. คลิกการเข้าถึงข้อมูลจากนั้นการยืนยันปลายทาง
  3. (ไม่บังคับ) หากต้องการใช้การตั้งค่ากับแผนกหรือทีม ให้เลือกหน่วยขององค์กร แสดงวิธีการ ที่ด้านข้าง
  4. ยกเลิกการเลือกช่องตรวจดูอุปกรณ์ที่เข้าถึงข้อมูลองค์กร
  5. คลิกบันทึก หรือคลิกลบล้างสำหรับ หน่วยขององค์กร

    หากในภายหลังต้องการกู้คืนค่าที่รับช่วงมา ให้คลิกรับค่า

ลบอุปกรณ์

เมื่อลบอุปกรณ์แล้ว อุปกรณ์จะไม่ซิงค์ข้อมูลงานอีกต่อไป แต่จะไม่มีการนำข้อมูลออก ระบบจะเพิ่มอุปกรณ์กลับไปยังรายการหลังการซิงค์ครั้งถัดไป เว้นแต่นโยบายการเข้าถึงแบบ Context-Aware จะบล็อกการเข้าถึง ในกรณีนี้ อุปกรณ์อาจจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติให้ซิงค์ข้อมูลอีกครั้ง

  1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google ด้วยบัญชีผู้ดูแลระบบ

    หากไม่ได้ใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ คุณจะเข้าถึงคอนโซลผู้ดูแลระบบไม่ได้

  2. ไปที่เมนู จากนั้น อุปกรณ์ > ภาพรวม

    ต้องมีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบในการตั้งค่าอุปกรณ์ที่แชร์

  3. คลิกปลายทาง
  4. เลือกอุปกรณ์ที่ต้องการนำออกแล้วคลิกลบ


Google, Google Workspace และเครื่องหมายและโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC ชื่อบริษัทและชื่อผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าของ บริษัทที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
10929848715182769812
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73010
false
false
false
false