ใช้ทรัพยากรแบบมีโครงสร้างใน Google ปฏิทิน

Google ขอแนะนำให้กำหนดทรัพยากรปฏิทินโดยใช้รูปแบบมีโครงสร้าง ทรัพยากรแบบมีโครงสร้างจะมีข้อมูลตำแหน่ง ความจุ หรืออุปกรณ์ของทรัพยากรนั้นๆ โดยปฏิทินจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับห้องและทรัพยากรซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้เลือกทรัพยากรได้ตรงตามความต้องการมากที่สุด กำหนดทรัพยากรแบบมีโครงสร้างเพื่อใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ใหม่ๆ และประสิทธิภาพที่ผ่านการปรับปรุงของปฏิทิน

ทรัพยากรแบบไม่มีโครงสร้าง (เดิม) จะใช้เฉพาะช่องเหล่านี้

  • รหัสทรัพยากร
  • ชื่อ
  • คำอธิบาย

หากมีเพียงช่องเหล่านี้ที่ตั้งไว้สำหรับทรัพยากร แสดงว่าเป็นทรัพยากรแบบเดิม ทรัพยากรที่สร้างขึ้นก่อนวันที่ 17 ตุลาคม 2017 อาจเป็นทรัพยากรแบบเดิม

ประโยชน์ของทรัพยากรแบบมีโครงสร้าง 

การเปลี่ยนข้อมูลของคุณให้เป็นรูปแบบที่มีโครงสร้างจะมีความยุ่งยากเล็กน้อย แต่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า หากคุณจัดโครงสร้างให้ทรัพยากร ผู้ใช้จะดำเนินการดังต่อไปนี้ได้ 

เปลี่ยนไปใช้ทรัพยากรแบบมีโครงสร้าง

แปลงทรัพยากรให้เป็นรูปแบบที่มีโครงสร้างเพื่อให้ได้ประโยชน์จากฟีเจอร์ของ Google ปฏิทินที่พัฒนาขึ้นในอนาคต เมื่อคุณใช้ทรัพยากรแบบมีโครงสร้าง ผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดเมื่อจองห้องและใช้ฟีเจอร์อื่นๆ ในปฏิทิน

ทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลง ทดสอบ และสื่อสาร

การใช้ข้อมูลทรัพยากรแบบมีโครงสร้างจะเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้ใช้ใช้งานปฏิทิน เราขอแนะนำให้คุณเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ดังนี้

  • วิเคราะห์วิธีจัดการทรัพยากรในปัจจุบัน และศึกษาว่าการย้ายข้อมูลไปยังรูปแบบที่มีโครงสร้างจะเปลี่ยนประสบการณ์ของผู้ใช้ไปอย่างไร
  • ใช้ทรัพยากรแบบมีโครงสร้างในสภาพแวดล้อมการทดสอบก่อนเพื่อดูการเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งสำรองข้อมูลของทรัพยากรปัจจุบันไว้
  • อัปเดตแอปพลิเคชันภายในและซอฟต์แวร์ของบุคคลที่สาม เช่น แอปพลิเคชันที่ใช้แบบแผนการตั้งชื่อที่กำหนดเอง 
  • แจ้งให้ผู้ใช้ทราบการเปลี่ยนแปลงและรูปแบบการทำงานแบบใหม่ รวมทั้งจัดการการทยอยใช้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

การเปลี่ยนแปลงต่อประสบการณ์ของผู้ใช้

ผู้ใช้จะเห็นการเปลี่ยนแปลงต่อไปนี้เมื่อคุณนำรูปแบบใหม่ที่มีโครงสร้างไปใช้ในบริษัท 

ผลการค้นหาที่มีการเปลี่ยนแปลง

ก่อน

ทรัพยากรต่างๆ จะแสดงเป็นชื่อทรัพยากรแบบยาว 1 ชื่อ

หลัง

ทรัพยากรจะแสดงพร้อมข้อมูลที่มีการจัดระเบียบ

มีการเปลี่ยนแปลงการแสดงผลสำหรับห้องและทรัพยากรประเภทอื่น

สำหรับห้อง (หมวดหมู่ "CONFERENCE_ROOM")  
  1. ชื่อทรัพยากร
  2. อาคาร
  3. ชั้นและส่วน
  4. ความจุ
  5. ฟีเจอร์ A/V

 

สำหรับทรัพยากรประเภทอื่น (หมวดหมู่ "อื่นๆ)
  1. ชื่อทรัพยากร
  2. อาคาร
  3. ชั้นและส่วน
  4. ความจุ
  5. ประเภททรัพยากร
  6. ฟีเจอร์ A/V (หากมี)

มีการเปลี่ยนแปลงการแสดงทรัพยากร  

เมื่อชี้ไปที่ทรัพยากร ระบบจะแสดงรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้

 

สำหรับห้อง (หมวดหมู่ "ห้องประชุม")


สำหรับทรัพยากรประเภทอื่น (หมวดหมู่ "อื่นๆ")

มีการเปลี่ยนแปลงลำดับทรัพยากร

ก่อนวันที่ 17 ตุลาคม 2017

ก่อนหน้านี้ การจัดกลุ่มในรายชื่อห้องจะเป็นไปตามชื่อทรัพยากร เช่น ระบบจะแสดงรายชื่อห้องโดยดูจากข้อความนำหน้าแทนที่จะเป็นข้อมูลอื่นที่จะช่วยให้ผู้ใช้เลือกทรัพยกรที่เหมาะสมได้ หากมีหลายห้องที่มีข้อความนำหน้าเหมือนกัน (เช่น CH-ZRHA) ห้องดังกล่าวทั้งหมดจะได้รับการจัดกลุ่มไว้ด้วยกันตามข้อความนำหน้านี้

ตัวอย่างชื่อทรัพยากร

CH-ZRHA-FavoriteRoom’1 [Phone, VC]

CH-ZRHA-SecondFavoriteRoom’1 [Phone, VC]

US-SFO-RoominSFO’2 [Phone, VC]

การจัดกลุ่มตามข้อความนำหน้าจะเป็นดังนี้

เมื่ออาคารคือ ZRH-OfficeA และ SFO-OfficeB

หลังจากวันที่ 17 ตุลาคม 2017

การจัดกลุ่มจะเป็นไปตามอาคารที่คุณสร้าง โดยระบบจะจัดกลุ่มห้องและทรัพยากรประเภทอื่นจะอยู่ในโหนดอาคารของตนเอง

ตัวอย่างชื่อแบบใหม่ที่สร้างโดยอัตโนมัติ

ZRH-OfficeA-1-FavoriteRoom (4) [Phone, VC]

ZRH-OfficeA-1-SecondFavoriteRoom (2) [Phone, VC]

SFO-OfficeB-RoominSFO (2) [Phone, VC]

เมื่ออาคารคือ ZRH-OfficeA และ SFO-OfficeB

การจัดกลุ่มตามชื่ออาคารจะเป็นดังนี้

วิธีการตั้งชื่อชั้นและลำดับการแสดงมีดังนี้

ชั้นในอาคารจะแสดงตามลำดับตัวเลข เช่น

  • ชั้น "1" ปรากฏก่อน "2"
  • แต่ชื่อชั้น "12th" จะมาก่อนชั้น "1st" เนื่องจากเลข "2" มาก่อนอักษร "s"

ดังนั้น หากต้องการแสดงชั้นตามลำดับที่ถูกต้อง ให้ใช้หมายเลขระบุชั้น เป็น “01”, “02, …, “12”

มีการเปลี่ยนแปลงชื่อทรัพยากรและการแสดงผล 

สำหรับทรัพยากรแบบเดิม Google ขอแนะนำให้ใช้รูปแบบชื่อเฉพาะตัวสำหรับทรัพยากร ระดับชั้นของทรัพยากรจะสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อใส่ทรัพยากรที่มีเครื่องหมาย "-" มากกว่า 10 รายการ ถ้ามีทรัพยากรมากกว่า 100 รายการในกลุ่มส่วนหัว ระบบจะแบ่งกลุ่มออกเป็นส่วนหัวย่อยต่างๆ

เมื่อเปลี่ยนมาใช้ข้อมูลทรัพยากรแบบมีโครงสร้าง แบบแผนการตั้งชื่อของ Google จะกลายมาเป็นมาตรฐานและใช้เพื่อสร้างชื่อโดยอัตโนมัติจากช่องทรัพยากรแต่ละช่อง ทั้งนี้ ระบบจะสร้างชื่อขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อมีการอัปเดตข้อมูลของทรัพยากร ซึ่งนอกเหนือไปจากชื่อทรัพยากร ประเภททรัพยากร หรือรายละเอียด

  • [อาคาร]-[ชั้น] [ชื่อห้อง] ([ความจุห้อง]) [ฟีเจอร์ระบบเสียงและวิดีโอ]
  • [ประเภททรัพยากร]-[อาคาร]-[ชั้น] [ชื่อห้อง] ([ความจุห้อง]) [ฟีเจอร์ระบบเสียงและวิดีโอ]

ชื่อที่สร้างขึ้นอัตโนมัติจะมีประโยชน์ดังนี้ 

  • ทำให้ชื่อทรัพยากรมีรูปแบบเดียวกันทั่วทั้งองค์กร 
  • อัปเดตรายละเอียดห้องโดยอัตโนมัติ (เช่น เมื่อเพิ่มความจุ ระบบจะเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงฟีเจอร์)
  • ทำให้เข้าใจคุณสมบัติของห้องหรือทรัพยากรต่างๆ ได้อย่างง่ายดายโดยดูจากชื่อ

ชื่อแบบใหม่ที่สร้างขึ้นอัตโนมัตินี้จะแสดงในตำแหน่งต่อไปนี้

รายชื่อผู้เข้าร่วม

ในรายชื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรมในปฏิทิน ชื่อทรัพยากรรูปแบบใหม่ที่สร้างขึ้นอัตโนมัติจะปรากฏแทนชื่อทรัพยากรแบบเก่า

ช่อง "สถานที่" ในเว็บและอุปกรณ์เคลื่อนที่

ในช่อง "สถานที่" ของกิจกรรมในปฏิทิน ชื่อทรัพยากรรูปแบบใหม่ที่สร้างขึ้นอัตโนมัติจะปรากฏแทนชื่อทรัพยากรแบบเก่า

การแจ้งเตือนบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

ในการแจ้งเตือนบนอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือเว็บ ชื่อทรัพยากรรูปแบบใหม่ที่สร้างขึ้นอัตโนมัติจะปรากฏแทนชื่อทรัพยากรแบบเก่า

แปลงทรัพยากร ฟีเจอร์ และอาคาร  

คุณสามารถอัปเดตทรัพยากรได้ 3 วิธีดังนี้

เปลี่ยนทรัพยากรโดยใช้ CSV

หากคุณมีบทบาทผู้ดูแลระบบที่ได้รับมอบหมายสิทธิ์จัดการอาคารและทรัพยากรที่ในบัญชี ให้อัปเดตทรัพยากรในองค์กรด้วยขั้นตอนต่อไปนี้    

ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลดเป็น CSV จากคอนโซลผู้ดูแลระบบ

เริ่มต้นด้วยการดาวน์โหลดข้อมูลทรัพยากรเป็นไฟล์ CSV

  1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google ด้วยบัญชีผู้ดูแลระบบ

    หากไม่ได้ใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ คุณจะเข้าถึงคอนโซลผู้ดูแลระบบไม่ได้

  2. เปิดการจัดการทรัพยากร
  3. คลิกดาวน์โหลด  จากนั้นดาวน์โหลด
  4. บันทึกไฟล์ CSV

ขั้นตอนที่ 2: นำเข้าข้อมูล CSV ไปยังสเปรดชีต  

หลังจากดาวน์โหลดไฟล์ CSV แล้ว ให้นำเข้าไปยังสเปรดชีต 

  1. เปิดสเปรดชีตเปล่าใน Google ชีต แล้วไปที่ไฟล์ > นำเข้า 
  2. ไปที่ไฟล์ CSV ที่ดาวน์โหลดมา แล้วคลิกเลือก 
  3. เลือกตัวเลือกที่ต้องการในหน้าต่างนำเข้า แล้วคลิกนำเข้าข้อมูล

ขั้นตอนที่ 3: แก้ไขทรัพยากรในสเปรดชีต 

ตรวจสอบข้อมูลในสเปรดชีตว่ามีช่องใดว่างเปล่าซึ่งไม่เป็นไปตามที่กำหนดหรือไม่ จากนั้นอัปเดตช่องเหล่านั้นตามที่แนะนำในตารางที่หัวข้อรูปแบบที่จะใช้

หมายเหตุ: ห้ามแก้ไขรหัสทรัพยากร ไม่เช่นนั้นระบบจะสร้างทรัพยากรใหม่ขึ้นแทนที่จะอัปเดตรายการที่มีอยู่ 

แก้ไขสเปรดชีต 

  1. ใช้สเปรดชีตที่สร้างขึ้นในขั้นตอนก่อนหน้านี้
  2. แก้ไขช่องตามต้องการ  

    สำคัญ: หากต้องการระบุฟีเจอร์ในสเปรดชีต คุณจะต้องใช้เครื่องหมาย # นำหน้าชื่อของฟีเจอร์นั้น เช่น #Whiteboard 

  3. เมื่อแก้ไขเสร็จแล้ว ให้บันทึกสเปรดชีตเป็นไฟล์ CSV

ตัวอย่างสเปรดชีต 

รหัสทรัพยากร*

ชื่อทรัพยากร*

หมวดหมู่ทรัพยากร*

ประเภททรัพยากร

ชื่อชั้น*

ความจุ*

รหัสอาคาร*

123 หอประชุม CONFERENCE_ROOM   1 40 81
234 ที่หลบภัยของจามร OTHER เลานจ์ 4 5 82

* ต้องระบุ

คำอธิบายที่ผู้ใช้เห็น

คำอธิบาย

#ไวท์บอร์ด

#โทรศัพท์

  จัดการโดย [email protected] TRUE TRUE
ขอความช่วยเหลือจากจามรเพื่อจอง จัดการโดย [email protected] FALSE FALSE

ขั้นตอนที่ 4: อัปโหลด CSV หลังจากแก้ไข   

หลังจากแก้ไขสเปรดชีตแล้ว คุณก็จะพร้อมอัปโหลดการเปลี่ยนแปลงไปยังปฏิทิน 

  1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google ด้วยบัญชีผู้ดูแลระบบ

    หากไม่ได้ใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ คุณจะเข้าถึงคอนโซลผู้ดูแลระบบไม่ได้

  2. เปิดการจัดการทรัพยากร
  3. ชี้ไปที่เพิ่ม แล้วคลิกอัปโหลด
  4. คลิกแนบ CSV แล้วทำตามข้อความที่แสดงขึ้นเพื่อแนบไฟล์ CSV
  5. คลิกอัปโหลด

รูปแบบที่จะใช้

โปรดใช้รูปแบบต่อไปนี้ในการแก้ไขสเปรดชีต   

รูปแบบสำหรับทรัพยากรทั้งหมด  

ใช้รูปแบบนี้สำหรับทรัพยากรที่สร้างในปฏิทิน 

ชื่อพร็อพเพอร์ตี้ คำอธิบาย ตัวอย่าง
รหัสทรัพยากร*

ตัวระบุห้องที่ไม่ซ้ำกันที่ Google สร้างขึ้นเมื่อสร้างทรัพยากร

(อย่าแก้ไขหรือนำทรัพยากรที่มีอยู่ออก)

28AF38E
ชื่อทรัพยากร*

ชื่อห้องแบบสั้น

(แนะนำให้ใช้อักขระไม่เกิน 45 ตัว)

ห้อง BeeHive
รหัสอาคาร*     รหัสอาคารนี้ต้องตรงกับรหัสอาคารที่กำหนดไว้สำหรับอาคารที่เป็นที่ตั้งของทรัพยากร SF-MAIN
หมวดหมู่ทรัพยากร*

ห้องประชุม: ทรัพยากรที่ใช้ในการนัดพบหรือการประชุมที่อาจเป็นแค่ห้องคุยโทรศัพท์เล็กๆ 

อื่นๆ: ทรัพยากรที่ไม่ได้ใช้สำหรับการประชุม เช่น Jamboard จักรยาน หรือรถของบริษัท

ไม่ทราบหมวดหมู่: ทรัพยากรที่ไม่เป็นไปตามรูปแบบโครงสร้าง

(สำหรับทรัพยากรที่สร้างใหม่ ให้ใช้ "ห้องประชุม" และ "อื่นๆ")

CONFERENCE_ROOM 
ประเภททรัพยากร ช่องข้อมูลที่มีอยู่แล้ว เมื่อตั้งหมวดหมู่ทรัพยากรเป็น "อื่นๆ" ระบบจะเพิ่มช่องนี้ไว้หน้าชื่อที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติเพื่อช่วยแยกทรัพยากรประเภทห้องออกจากทรัพยากรประเภทอื่นๆ และยังช่วยจัดหมวดหมู่ให้กับทรัพยากรประเภทต่างๆ ด้วย เช่น รถจักรยาน รถยนต์ ห้องปั๊มนม หรือกล้องจุลทรรศน์  จักรยาน
ชื่อชั้น*

ชื่อชั้นต้องตรงกับชั้นที่กำหนดไว้ในอาคาร

(จำนวนอักขระสูงสุดที่แนะนำคือ 15 ตัว)

10
ความจุ*     จำนวนคนที่แนะนำสำหรับห้อง ต้องเป็นจำนวนเต็มบวก 4
ส่วนของชั้น

ระบุตำแหน่งห้องบนชั้น

(จำนวนอักขระสูงสุดที่แนะนำคือ 15 ตัว)

คำอธิบายที่ผู้ใช้เห็น คำอธิบายห้องที่ไม่มีรูปแบบตายตัวซึ่งอยู่ในส่วนรายละเอียดของห้องที่ผู้ใช้มองเห็นได้ หมายเหตุ: คําอธิบายนี้จะปรากฏขึ้นขณะจองทรัพยากรเท่านั้น หลังจากเลือกทรัพยากรหรือบันทึกกิจกรรมแล้ว คําอธิบายนี้จะหายไป หมายเลขต่อ #4119
คำอธิบาย คำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับห้องหรือทรัพยากรที่ปรากฏในคอนโซลผู้ดูแลระบบเพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง

สมาชิกทุกคนใน [email protected] มีสิทธิ์จองห้อง

อาคารฝั่งตะวันออก

#ฟีเจอร์

ฟีเจอร์หมายถึงคุณสมบัติหรืออุปกรณ์ของห้องหรือทรัพยากร เช่น

  • ฟีเจอร์ด้านเสียง: #โทรศัพท์
  • ฟีเจอร์ด้านวิดีโอ: #VC #ชุดอุปกรณ์การประชุม Cisco
  • ฟีเจอร์อื่นๆ: #ไวท์บอร์ด #รองรับเก้าอี้รถเข็น #ผู้เข้าร่วมภายนอก
TRUE
ชื่อที่สร้างขึ้นอัตโนมัติ ช่องนี้เป็นข้อมูลแบบอ่านอย่างเดียว ระบบจะสร้างชื่อนี้ขึ้นเมื่อตั้งหมวดหมู่ทรัพยากรเป็น Conference_room หรือ Other SF-MAIN-Beehive Room (4) [VC]

* ต้องระบุ

รูปแบบสำหรับอาคาร 

ใช้รูปแบบนี้สำหรับอาคารที่สร้างในปฏิทิน 

ชื่อพร็อพเพอร์ตี้ คำอธิบาย ตัวอย่าง
รหัสอาคาร* รหัสอาคารนี้ต้องตรงกับรหัสอาคารที่กำหนดไว้สำหรับอาคารนั้น SF-MAIN
ชื่ออาคาร ชื่อที่แสดงสำหรับอาคาร San Francisco HQ
ที่อยู่*   ข้อมูลที่อยู่อาคาร ดูหัวข้อรูปแบบสำหรับที่อยู่อาคาร  678 Lafayette Ave
Suite 2B

Graha Bumi Surabaya Lt. V
Jl. Basuki Rahmat no.106 - 128

雨竜郡秩父別町秩父別4105
 
ชั้น* ควรคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาคและแสดงรายการเรียงลำดับจากล่างขึ้นบน Lobby, M, 2, 3, 4, 5, 5A, 6
คำอธิบาย คำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาคารที่ปรากฏในคอนโซลผู้ดูแลระบบเพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง อาคารฝั่งตะวันออก
พิกัด 

ละติจูดและลองจิจูดของอาคาร 

40.730610,
-73.935242

* ต้องระบุ

จัดการทรัพยากรแบบเดิม

หากคุณตัดสินใจที่จะแปลงทรัพยากรทั้งหมดของคุณให้เป็นทรัพยากรแบบมีโครงสร้าง โปรดปฏิบัติตามแบบแผนการตั้งชื่อทรัพยากรสำหรับทรัพยากรแบบเดิม เพื่อให้ง่ายต่อการระบุและการใช้งาน

ทรัพยากรห้องประชุม

รูปแบบที่แนะนำสำหรับห้องประชุมเป็นดังนี้

[อักษรย่อเมือง]-[อาคาร]-[ชั้น] [ชื่อห้อง] ([ความจุห้อง]) [ฟีเจอร์ระบบเสียงและวิดีโอ]

ตัวอย่าง

NYC-14-12-Boardroom (15) VC

ห้องประชุมนี้อยู่ในนิวยอร์กซิตี้ อาคาร 14 ชั้น 12 ห้องนี้ชื่อ Boardroom สามารถจุคนได้ 15 คนและมีอุปกรณ์สำหรับประชุมผ่านวิดีโอ

ทรัพยากรอื่นๆ

หากต้องการแยกแยะทรัพยากรประเภทอื่นๆ ออกจากห้องประชุม เราขอแนะนำให้ใช้รูปแบบต่อไปนี้

[(ประเภททรัพยากร)]-[อักษรย่อเมือง]-[อาคาร]-[ชั้นหรือตำแหน่ง]-[ฟีเจอร์ระบบเสียงและวิดีโอ]
 

ในรูปแบบนี้ทรัพยากรที่ไม่ใช่ห้องทั้งหมดจะเริ่มต้นด้วย ' ( ' เพื่อไม่ให้ปะปนกับห้องประชุม โดยหลักการแล้วทรัพยากรทั้งหมดที่ไม่ใช่ห้องจะปรากฏท้ายรายการทรัพยากร

ตัวอย่างทรัพยากรที่ไม่ใช่ห้อง คำอธิบาย
(Bike)-London-43-Lobby-Bike-1 จักรยานคันนี้อยู่ในลอนดอนที่ล็อบบี้ของอาคาร 43 จักรยานคันนี้คือ "จักรยาน 1" (ไม่ใช่ "จักรยาน 2" หรือ "จักรยาน 3")
(Vehicle)-LA-Prius-Main-North-4 ยานพาหนะนี้อยู่ในลอสแองเจลิส เป็นรถรุ่นพรีอุส จอดอยู่ที่อาคารหลักในช่องลานจอดรถทิศเหนือ พื้นที่จอด 4

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
15875778020777599084
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73010
false
false
false
false